Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2533








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2533
บางปูกว่าจะฟื้นก็หืดขึ้นคอ             
 


   
search resources

นิคมอุตสาหกรรมบางปู
Real Estate




สมัยที่อื้อจือเหลียงยังมีชีวิตอยู่ เขากว้านซื้อที่ดินแถบบางปูเป็นจำนวนมาก โดยตั้งใจที่จะทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยว สวนสนุก และส่วนหนึ่งได้บริจาคให้กับสภากาชาดไทย สร้างเป็นบ้านพักคนชราสวางคนิวาส แต่เมื่อเขาสิ้นชีวิตลงในปี 2517 ที่ดินผืนดังกล่าวกลับตกเป็นของธนาคารศรีนคร แทนที่จะเป็นของทายาทอื้อจือเหลียง!!!

ออกจะเป็นเรื่องล้ำสมัยเป็นอย่างมากที่ในเวลาต่อมาอุเทนตัดสินใจใช้พื้นที่ดังกล่าวจำนวน 10,000 ไร่มาจัดสรรเป็น "นิคมอุตสาหกรรมบางปู" ในนามของ "บริษัทพัฒนาที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรมประเทศไทย จำกัด" เพราะสมัยนั้นมีคนคิดลงทุนธุรกิจด้านนี้น้อยมาก และเป็นของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเกือบทั้งหมดมากกว่าที่จะเป็นของเอกชน

แต่การที่ธุรกิจพัฒนาที่ดินประเภทนี้ยังเป็นของใหม่ อุตสาหกรรมในช่วงนั้นยังไม่เติบโต นิคมอุตสาหกรรมบางปูจึงกลายเป็นภาระสำหรับศรีนครไป

"ช่วงแรกยังไม่มีการวางผังนิคมให้ชัดเจน มีโรงงานที่เป็นลูกค้าของธนาคารมาอยู่ได้สัก 5-6 แห่ง แต่อยู่กันคนละทิศคนละทาง ก็เลยลำบากในการจัดสาธารณูปโภค ถนนก็ขรุขระ น้ำ ไฟฟ้าก็ไม่เพียงพอ คนงานที่ไปอยู่ที่นั่นก็โวยวาย" แหล่งข่าวกล่าว

จากยอดขายที่รวบรวมได้คือ ปี 2517 ขายได้ 7 แสนกว่าบาท ปี 2518 ขายได้ 3 ล้านกว่าบาท ปี 2519 ขายได้น้อยมาก ปี 2520 ขายได้ 1 ล้าน 4 แสนบาท ปี 2521 ขายได้ 4 ล้าน 6 แสนบาท จะเห็นได้ว่านิคมอุตสาหกรรมมียอดขายที่ต่ำมากๆ

ใครบางคนบอกว่า นิคมอุตสาหกรรมบางปูกลายเป็นบ่อน้ำที่คนเตชะไพบูลย์ดำลงไปแบบอึดแล้วอึดอีกจนหน้าเขียว!

ประมาณ 2527-2528 นิคมอุตสาหกรรมมีหนี้อยู่ที่ศรีนครประมาณ 800 ล้านบาท พร้อมที่ดินที่ยังขายไม่ออกอีกบานเบอะ

นิพิธ โอสถานนท์ สามีของสุกัญญา เตชะไพบูลย์ ลูกสาวคนที่สองของอุเทน เขาเป็นเขยเตชะไพบูลย์ที่ต้องมารับหน้าที่เป็นกรรมการผู้จัดการที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู นิพิธเคยทำธุรกิจเรือเดินทะเล แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก คนรอบข้างเขากล่าวถึงนิพิธว่าเป็นคนที่สุภาพมาก ฉลาด แต่ไม่ค่อยกล้าตัดสินใจ ซึ่งก็อาจเป็นเพราะธุรกิจที่ลูกเขยทำให้พ่อตานั้นไม่ค่อยสดใสเอาเสียเลย จึงพูดไม่ค่อยออก แล้วแต่ทางอุเทนและวิเชียรจะตัดสินใจอย่างไร

วีระชัย วรรณึกกุล ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการขณะนั้นเสนอให้ตัดเนื้อร้ายนี้ทิ้งด้วยการขายที่ดินทั้งหมดในราคา 700 ล้าน ยอมขาดทุนประมาณ 100 ล้าน แต่เตชะไพบูลย์ยอมอึดต่อ หรือไม่ก็ไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี

แต่เหมือนโชคช่วย ธุรกิจพัฒนาที่ดินกลับมาคึกคักอีกครั้ง นิคมอุตสาหกรรมกลายเป็นธุรกิจอีกด้านหนึ่งที่คนแข่งกันเปิดมากมายจนล่าสุดมีถึง 17 แห่ง เพื่อต้อนรับโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมากที่กำลังเปิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

โชคดีกลับมาหาเตชะไพบูลย์อีกครั้ง!

เพียงชั่วสามสี่ปี นิคมอุตสาหกรรมบางปูสามารถขายได้หมดเกลี้ยง เฉพาะปี 2530 ขายได้ถึง 500 ล้านและยังแบ่งที่ดินออกมาทำบางปูคันทรีคลับต่ออีกด้วย

วิเชียรกล่าวว่า จากหนี้ที่มีอยู่ประมาณ 800 กว่าล้าน ปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณ 300 กว่าล้าน ซึ่งคาดว่าไม่มีปัญหาเพราะทรัพย์สินนั้นเกินคุ้ม ทั้งยังจะขยายในส่วนพาณิชย์ออกไปอีก 2,000 ไร่อีกด้วย

แบบนี้ไม่เรียกว่าเฮงแล้วจะเรียกว่าอะไร!

บทเรียนที่ได้จากนิคมอุตสาหกรรมบางปูสำหรับคนเตชะไพบูลย์ก็คือ บางทีการตัดสินใจช้าๆ หรือปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามสถานการณ์ มันก็เป็นคุณได้เหมือนกัน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us