Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน16 ธันวาคม 2553
ปี 53 ยอดนักท่องเที่ยวโต ททท.ฟุ้งทะลุเป้า 16.4 ล้าน-เผย 4 ปัจจัยลบ             
 


   
search resources

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
Tourism




ททท.ฟุ้ง นักท่องเที่ยวต่างชาติ ทะลุเป้าหมาย ปีหน้าขอโกย 16.4 ล้านคน เผย 4 ปัจจัยลบสำคัญพร้อมรับมือ คือ ค่าเงิน พลังงาน ค่าธรรมเนียมการบิน และ ภัยธรรมชาติ โดยตลาดยุโรป ชูกลยุทธ์ดึงไฮเอนด์ รักษามาร์เก็ตแชร์รายได้ 39% ด้านปลัดฯท่องเที่ยว ชงนโยบายหนุนเมดิคัลฮับ รับกลุ่มประชากรสูงวัยเพิ่ม

วานนี้ (15 ธ.ค.) ภายหลังการประชุมคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการวางแผนการท่องเที่ยวและศูนย์ปฏิบัติการในภาวะวิกฤต (ศวก.) ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมาหารือร่วมกันในการกำหนดยุทธศาสตร์ และวิธีการ กระตุ้นการท่องเที่ยวปี 2554 โดย นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันในแนวทางการปฏิบัติงานการตลาดเชิงรุก เพื่อคงสัดส่วนการเติบโตของนักท่องเที่ยวทั้งจำนวนและรายได้ของปี 2554 ให้เติบโตต่อเนื่องจากปี 2553

ทั้งนี้ พบว่า ปัจจัยลบสำคัญของปีหน้า มี 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.ปัญหาการอ่อนตัวของค่าเงินยูโร และ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ 2.การปรับขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 3.การประกาศใช้นโยบาย แอร์ พาสเซ็นเจอร์ ดิวตี้ ซึ่งไทยจะถูกจัดอยู่ในโซน ซี ที่ นักท่องเที่ยวจากยุโรปจะเดินทางมาประเทศไทยต้องจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินเพิ่มอีกรายละ 30 ยูโร หรือกว่า 1,000 บาท และ4.ปัจจัยที่นอกเหนือการควบคุมในเรื่องของภัยพิบัติธรรมชาติและปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง

โดยตัวเลขสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ รายงานว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยว 11 เดือน แรกปีนี้ 14.03 ล้านคน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.63% ซึ่งเป็นการกลับมาเติบโตอีกครั้ง หลังสิ้นเหตุการณ์วิกฤติทางการเมืองไทย และ ช่วงวันที่ 1-6 ธันวาคม มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ด่านสนามบินสุวรรณภูมิ 205,292 คน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.81% คาดตลอดเดือนจะมี 1.68 ล้านคน เป็นจำนวนที่สูงสุดในประวัติศาสตร์

และเมื่อรวมตลอดปี 2553 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 15.7-15.8 ล้านคน เพิ่มจากปีก่อน 11-12% สร้างรายได้ 5.8-6 แสนล้านบาท เติบโต 14-17% จากปีก่อน จึงเป็นไปได้ที่ ททท.เตรียมเสนอ ต่อที่ประชุมบอร์ดททท. ขอปรับประมาณการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ปี 2554 เป็น 16.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.75% สร้างรายได้ 6.25 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.75%

“การเติบโตดังกล่าวเป้นตัวเลขที่สูงกว่าการเติบโตของจำวนนักนักท่องเที่ยวโลก ที่ องค์การการท่องเที่ยวโลก ระบุว่า 8 เดือนแรก ปีนี้ มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางทั่วโลกรวม 642 ล้านคน เติบโตจากปีก่อน 7% เป็นการเติบโตจากกลุ่มประเทศเกิดใหม่ 8% และจาก กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว 5%”

ด้าน นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการด้านตลาดต่างประเทศ ภูมิภาคยุโรป ททท.กล่าวว่า แผนงานปีหน้า ตลาดยุโรป ต้องป้องกันความเสี่ยง และรักษาตลาดไม่ให้ลดลงจากปีนี้ ด้วยการเร่งบุกตลาดนักท่องเที่ยวไฮเอนด์ พร้อมจัดโรดโชว์ นำผู้ประกอบการไปเสนอสินค้าและบริการโดย สัดส่วนนักท่องเที่ยวจากยุโรป คิดเป็น 28% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนรายได้คิดเป็น 39% ของรายได้จากต่างประเทศ

ด้าน นายสมบัติ คุรุพันธ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (ป.กก.) ในฐานะประธานเปิดการประชุมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์-Medical Tourism Hub (ระหว่างประเทศ) ซึ่งเป็นความร่วมมือ 3 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และ ไทย กล่าวว่า ได้จัดทำแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ เข้าไปอยู่ในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาการ ท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ.2555-2559 โดยจะเสนอต่อที่ประชุม ครม.สัปดาห์หน้า เน้นบริการใน 4 ด้าน คือ 1.การใช้บริการรักษาพยาบาล 2.ด้านส่งเสริมสุขภาพ 3.การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และ 4.สมุนไพร ผลิตภัณฑ์สุขภาพ เพื่อขยายการให้บริการทางการแพทย์/สุขภาพ เป้าหมายสร้างมูลค่าเพิ่ม 0.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) และจากนโยบายดังกล่าวคาดว่าสัดส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวจะมาจากธุรกิจทางการแพทย์ 30% และ 70%จะ เข้าสู่ธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศ ทั้งนี้มองว่าสังคมโลกมีจำนวนประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไทยต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และเริ่มวางยุทธศาสตร์เชิงบูรณาการร่วมกัน ในลักษณะ “รัฐสร้างคน อำนวยความสะดวกต่างๆ เอกชนสร้างตลาด”   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us