โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ยังเหนียวแน่นรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม คว้า 13 รางวัลจากทั้งหมด 27 รางวัล โดยรางวัลในปีนี้มีความพิเศษตรงที่การขยายประเภทรางวัลกลุ่มผลิตภัณฑ์ยอดนิยมเพิ่มเติมอีก 4 กลุ่มให้ละเอียดมากขึ้น เพื่อสอดรับกับสภาพตลาดยานยนต์ปัจจุบันที่มีความซับซ้อน โดยเพิ่มรางวัลสำหรับรถยนต์นั่งระดับหรูหรา ขนาดกลางใหญ่ รถยนต์แฮตช์แบ็ก และเซกเมนต์สำหรับรถยนต์แรกเข้าตลาด รวมถึงรางวัลด้านผู้ใช้รถฟรีต (Fleet) หรือรถยนต์ที่ขายยกล็อตคราวละมากๆ

สำหรับผลรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม หรือ Thailand Automotive Quality Award (TAQA) ในปีนี้นั้น โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้รับคะแนนจากผู้ใช้รถเป็นอันดับ 1 ตั้งแต่ประเภทด้านการขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ขนาด 1 ตัน, รางวัลด้านบริการหลังการขายในประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถเพื่อการพาณิชย์ขนาด 1 ตัน

ด้านผลิตภัณฑ์ โตโยต้าฯ ได้รางวัลในประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเล็ก รถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดกลางเล็ก และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดกลางใหญ่ รวมถึงรางวัลประเภทรถเพื่อการพาณิชย์ตั้งแต่ขนาด 1 ตันแบบ 2 ประตู ขับเคลื่อน 2 ล้อ ประเภทเพื่อการพาณิชย์ขนาด 1 ตัน แบบ 2 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ และรถเพื่อการพาณิชย์ขนาด 1 ตัน แบบ 4 ประตู นอกจากนี้ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ยังได้รับการโหวตเป็นอับดับ 1 ของรถประเภทกิจกรรมกลางแจ้งอีกด้วย

ส่วนในหมวดธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม ด้านผลิตภัณฑ์นั้น ยังมีผู้ผลิตรถยนต์อื่นๆ ได้รางวัลด้วยได้แก่ รถยนต์นิสสัน มาร์ช ได้รางวัลประเภท Pre-Entry, รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีคลาส ได้รางวัลประเภทรถหรูนั่งขนาดกลางใหญ่, บีเอ็มดับเบิลยู ได้รางวัลประเภทรถยนต์หรูหรา และฮอนด้า ฟรีต ได้รางวัลจากประเภทรถยนต์อเนกประสงค์

นอกจากนี้บีเอ็มดับเบิลยู ยังได้รางวัลด้านความพึงพอใจต่อผลิตภัณฑ์ในกลุ่มฟลีต ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลระดับหรูด้วย รวมถึงรางวัลยอดนิยมด้านภาพลักษณ์แบรนด์ ประเภทออกแบบอีกด้วย เมอร์เซเดส-เบนซ์ นั้น ได้รางวัลประเภทความปลอดภัย แบรนด์ฮอนด้านั้นได้รางวัลจากประเภทนวัตกรรม และสมรรถนะ และรางวัลดภาพลักษณ์ในเรื่องความประหยัดเป็นของค่ายอีซูซุ

กลุ่มสุดท้ายนั้น เป็นรางวัลยอดนิยมด้านผลิตภัณฑ์ประกอบการใช้รถยนต์ ทั้งประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง สถานีบริการน้ำมันตกเป็นของ ปตท. ส่วรประเภทยางได้แก่ ค่ายบริดจสโตน และประเภทฟิล์มกรองแสงคือ ลามิน่า

สุกิจ ตันสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คัสตอมเอเชีย จำกัด บอกว่า ปีนี้ค่ายรถต่างๆ ได้คะแนนใกล้เคียงสูสีกันทุกประเภท สะท้อนให้เห็นว่าตลาดยานยนต์ไทยมีการแข่งขันกันสูงมากในแง่ของการเร่งฝีเท้าเพื่อปรับปรุง พัฒนาเทคโนโลยี คุณภาพผลิตภัณฑ์ และการบริการ เพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ผู้บริโภค จุดนี้นอกจากจะช่วยให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยก้าวไปข้างหน้าแล้ว ผลประโยชน์ยังตกกับผู้บริโภคที่ได้รับการตอบสนองความต้องการอย่างเต็มที่

รางวัล TAQA ในปีนี้ ได้เก็บสำรวจความเห็นจากผู้ใช้รถตัวจริงที่มีต่อบริษัทรถยนต์ต่างๆ ทั่วประเทศใน 76 จังหวัด รวมเกือบ 7,000 ตัวอย่าง ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน 2553 ที่ผ่านมา นับเป็นกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในการสำรวจด้านนี้ในประเทศไทย

ทั้งนี้ การสำรวจดังกล่าวทำให้สรุปผลการศึกษาได้ว่า ปัจจัยประการสำคัญที่ทำให้ความต้องการซื้อรถยนต์ประเภทรถยนต์นั่งขนาดเล็ก มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ซื้อรถใหม่ การที่มีผู้ประกอบการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็กเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้ซื้อมีทางเลือก และถือเป็นโอกาสของผู้ซื้อ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาแม้จะมีความต้องการก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถหาซื้อใช้ได้เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องราคา ทำให้ต้องหันไปซื้อรถปิกอัพ ที่สามารถใช้งานได้ทั้งบรรทุกสัมภาระ และโดยสาร ที่ให้ประโยชน์ทดแทนกันได้กับรถยนต์นั่งด้วยราคาที่ถูกกว่า

นอกจากนี้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น แม้จะไม่เป็นไปอย่างรุนแรง แต่การรณรงค์ในเรื่องการประหยัดน้ำมันของทั้งภาครัฐและเอกชน ก็ทำให้ผู้บริโภคหันไปใช้รถยนต์นั่งขนาดเล็ก ที่สำคัญการตัดสินใจส่วนหนึ่งเป็นเพราะรถยนต์ขนาดเล็กหาที่จอดได้ง่าย และราคาไม่แพงนั่นเอง