Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2533








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2533
รำไพ สุขยางค์ "แม้ว่าเครื่องจักรจะดีแต่ถ้าคนไม่ดีก็ไม่มีความหมาย"             
 


   
search resources

รำไพ สุขยางค์
สตรองแพ็ค, บจก.




รำไพ สุขยางค์ เข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท สตรองแพ็ค จำกัด เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2533...นับเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของบริษัทนี้

รำไพ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ แมคคานิค จากประเทศฟิลิปปินส์ จากนั้นก็เหินฟ้ากลับมาเมืองไทยเป็นอาจารย์สอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระหว่างเป็นอาจารย์ก็ได้ใช้เวลาส่วนหนึ่งทำธุรกิจก่อสร้างไปด้วย เมื่อมีก้าวแรกก็ย่อมมีก้าวต่อไป ในที่สุด รำไพก็ต้องอำลาชีวิตข้าราชการซี 6 ไปเปิดกิจการก่อสร้างของตนเองอย่างเป็นล่ำเป็นสัน แต่ดูเหมือนโชคไม่เข้าข้าง เกิดเหตุการณ์ 14 ตุลา ทำให้ราคาวัสดุสินค้าถีบตัวสูงขึ้น กิจการของเขาประสบกับการขาดทุนอย่างหนักจนต้องปิดตัวเองในที่สุด

เมื่อมีล้มก็มีลุก ญาติผู้หนึ่งของรำไพได้แนะนำให้เขาไปสมัครงานที่บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งในครั้งนั้นเขายอมรับว่าไม่เคยรู้จักหน่วยงานนี้มาก่อนเลย เขาเริ่มไต่เต้าจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมธรรมดาที่กล้าพูด กล้าแสดงความคิดเห็น บวกด้วยประสบการณ์ดั้งเดิม เข้าได้ก้าวไปถึงตำแหน่ง "ผู้ชำนาญอาวุโส" ซึ่งมีหน้าที่เป็นที่ปรึกษาแก้ไขปัญหาประดามีของบริษัทที่กู้ยืมเงินของบรรษัทมาลงทุน จึงเป็นโอกาสที่รำไพได้สั่งสมประสบการณ์ทั้งในด้านเทคนิคและการบริหารไว้อย่างมากมาย ในเวลาเกือบสิบปีที่บรรษัททำให้รำไพยอมรับว่าเขามีความผูกพันกับที่นี่มาก

แต่ชะตาของรำไพทำให้เขาต้องเปิดหมวกอำลาจากบรรษัทที่เขารัก เมื่อรำไพต้องเข้าไปเป็นที่ปรึกษาของบริษัทสตรองแพ็ค จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตและรับจ้างผลิตวัสดุเพื่อใช้ในการหีบห่อ โดยมี AB AKERLUND & RAUSING บริษัทในเครือสวีดิชแมชช์ จำกัด จากสวีเดนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งนับแต่ซื้อกิจการนี้มาก็ประสบภาวะการขาดทุนมาตลอด จนบรรษัทต้องส่งทีมกู้ภัยมาช่วยเหลือ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ รำไพ สุขยางค์

ก้าวแรกที่เข้าไป รำไพไม่ได้ไปอย่างผู้รอบรู้ "ผมให้คนที่อยู่มาก่อนสอนผม แล้วค่อยนำความรู้ของเราและของเขามาพัฒนาให้ใช้ร่วมกันได้" จากหลักการนี้ รำไพและทีมงานจึงรู้ว่าปัญหาอยู่ที่ไหน "ช่วงนั้นพนักงานในโรงงานไม่มีประสิทธิภาพ การบริหารก็มีปัญหาทั้ง ๆ ที่ตลาดดีมาก" การแก้ไขจึงพุ่งเป้าไปที่การพัฒนาแมนพาวเวอร์ให้มีคุณภาพ ด้วยการจ้างวิศวกรระดับปริญญาตรีมาเสริมวิศวกรระดับปวช. ปวส. พร้อมกับสร้างความเข้าใจกับวิศวกรให้ถ่ายทอดความรู้ต่อกัน ไม่หวงวิชา เพราะเข้าใจว่าจะทำให้ตนเองหมดความสำคัญลง "ผมให้เขาคิดเสียใหม่ว่า การถ่ายทอดให้คนอื่นทำงานแทนเขาได้ เราก็จะโปรโมทเขาให้รับตำแหน่งที่สูงกว่านี้ได้" นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาคนที่เหมาะสม ด้วยการส่งไปดูงานหรือเข้ารับการอบรมต่าง ๆ เมื่อแก้ปัญหาได้ถูกจุด สถานการณ์ต่าง ๆ ก็ดีขึ้น มิสเตอร์คอร์เนล ลิโอ มาปา กรรมการผู้อำนวยการ ในขณะนั้นเห็นว่ารำไพจะเป็นกำลังสำคัญของสตรองแพ็ค จึงทาบทามให้เขาดำรงตำแหน่งผู้จัดการโรงงาน ซึ่งเขาก็ตกลงรับไว้ แม้ว่าจะอาลัยบรรษัทที่เขาผูกพันมานานนับสิบปี แต่เมื่อถึงวันนี้ เขายอมรับว่านั่นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะในวันนี้เขาได้ก้าวมาถึงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการไทยคนแรก

"แม้ว่าเครื่องจักรจะดี แต่ถ้าคนไม่ดีก็ไม่มีความหมาย" นี่เป็นปรัชญาการทำงานที่รำไพเน้นมาก ด้วยความเชื่อในความสำคัญของคนนี่เอง ที่ทำให้รำไพส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรภายใน เปิดโอกาสให้พนักงานทุกระดับเข้าพบได้ตลอดเวลา และสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม ซึ่งเป็นสิ่งที่รำไพให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะอุปนิสัยกล้าพูด กล้าแสดงความคิดเห็นนี้เองที่ทำให้เขาก้าวมาถึงขั้นนี้

"มาถึงตำแหน่งนี้ไม่มีใครไม่ภูมิใจ แต่ก็ไม่เคยลืมตัวเอง เพราะถือว่าผมก้าวเข้ามาทำหน้าที่ก็ทำไปตามหน้าที่และบทบาทที่ตนได้รับมอบหมายเท่านั้นเอง"...

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us