Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์16 ธันวาคม 2553
รัฐหนุนละครไทยบุกตลาดจีน เผย 3 ดาราหนุ่มขวัญใจชาวมังกร             
 


   
search resources

TV




รัฐ'ดันละครโทรทัศน์ไทยบุกตลาดจีนหวังสร้างมูลค่าเพิ่มด้าน ‘การท่องเที่ยว-สินค้า-อาหาร-ความบันเทิง-อุตสาหกรรมละครโทรทัศน์ไทย’ เผย 3 อันดับดาราหนุ่มไทยยอดนิยมและเหตุผล ‘ติ้ก-เคน-อั้ม’แรง! ด้านนักแสดงชื่อดังหวั่น ละครโทรทัศน์ไทยเนื้อหาล่อแหลม ขาดการอธิบาย ‘แก้ปัญหาด้วยความรุนแรง-เพศที่3-ริษยา-ตบตี’ ทำประเทศไทยเสื่อม

ละครโทรทัศน์ไทยได้มีโอกาสเข้าไปเผยแพร่ในประเทศจีนมากยิ่งขึ้น และได้รับความนิยมในหมู่ผู้ชมชาวจีนจำนวนมาก แต่การจะส่งออกละครโทรทัศน์ไทยสู่ประเทศจีน หรือต่างประเทศควรคำนึงถึงผลกระทบที่ตามมาในหลายๆ ด้าน

รัฐ'ดันละครไทยบุกจีน

องอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนชาวจีนให้ความสนใจ และนิยมดูละครโทรทัศน์ของประเทศไทยมากขึ้น ถึงขนาดเข้าติดตามรับชมละครโทรทัศน์ไทยผ่านทางอินเทอร์เน็ตทั้งๆ ที่ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องก็ตาม ขณะที่ผู้ประกอบการคนไทยกลับไม่ค่อยได้สนใจที่จะส่งออกละครโทรทัศน์ไทย เพราะคิดว่าการดำเนินการค่อนข้างยุ่งยาก เช่น ไม่รู้ว่าจะไปติดต่อใคร หน่วยงานใดหรือขั้นตอนการดำเนินงานเป็นอย่างไร แต่หลังจากรัฐบาลเข้าพูดคุยเจรจา พร้อมผลักดันให้ผู้ประกอบการเห็นถึงความสำคัญของละครโทรทัศน์ไทยในการไปเผยแพร่ในประเทศจีนก็ทำให้ผู้ประกอบการไทยมีความเข้าใจ และสนใจที่จะส่งออกมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นรัฐบาลจึงเล็งเห็นช่องทางและความสำคัญในการส่งออกละครไทยให้ไปเผยแพร่ยังประเทศจีน จึงได้มีการลงนามความตกลงและความตั้งใจร่วมกันระหว่างสองประเทศขึ้น เพื่อให้เกิดการสนับสนุนและส่งเสริมให้ละครโทรทัศน์ไทย ไปเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ CCTV และสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นตามมณฑลต่างๆ ของจีนมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดีการสนับสนุนให้ละครโทรทัศน์ไทยเข้าฉายในประเทศจีนมากขึ้นจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศไทยในอีกหลายด้าน เช่น การท่องเที่ยว, ธุรกิจการค้า, อาหารไทย, สินค้าไทย เป็นต้น รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมละครโทรทัศน์และธุรกิจทางด้านความบันเทิงของประเทศไทยให้มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นอีกด้วย

“ถ้าชาวจีนได้ดูละครโทรทัศน์ไทยแล้วเกิดความประทับใจ อยากเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยตามสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในละคร หรือสนใจอยากรับประทานอาหารไทย หรือแม้แต่เรื่องธุรกิจการค้า สินค้าไทยก็จะได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น เป็นมูลค่าเพิ่มที่ได้จากการเผยแพร่ละครโทรทัศน์สู่ประเทศจีนทั้งนั้น”

ส่วนเหตุผลที่ละครโทรทัศน์ไทยได้รับผลตอบรับจากผู้ชมชาวจีนมีองค์ประกอบหลักๆ ดังนี้คือ1.ดาราหรือนักแสดงชาวไทยหน้าตาดี 2.เนื้อเรื่องของละครไทยสอดคล้องกับรสนิยมของชาวจีน 3.งานโปรดักชั่นของละครโทรทัศน์ไทยมีการพัฒนาจนน่าสนใจ น่าติดตาม รวมถึงกระบวนการผลิตละครที่มีการลงทุนและมีคุณภาพอีกด้วย

ละครแย่ทำไทยเสื่อม

ศตวรรษ เศรษฐกร เต๊ะนักแสดงคนไทยที่ไปโด่งดังและเล่นละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ในประเทศจีนกว่า10 ปี กล่าวว่าสมัยก่อนละครโทรทัศน์ไทยถ่ายทำขึ้น เพื่อคนไทย ซึ่งในบางฉากก็เกินจริง แต่คนไทยก็เข้าใจ เพราะรู้ว่าเป็นเพียงการแสดง เพื่อความบันเทิงเท่านั้น รับชมมาตั้งแต่เด็ก และทราบว่าไม่ได้เป็นวิถีชีวิตของคนไทยจริงๆ เช่น ละครโทรทัศน์ไทยที่มีเนื้อหาตบจูบ ความรุนแรง การแย่งชิงผู้ชาย เพศที่3 เป็นต้น

แต่เมื่อละครโทรทัศน์ไทยเริ่มส่งออกฉาย เพื่อเผยแพร่สู่ต่างชาติ รวมถึงประเทศจีน ซึ่งคนต่างชาติและคนจีนไม่ทราบถึงวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่แท้จริงของคนไทย ทั้งยังขาดการอธิบายและบอกกล่าวถึงข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ก็จะส่งผลให้ผู้ชมบางกลุ่มเกิดความเข้าใจผิด และคิดว่าวิถีชีวิตของคนไทยเป็นอย่างนั้น เพราะละครโทรทัศน์ไทยจะเป็นสื่อที่สำคัญในการแสดงออกและส่งออกถึงวัฒนธรรม วิถีชีวิตของคนไทยได้เป็นอย่างดี

ศตวรรษ ย้ำว่า กระแสละครโทรทัศน์ไทยเริ่มเข้าสู่ประเทศจีนมากขึ้น และเป็นเหมือนดาบสองคม ถ้าเราเสนอในทางที่ดี หรือทางที่ถูกต้อง ตามวิถีชีวิตของคนไทยจริงๆ ก็จะทำให้ผู้ชมรับรู้และเข้าใจความเป็นอยู่ของคนไทยได้ถูกต้อง แต่ถ้านำเสนอความรุนแรง ส่งออกวัฒนธรรม หรือวิถีชีวิตของคนไทยแบบผิดๆ ก็จะทำให้เข้าใจผิด เช่น การชิงดีชิงเด่น ตบตี ใช้ความรุนแรง เพื่อแย่งผู้ชายคนเดียวกัน พอต่างชาติรับชมก็จะคิดว่าอันนี้เป็นวิธีแก้ปัญหาของคนไทยใช่หรือไม่ ซึ่งไม่ต่างกับการที่เราดูหนังฝรั่งที่คนผิวดำเล่นบทไม่ดี เราก็จะเกิดความกลัว ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วไม่ใช่ แต่นี่เป็นอิทธิพลจากสื่อ ซึ่งกลับกันถ้าหากละครโทรทัศน์ที่ฉายในประเทศไทยเรื่องใดมีกระแสออกมาในด้านไม่ดี ก็อาจมีการสัมภาษณ์ ผู้กำกับ ดารา นักแสดง เพื่ออธิบายให้ความเข้าใจมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นควรมีองค์กร หรือหน่วยงานคัดเลือก หรือคัดกรองก่อนส่งออกฉายยังต่างประเทศ เพื่อเป็นแนวทาง ไม่ใช่แค่ละครโทรทัศน์ไทยเรื่องนี้ดังในประเทศ แล้วก็จะนำส่งออกเพียงอย่างเดียว แต่ไม่อยากให้มองเพียงแค่ผลประโยชน์ หรือรายได้เพียงอย่างเดียว เพราะการส่งออกละครโทรทัศน์ต้องรวมถึงความรับผิดชอบต่อการนำเสนอด้วย

จีนฮิต 'ละครบันเทิง'

วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ ผู้เชี่ยวชาญในวงการภาษาและวัฒนธรรมจีนมากว่า 20 ปี กล่าวว่าในอดีตประเทศจีนนำเข้าละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ จากประเทศที่มีการปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์ เช่น รัสเซีย, โรมาเนีย, เชคโกสโลวาเกีย เป็นต้น ซึ่งจะมีเนื้อหาหนักๆ และให้สาระความรู้เสียเป็นส่วนใหญ่

แต่ภายหลังจากที่ประเทศจีนเปิดประเทศได้ไม่นานก็ได้นำเข้าละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์จากหลายๆ ประเทศเข้ามาฉายมากยิ่งขึ้น เช่น เกาหลี, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, ไทย เป็นต้น ซึ่งได้มีการจำกัดไม่ให้นำเข้าละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการเมือง, ศาสนา, ผี เข้ามาเผยแพร่

“ผลจากการเปิดประเทศของจีน จึงทำให้ละครหลายเรื่องออกฉายในขณะนั้น เช่น เรื่องสงครามชีวิตโอชิน, แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง, วัลลี ลูกกตัญญู เป็นต้น”

ปัจจุบันละครโทรทัศน์ของประเทศเกาหลีได้รับความนิยมในหมู่ชาวจีน และมีจำนวนฉายในช่องโทรทัศน์จีนมากกว่าประเทศอื่น เนื่องจากประเทศเกาหลีและประเทศจีนมีรากฐานทางวัฒนธรรมเดียวกัน เช่น ยึดหลักแนวคิดของขงจื่อ, การแพทย์, ประเพณีต่างๆ ฯลฯ ส่วนละครโทรทัศน์ไทยนั้นยังมีจำนวนไม่มากนักเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

กระแสละครไทยแรง

หลี่ หมิน คนจีนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ละครโทรทัศน์ไทย กล่าวว่าละครโทรทัศน์ไทยที่ฉายในประเทศจีนแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ1.ทางสถานีโทรทัศน์กลางของประเทศจีน หรือซีซีทีวี และสถานีโทรทัศน์ของมณฑลต่างๆ อย่างซีซีทีวีช่อง8 จะฉายละครไทยประมาณปีละ 1-2 เรื่อง ออกอากาศประมาณครั้งละ 2 ชั่วโมง 2.ทางอินเตอร์เน็ตจะมีละครโทรทัศน์ไทยให้เลือกดูเยอะมากและเป็นที่นิยมจากแฟนละครชาวจีนเป็นอย่างมาก เช่นที่เว็บ
http://baike.baidu.com

โดยตั้งแต่ปี 2008 กระแสความนิยมของละครโทรทัศน์ไทยแซงหน้าละครเกาหลีและญี่ปุ่น เนื่องจากละครโทรทัศน์เกาหลี และละครโทรทัศน์ญี่ปุ่นเริ่มเข้ามาในประเทศจีนตั้งแต่ 10-20 ปีก่อน จึงทำให้คนจีนเริ่มจะเบื่อๆ และหันมาให้ความสนใจละครโทรทัศน์ไทยมากยิ่งขึ้น

หลี่ หมิน บอกว่า จากข้อมูลการสำรวจความนิยมละครโทรทัศน์ จากรายการแห่งหนึ่งในประเทศจีนพบว่ามีผู้โหวตให้ละครโทรทัศน์เกาหลีและละครโทรทัศน์ญี่ปุ่นพอๆ กันคือ จำนวน 2,000 กว่าคะแนน แต่ละครโทรทัศน์ไทยกลับมีผลโหวตมากถึง 8,000 กว่าคะแนน โดยให้เหตุผลสนับสนุนชอบดูละครโทรทัศน์ไทย เพราะชอบบรรยากาศที่แตกต่างออกไป ดูแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่น โรแมนติก สนุกสนาน กุ๊กกิ๊ก น่ารัก รวมถึงตัวนักแสดงของคนไทยเป็นหนุ่มหล่อสาวสวยที่เป็นลูกครึ่ง ซึ่งละครของประเทศอื่นไม่มี

นอกจากนี้ยังมีเหตุผลที่คนจีนนิยมดูละครโทรทัศน์ไทยก็คือ ละครโทรทัศน์ไทยมีความแตกต่างจากที่เคยดู ทั้งยังมีมุมกล้องที่สวยงาม นักแสดงหน้าตาดี มีฉากทะเลสวย รวมไปถึงเนื้อเรื่องที่สะท้อนประเพณีไทย อย่างงานแต่งงาน งานศพชัดเจน วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย เช่น คนรวยในหนังอยู่บ้านหลังใหญ่สวยงาม นั่งรถหรู ดูแล้วเหมือนเข้าไปสู่ความฝันที่ทำให้เรามีความสุขได้

“ถ้ามีการนำเข้าละครโทรทัศน์ไทยที่มีแนวเรื่องซ้ำๆ เดิม โดยเฉพาะสไตล์ริษยา แย่งผู้ชาย ดำเนินเรื่องที่ยืดเยื้อออกฉายบ่อยๆ ก็จะทำให้ผู้ชมชาวจีนเกิดความเบื่อ และสามารถเดาเรื่องราว และตอนจบได้ รวมถึงละครที่วางเรื่องไม่แนบเนียน ไม่สมเหตุสมผลก็จะทำให้ไม่น่าดู ไม่น่าสนใจ ซึ่งเท่าที่ทราบมาเห็นว่าละครไทยมีหลากหลายแนวที่ยังไม่ได้นำมาฉายยังประเทศจีน จึงอยากให้มีการนำเข้าละครไทยหลาย ๆ แนว”

3 อันดับดาราหนุ่มยอมนิยม

สำหรับดารานักแสดงก็เป็นส่วนสำคัญมากที่ทำให้ละครโทรทัศน์ไทยน่าติดตามยิ่งขึ้น เช่น หน้าตาหล่อ และหน้าตาสวย ถ้าแสดงดีด้วยก็จะทำให้คนดูยิ่งติดละครโทรทัศน์เรื่องนั้นมากยิ่งขึ้น โดยชาวจีนที่เป็นแฟนละครโทรทัศน์ไทยได้โหวตจัดอันดับให้ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดีได้รับความนิยมมาที่ 1 เนื่องจากหุ่นดีและหน้าตาหล่อไม่มีที่ติ โดยเฉพาะในเครื่องแบบทหารดูสง่างาม ภูมิฐาน ทั้งยังมีอารมณ์ขัน มีเสน่ห์ดึงดูด ฯลฯ นอกจากนี้แฟนชาวจีนยังดูไกลไปถึงคุณแม่ของติ๊ก ซึ่งมีเชื้อสายจีนด้วย

ส่วนอันดับ 2 คือ เคน ธีรเดช วงค์พัวพันธ์ เนื่องจากเคนเป็นนักแสดงที่มากด้วยฝีมือ ทั้งยังเป็นสุภาพบุรุษ รักครอบครัว เป็นผู้ชายที่ดี เป็นสามีที่ดี จริงใจ ให้เกียรติภรรยา ซึ่งเขาสามารถดึงดูดแฟนคลับที่ไม่ได้ชอบดาราเฉพาะหน้าตาเพียงอย่างเดียวได้ แต่ชอบที่ตัวตนของคนคนนั้น

อันดับ 3 คืออั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์, เป็นคนหุ่นดีที่พบยากในชายเอเชีย เพราะมีกล้ามเนื้อแขนส่วนบนใหญ่กว่าหน้าอก โดยแฟนๆ ส่วนมากจะติดเขาจากเรื่องจำเลยรักที่มีทั้งฉาก วิ่ง ว่ายน้ำ ขับรถ ขับเรือง ดูเท่ห์

“ละครโทรทัศน์ไทยที่ดูผ่านอินเทอร์เน็ตจีนจะมีอาสาสมัครคอยแปลเป็นภาษาจีน และภาษาอังกฤษ เพราะบางคนเก่งอังกฤษและเก่งภาษาไทย หรือบางเรื่องก็มีหลายภาษา รวมไปถึงมีแฟนคลับจำนวนหลายท่านอยากเรียนภาษาไทยเพื่อดูละครที่ติ๊กเล่น หรือมีบางคนลงทุนนั่งเครื่องบินไปหาถึงกองถ่ายที่เมืองไทย เพื่อได้เจอตัวจริงกันเลย”หลี่ หมิน ระบุ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us