"แต้โหงวเล้า" หรือ อุเทน เตชะไพบูลย์ ถือกำเนิดจากอำเภอเตี้ยเอี้ย
มณฑลกวางเจา เป็นลูกชายคนโตของ "แต้จือปิง" ที่เกิดจากภรรยาเมืองจีน
ในวัยเยาว์นั้นอุเทนได้รับการศึกษาอย่างดีทั้งภาษาไทย จีน และอังกฤษ เขาสำเร็จการศึกษามัธยม
6 จากโรงเรียนอัสสัมชัญธุรกิจ ก่อนที่จะออกมาสู่โลกธุรกิจอย่างเต็มตัว
อุเทนเป็นคนที่นอกจากจะเป็นผู้ที่จัดได้ว่าปราดเปรื่องอย่างมากในวงการค้าแล้ว
กิตติศัพท์ความเป็น "นักรัก" ของเขาก็ลือลั่นไม่น้อย (กล่าวกันว่าคุณสมบัติความเป็น
"นักรัก" นี้มีอยู่ในสายเลือดของเตชะไพบูลย์หลายคนทีเดียว) อันที่จริงเรื่องนี้ค่อนข้างจะเป็นเรื่องส่วนตัวของ
"เจ้าสัวอุเทน" แต่บางครั้งการจะเข้าใจพฤติกรรมการตัดสินใจบางประการในทางธุรกิจแล้ว
ความเป็นไปในเรื่องครอบครัวก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เพราะบางครั้งมันก็เป็นเรื่องที่แยกกันไม่ออก!
เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า อุเทน เตชะไพบูลย์ มีภรรยาเท่าที่เปิดเผย
3 คน
คนแรกเป็นภรรยาจากเมืองจีน ชื่อไทยคือ "สุวรรณา" แต่คนเรียกกันในนาม
"ซ้อใหญ่"
ตามธรรมเนียมจีนผู้หญิงแทบจะไม่มีบทบาทแต่อย่างใดในตระกูล ซึ่งซ้อใหญ่ก็เช่นเดียวกันกับกฎเกณฑ์นี้
ซ้อใหญ่ใช้ชีวิตอย่างสงบอยู่ที่บ้านริมน้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นบ้านหลักที่อุเทนมักจะพำนักอยู่เป็นประจำ
ซ้อใหญ่มีลูกสาว 2 คนคือ
เพ็ชรี อมรวิวัฒน์ เธอแต่งงานกับ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ซึ่งสมพงษ์เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทไทยอมฤตบริวเวอรี่และเป็นผู้บุกเบิกเบียร์คลอสเตอร์ยุคก่อนที่
วิมล เตชะไพบูลย์ จะกลับมาจากเรียนต่อเมืองนอก และสมพงษ์ยังเคยเป็นส.ส.จังหวัดชลบุรีอีกด้วย
ส่วนตัวเพ็ชรีเองกล่าวกันว่าเป็นคนเด็ดขาดเอาเรื่อง ใจค่อนข้างนักเลงพอสมควร
ปัจจุบันเธอเป็นกรรมการบริหารของมหานครทรัสต์ หลังสิ้นสุดยุคของไชยทัศน์ไปแล้ว
และมีธุรกิจส่วนตัวในเรื่องที่ดิน
สุกัญญา โอสถานนท์ เธอแต่งงานกับ นิพิธ โอสถานนท์ ซึ่งปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการนิคมอุตสาหกรรมบางปู
ส่วนสุกัญญาเป็นผู้จัดการธนาคารศรีนครสาขาประตูน้ำ
ลูกสาวทั้งสองคนนี้ยังพำนักอยู่ ณ บ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาในรั้วเดียวกับบ้านของอุเทน
แต่อยู่กันคนละหลัง
ภรรยาคนที่สองของอุเทนชื่อ "จำเรียง"
พื้นเพเดิมของจำเรียงเป็นคนบ้านตลาดน้อย ครอบครัวดำเนินกิจการการค้าเพชรพลอย
หลังบิดา มารดาเสีย จำเรียงต้องดูแลกิจการตั้งแต่อายุไม่ถึง 20 ปีดี และหลังจากนั้นไม่นานเธอก็แต่งงานกับอุเทน
จำเรียงค่อนข้างโชคดีที่มีลูกส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ซึ่งล้วนเป็นกำลังสำคัญในธุรกิจของเตชะไพบูลย์
และเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ลูกของเธอช่วยกันจัดงานวันเกิดให้กับเธออย่างใหญ่โตที่ดุสิตธานี
จำเรียงมีลูกชาย ลูกสาวเรียงตามลำดับรวม 6 คนคือ
วิเชียร เตชะไพบูลย์ หรือ "แต้อุ้ยเชียร" ("อุ้ย"
แปลว่า "ความยิ่งใหญ่" ส่วน "เชียร" แปลว่า "เจริญรุ่งเรือง")
วิเชียร อายุ 52 ปี จบปริญญาตรีสาขาการเงินการธนาคารจากมหาวิทยาลัยบอสตัน
อเมริกา เข้ามาทำงานที่ศรีนครตั้งแต่ปี 2508 เริ่มจากเลขานุการกรรมการผู้จัดการ
หัวหน้าส่วนสินเชื่อ ผู้อำนวยการฝ่ายการค้า กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่
กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการค้า จนปลายปี 2530 อุธรณ์จำต้องยื่นใบลาออกจากกรรมการผู้จัดใหญ่
วิเชียรจึงได้รับการแต่งตั้งขึ้นมาแทน
โดยลักษณะนิสัยของวิเชียรนั้นกล่าวกันว่า เป็นนักบริหารแบบประนีประนอม
และค่อนข้างอนุรักษ์นิยมโดยเฉพาะการที่ต้องตัดสินใจปัญหาสำคัญๆ ในธนาคาร
จนดูเหมือนไม่กล้าตัดสินใจอะไรลงไปให้เด็ดขาด
วิเชียรกล่าวให้เหตุผลว่า เขาจะพิจารณาเรื่องต่างๆ อย่างละเอียดถี่ถ้วน
และเมื่อแน่ใจแล้วว่าดีจึงจะตัดสินใจ โดยการตัดสินใจนั้นจะต้องไม่กระทบในทางลบแก่ธนาคารและบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งหากจะว่าไปแล้ว "บุคคลที่เกี่ยวข้อง" นั้นมีมากมาย ทั้งพ่อ
พี่น้อง อา หลาน เพื่อนของพ่อ เพื่อนของอา จะแตะไปตรงไหนก็จะต้องเกรงใจไปทั่ว
จนกรรมการผู้จัดการใหญ่คนนี้อาจจะตัดสินใจเรื่องอะไรได้ยากเต็มที!
จุดที่มีคนกล่าวถึงกันมากในตัววิเชียรคือ ความเป็นคนอนุรักษ์อย่างมากในเรื่องการใช้จ่ายเงินทอง
โดยเฉพาะการว่าจ้างอัตราเงินเดือนที่ค่อนข้างสูงมากๆ ตามฝีมือและคุณวุฒิ
ซึ่งวิเชียรโต้อย่างหนักแน่นว่า ไม่จริง
"เรื่องค่าตัวสูง แล้วไม่สู้ ไม่จริง เท่าไรเท่ากัน หากคุณทำงานได้คุ้มค่า"
เขากล่าว
วิเชียรมีบทบาทพอสมควรในวงสังคม เขาเป็นกรรมการมูลนิธิป่อเต๊กตึ้ง ซึ่งมีอุเทนเป็นประธาน
เป็นกรรมการและเหรัญญิกสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
วิเชียรสนใจทำธุรกิจที่ดินค่อนข้างมาก ปัจจุบันเขามีกิจการพัฒนาที่ดินสองแห่งคือเชียงใหม่แลนด์และหมู่บ้านศรีนครพัฒนา
โดยเฉพาะเชียงใหม่แลนด์นั้น ว่ากันว่าในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา กิจการต้องเจอดอกเบี้ยทบต้นเข้าไป
หนักพอสมควร แต่ปัจจุบันธุรกิจทั้งสองค่อนข้างไปได้ราบรื่น นอกจากนั้นเขายังร่วมลงทุนในบริษัทเอเชียไฟเบอร์และธุรกิจก่อสร้างอีกแห่งสองแห่งด้วย
วิเชียรมีภรรยาระดับรองนางสาวไทย คือ เสาวนีย์ (วรปัญญาสกุล) เตชะไพบูลย์
จิตรา เตชะไพบูลย์ หรือ "แต้จี้คึ้ง" ("จี้คึ้ง" แปลว่า
"พันธุ์ไม้ชั้นสูง") จิตราเป็นลูกสาวคนเดียวของจำเรียง จิตราจบการศึกษาจากปีนัง
และแต่งงานกับชาญวุฒิ พรรณธานนท์ ปัจจุบันเธอดูแลบางปูคันทรีคลับ และมีกิจการส่วนตัวอีกหลายแห่ง
วิรุฬ เตชะไพบูลย์ หรือ "แต้อุ้ยลุ้ง" ("ลุ้ง" แปลว่า
"สวยงาม") วิรุฬเคยเป็นผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจของศรีนคร
และปัจจุบันยังเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อยู่ แต่ไม่ค่อยได้มาธนาคารเท่าไรนัก
งานหลักๆ ที่อุเทนให้วิรุฬไปดูแลนั่นคือ "เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์"
กล่าวกันว่าวิรุฬนั้นกับผู้ใหญ่แล้วเป็นคนนอบน้อม มีสัมมาคารวะ แต่กับลูกน้องออกจะเอาแต่ใจตัวเอง
คืออยากจะได้อะไรแล้วต้องได้ดังใจ และไม่ค่อยแน่นอนในเรื่องการบริหาร เปลี่ยนแปลงได้เสมอและหลายครั้ง
เป็นคนขี้ลืมและประหยัดมัธยัสถ์เอาการ
นอกจากเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ซึ่งเป็นธุรกิจเชิดหน้าชูตาแล้ว วิรุฬยังมีธุรกิจส่วนตัวที่หลากหลายอีกด้วย
เช่น แม่ปิงวิลล่า, บริษัทจัดหางานเมโทรโปลิตัน ทรานสปอร์ต แอนด์ เทรดดิ้ง
เป็นผู้บริหารบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ศรีนคร ธุรกิจในเครือศรีนคร เป็นต้น
และตัววิรุฬเองยังมีส่วนสนับสนุนอย่างสำคัญในธุรกิจบันเทิงยามค่ำคืนที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง
โดยเฉพาะย่านเพลินจิตและสุขุมวิท
วิวัฒน์ เตชะไพบูลย์ หรือ "แต้อุ้ยฮั้ว" ("ฮั้ว" แปลว่า
"งาม") วิวัฒน์จบนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเอ็มบีเอจาก
FAIRLEIGH DICKINSON UNIVERSITY สหรัฐอเมริกา ทำงานกับศรีนครตั้งแต่ปี 2521
เป็นเลขานุการประธานกรรมการ ต่อมาเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการค้าและรักษาการหัวหน้าส่วนวิเคราะห์โครงการ
รองผู้อำนวยการส่วนฝ่ายการค้า ผู้อำนวยการฝ่ายการพนักงาน จนเมื่อไชยทัศน์ลาออก
วิวัฒน์จึงมาแทนในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายบริหารสาขา
วิวัฒน์เป็นคนเดียวที่หลายเสียงเห็นพ้องต้องกันว่า เป็นคน "ตีนติดดิน"
ค่อนข้างเป็นกันเอง มีมนุษยสัมพันธ์ค่อนข้างดี และรับฟังปัญหาและข้อเสนอในเรื่องต่างๆ
ส่วนจะทำต่อไปหรือไม่ก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป
แต่การเทียบบารมีกับไชยทัศน์นั้น เป็นสิ่งเป็นไปไม่ได้แน่นอน!
กิจการในเครือเตชะไพบูลย์ที่วิวัฒน์ดูแลคือกิจการค้าสุรา "แม่โขง"
ทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาดูแลกิจการเอเย่นต์การจัดจำหน่ายแม่โขงแทนอุเทน ดังนั้นการไปเยี่ยมเยียนกิจการสาขาของธนาคารทั่วประเทศ
จึงต้องมีโปรแกรมไปดูแลเอเย่นต์แม่โขงตามเขตต่างๆ เป็นผลพลอยได้ไปในตัว
วิรมิตร เตชะไพบูลย์ หรือ "แต้อุ้ยมิ๊ง" ("มิ๊ง" แปลว่า
"ประชาชน") วิรมิตร มีมาดนักวิชาการเต็มตัว เขาเรียนจบปริญญาโททางด้านการเงินและธนาคาร
มีภรรยาเป็นแพทย์ชาวเกาหลีใต้
วิรมิตรใช้ชีวิตในต่างประเทศค่อนข้างมาก เขาเคยเป็นผู้จัดการสาขานิวยอร์คและซานฟรานซิสโก
และเมื่อกลับมาเขาก็มารับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการค้าต่างประเทศ
ด้วยเหตุที่เขามีลักษณะและการใช้ชีวิตไปอีกแบบ วิรมิตรจึงค่อนข้างแยกตัวจากพี่ๆ
น้องๆ ไม่ค่อยมีเรื่องมีราวหรือมีบทบาทในธนาคารมากนัก อีกทั้งชอบทำงานตามหลักการหรือตามสไตล์อเมริกันเต็มที่
ดังนั้นพ่อค้าคนจีนจึงไม่ค่อยชอบเขานัก
ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งกล่าวว่า วิรมิตรมีฝีมือในการทำงานธนาคารมากทีเดียว เสียแต่ว่าเมื่อมีปัญหา
โดยเฉพาะเมื่อถูกสั่งจากระดับสูงให้ทำในสิ่งที่ตนเองไม่พอใจ จะปล่อยวางมือไปเฉยๆ
ไม่มีการตัดสินใจใดๆ ทั้งสิ้น และบางทีก็ไปต่างประเทศเสียเลย จนภายหลังบ่อยๆ
เข้า งานในฝ่ายก็เลยไม่ค่อยเดิน!
วิมล เตชะไพบูลย์ หรือ "แต้อุ้ยม้ง" ("ม้ง" แปลว่า
"ฉลาด, หัวเสธ.") วิมลค่อนข้างมีความสุขกับ "คลอสเตอร์"
เอามากๆ เขาแทบจะไม่เข้ามายุ่งในกิจการธนาคารเลย แต่สิ่งที่แปลกเป็นอย่างมากคือ
ขณะที่เขาทำธุรกิจน้ำเมาและชอบเที่ยวเตร่ยามค่ำคืน เขากลับหลงใหลในร่มกสาวพัตร
เคยบวชและร่ำเรียนทางธรรม เป็นผู้สนับสนุนอย่างจริงจังต่อการจัดละครทางธรรมครั้งใหญ่คือละคร
"เวสสันดรชาดก" และยังมีโครงการ "แผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง"
ที่เป็นโครงการต่อเนื่องยาวนานอีกด้วย
นอกจากคลอสเตอร์แล้ว เขายังเป็นเจ้าของเอเยนซี่โฆษณาชื่อ "เอ็กซ์คาลิเบอร์"
ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็คือคลอสเตอร์และกิจการในเครือเตชะไพบูลย์นั่นเอง นอกนั้นก็มีหุ้นอีกเล็กน้อยในธุรกิจบันเทิง
เช่น ไนท์สปอตโปรดักชั่น เป็นต้น
เป็นน้องสุดท้องในแม่นี้ที่ยังโสด!
ภรรยาคนที่สามของอุเทนชื่อ "หรรษา" เธอมีลูกกับอุเทนหนึ่งคนคือ
วีระเดช เตชะไพบูลย์ หรือ "แต้อุ้ยเลี้ยก" ("เลี้ยก"
แปลว่า "ขยัน กระฉับกระเฉง สู้") วีระเดชจบปริญญาโททางด้านบริหารธุรกิจ
สาขาวิชาการเงินและธุรกิจระหว่างประเทศ จากนิวยอร์ค เคยเป็นเลขานุการส่วนตัวของอุเทนที่ศรีนคร
ทำได้ 6 เดือน ก็หันเหชีวิตไปเป็นทหารประจำกองข่าวทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด
ได้ประมาณ 2 ปี เมื่อกลับมาเขาเบนเข็มไปทำธุรกิจที่ดิน แทนที่จะเข้าศรีนคร
โดยไปทำริเวอร์ไซด์ คอนโดมิเนียม และเตรียมจะทำโรงแรมระดับ 5 ดาวอีกหนึ่งแห่ง
ปัจจุบันอายุ 27 ปี
ทั้ง 9 คนคือลูกชายและลูกสาวของอุเทนเท่าที่มีบทบาทสำคัญและ "ผู้จัดการ"
สำรวจพบ แต่หากมีมากกว่านี้และอายุน้อยกว่านี้ "ผู้จัดการ" ยังไม่ขอกล่าวถึง!