|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
งานการตลาดของธุรกิจเบียร์ยังคงมีชีวิตชีวา จากการที่ทีมงานการตลาดพยายามสร้างนวัตกรรมของกิจกรรมการตลาดใหม่ๆ ออกมาสื่อสารกับนักดื่มเป็นช่วงๆ
ในบรรดาเบียร์ชั้นนำระดับโลก แบรนด์ไฮเนเก้นเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับการชื่นชมว่ามีความสามารถในการเสริมสร้างคุณค่าของแบรนด์ไว้ได้ดี แม้ว่าจะเป็นแบรนด์ที่มีอายุเก่าแก่เป็นร้อยปีก็ตาม
ผู้บริหารการตลาดของแบรนด์ไฮเนเก้นให้เหตุผลว่า การที่ทีมงานการตลาดของไฮเนเก้นอยู่นิ่งๆ เฉยๆ ไม่ได้ ก็เพราะว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เป็นนักดื่มเบียร์ทุกวันนี้ไม่เหมือนกับวันก่อน
นักดื่มเบียร์ทุกวันนี้ เบื่อง่าย และพยายามแสวงหารสชาติหรือลิ้มลองเบียร์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ขณะที่ตัวสินค้าไฮเนเก้นเอง แทบจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเมื่อ146 ปีก่อนแม้แต่น้อย
สิ่งที่งานการตลาดของไฮเนเก้นต้องทำการบ้านกันอย่างหนักคือ การหาทางสร้างนวัตกรรมและคุณค่าเพิ่มให้กับแบรนด์ในระหว่างที่กำลังมีประสบการณ์ในการดื่มเบียร์ โดยนวัตกรรมที่สำคัญของการเสริมสร้างแบรนด์ไฮเนเก้น คือ การทำให้ไฮเนเก้นเป็นเบียร์ที่ทันยุคทันสมัย และรักษาตำแหน่งทางการตลาดในระดับแบรนด์ชั้นนำของยุโรป
นอกเหนือจากการอยากลิ้มรสชาติเบียร์ใหม่ๆ แปลกๆ แล้ว นักดื่มเบียร์ยุคใหม่ยังมีการแบ่งแยกพฤติกรรมออกเป็นกลุ่มย่อยๆ ที่หลากหลายมากขึ้นกว่ารุ่นเก่าๆ จากการที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแต่ละวันในยามพักผ่อน สังสรรค์ที่แตกต่างกันออกไป
นักดื่มเบียร์บางคนใช้เบียร์เป็นเครื่องดื่มในระหว่างการหยุดพักผ่อน ด้วยการนั่งดูรายการทีวีเป็นชั่วโมงๆ นักดื่มบางคนใช้เวลาเกือบจะทั้งชีวิตที่มีเวลาว่างในการอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ต จนแทบจะไม่รู้เลยว่าโลกแห่งความเป็นจริงเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร
การสื่อสารกับกลุ่มคนแต่ละกลุ่มจึงต้องหาช่องทางที่คนเหล่านี้ยินดีเปิดรับเท่านั้น จึงจะสามารถเจาะเข้าไปถึงกลุ่มลูกค้าแปลกแยกของไฮเนเก้นได้ครบถ้วนทุกกลุ่ม การสื่อสารทางการตลาดของไฮเนเก้นจึงเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแบบไม่มีทางเลือกด้วย
แนวทางการเปลี่ยนแปลงงานการสื่อสารทางการตลาดที่สำคัญของไฮเนเก้น ได้เพิ่มความเป็นดิจิตอลมากขึ้นจากเดิมอย่างชัดเจน
ประการแรก ไฮเนเก้นได้เริ่มปรับการจำหน่ายจากการจำหน่ายเป็นหีบห่อเดี่ยวๆ มาเป็นแพกเกจของการจำหน่ายเบียร์แทน และให้มีความหลากหลายของรสชาติในแพ็กหนึ่งๆ มากขึ้น และเลือกได้ตามความต้องการของลูกค้า ไม่ได้แพ็กแบบตายตัวแบบใดแบบหนึ่งเท่านั้น
ประการที่สอง ในการจำหน่ายสินค้าเป็นแพ็กดังกล่าว ไฮเนเก้นได้เปลี่ยนขวดเบียร์สีเขียวๆ แบบเดิม มาเป็นแบบที่ลูกค้าแต่ละรายสามารถจะทำการ “ออกแบบได้เอง” แถมยังจารึกชื่อ-รูปภาพเจ้าของขวดไว้ได้อีกด้วย
ในการดำเนินการดังกล่าว ในเว็บไซต์ของไฮเนเก้นจะมีให้เลือกออกแบบขวดเบียร์แบบ “Limited Edition” สามารถเลือกได้มากถึง 42 ลวดลายจาก 7 หัวข้อ
เมื่อเลือกลายได้แล้ว จะมีให้กรอกรายละเอียดของเจ้าของขวดไฮเนเก้น ทั้งรูปภาพ-ข้อความ ได้ทั้งด้านหน้า-หลังตามใจชอบ โดยระดับราคาทั้งหมดอยู่ที่ 29.99 ยูโรใน 1 แพกเกจ ซึ่งจะมีให้ 6 ขวดด้วยกัน
นอกจากนั้น ไฮเนเก้นยังออกแบบขวดเป็นอะลูมิเนียมที่สามารถมองเห็นได้ในความมืด เป็นประกายสีเงินหรือเป็นแสงแบบแบล็กไลต์นั่นเอง เพื่อเจาะตลาดลูกค้าที่ดื่มเบียร์ตามไนต์คลับด้วย
โดยการปรับเพิ่มขวดเบียร์เรืองแสงนี้เพิ่งดำเนินการในตลาดสหรัฐฯ เป็นตลาดแรก โดยเรียกว่าขวดแบบ STR
ประการที่สาม ไฮเนเก้นมีการสร้างเฟซบุ๊ก เพจ เพื่อสื่อสารการตลาดผ่านลูกค้าเป้าหมายที่เป็นสมาชิกของสื่อสังคมออนไลน์ เป็นแนวทางของการสร้างดิจิตอล เอเยนซี ไว้ใช้ในการจัดแคมเปญทางการตลาดบนโลกออนไลน์ได้อย่างเต็มที่ โดยกลุ่มเป้าหมายของตลาดนี้คือคนที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป
ประการที่สี่ ไฮเนเก้นเริ่มนำร่องด้วยการโฆษณาผ่านไอแพด เป็นการออกแบบจอสัมผัสในชื่อ Minority-Report-Style เพื่อตอบโต้กับงานโฆษณาแบบอินเตอร์แอกทีฟ พร้อมกับใช้การสื่อสารการตลาดผ่านระบบโมบาย เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้ทุกสถานที่ ทุกเวลา และแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่จำหน่ายของเบียร์ไฮเนเก้น
ด้วยความที่ใส่ใจกับการเสริมสร้างแบรนด์มากขนาดนี้ ทำให้ไฮเนเก้นเป็นแบรนด์ที่ติดอันดับ 3 บนสังคมเฟซบุ๊ก และช่วยรักษาอัตราการเติบโตทางการตลาดของไฮเนเก้นได้อย่างต่อเนื่อง
ในช่วงเวลาสั้นๆ ต่อจากนี้ ทีมงานการตลาดของไฮเนเก้นมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับการพัฒนางานตลาดกับกลุ่มลูกค้าในยุโรปและสหรัฐฯ เป็นสำคัญต่อไป เนื่องจากเป็นตลาดส่วนที่มีความอ่อนตัวของการเติบโตและรายจ่ายในการดื่มเบียร์
ในขณะที่การเติบโตของตลาดย่านละตินอเมริกา แอฟริกา และเอเชียยังคงไปได้ดี แม้ว่ายอดการจำหน่ายอาจจะมีผลกระทบทางลบจากการที่ไฮเนเก้นปรับเพิ่มราคาขายต่อหน่วยไปเมื่อช่วงต้นปีนี้ก็ตาม
ในส่วนของการพัฒนาและเสริมสร้างแบรนด์ไฮเนเก้นนั้น คาดว่าจะยังมีการลงทุนในส่วนนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อให้อัตราการเติบโตของธุรกิจไม่ตกลงจากเดิม
|
|
 |
|
|