Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา ธันวาคม 2553
ทัวร์น้ำโขงบนแผนที่ท่องเที่ยวโลก?             

โดย เอกรัตน์ บรรเลง
 


   
search resources

Tourism
International
Greater Mekong Subregion




หลัง Transport Corridor ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง 6 ประเทศ ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงปัญหาทางการเมืองต่างๆ ที่เริ่มสงบลงเรื่อยๆ ได้ส่งผลต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่แถบนี้อย่างยิ่ง

เวทีสัมมนาเกี่ยวกับลุ่มแม่น้ำโขงช่วงหลายปีที่ผ่านมา ต่างประเมินถึงทิศทาง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศ GMS ตรงกันว่าเป็นอนุภูมิภาคที่มีศักยภาพ ด้านการท่องเที่ยวสูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ทั้งในแง่การดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก-การส่งออกนักท่องเที่ยว

เนื่องด้วยวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ที่คล้ายคลึงกัน เริ่มถูกนำมา บูรณาการต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวมากขึ้น

โดยใน 6 ประเทศลุ่มน้ำโขง ไทย พม่า ลาว จีน กัมพูชา และเวียดนาม ประเมินกันว่าปีนี้ (2553) มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไม่น้อยกว่า 30 ล้านคน และคาดหมายกันต่อว่า อีก 5 ปีข้างหน้า หรือปี 2558 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทาง เข้ามาเพิ่มเป็น 52 ล้านคน

รายงานการศึกษาเรื่องการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงบูรณาการที่ยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง; พ.ศ.2547-2553 ของมิ่งสรรพ์ ขาวสะอาด และคณะ สถาบันวิจัยสังคม มช. ระบุว่า รายได้จากการท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคนี้มีมูลค่ารวมกัน มากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ และมีอัตรา การขยายตัว 10.7% ใน 7 ปีที่ผ่านมา

อีก 5 ปีต่อจากนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยว ที่มีความสำคัญยิ่งก็คือนักท่องเที่ยวจากจีน ที่จะเป็นทั้งผู้ส่งออกนักท่องเที่ยวมากที่สุด และดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากที่สุด ในโลก

(อ่านเรื่อง "6 ประเทศ 1 แม่น้ำ ปลายทางท่องเที่ยวโลก" นิตยสารผู้จัดการ 360 ํ ฉบับเดือนพฤษภาคม 2553 หรือใน www.gotomanager.com ประกอบ)

แนวคิดนี้เริ่มสะท้อนให้เห็นชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ เฉพาะพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง ตอนบน 2-3 ปีที่ผ่านมา ตัวแทนองค์กรด้านการท่องเที่ยวของจีน เทียวเดินสายประสานความร่วมมือเปิดตลาดท่องเที่ยวผ่านทางเขตปกครองตนเองชนชาติไต สิบสองปันนา มณฑลหยุนหนันอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคม 2553 สำนักงานการท่องเที่ยวสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน นำโดยเผิง โบ รองผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวสิบสอง ปันนา พร้อมคณะตัวแทนรัฐ-เอกชนด้านการท่องเที่ยว เดินทางมาโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวพร้อมเปิดเวทีแลกเปลี่ยนแนวทาง การพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกับจังหวัดเชียงราย

เผิง โบกล่าวว่า ช่วง 20 ปีมานี้ เขต ปกครองตนเองสิบสองปันนา พยายาม พัฒนาการท่องเที่ยวจนประสบความสำเร็จ และกลายเป็นภาคเศรษฐกิจสำคัญของเมือง แล้ว ปัจจุบันสิบสองปันนามีโรงแรมอยู่ 42 แห่ง แหล่งท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน 2 แห่ง สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ 17 แห่ง เอกชนนำเที่ยว 22 ราย รถทัวร์ 480 คัน มัคคุเทศก์ 1,100 คน และมีผู้ที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวด้านต่างๆ เช่น การเที่ยวป่า ประเพณีวัฒนธรรม เรือแม่น้ำโขง ฯลฯ รวมกันกว่า 30,000 คน

ปี 2552 มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนสิบสองปันนารวมจำนวนกว่า 7.32 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน 17.2% เป็นชาว ต่างชาติประมาณ 150,000 คน

นอกจากนี้การท่องเที่ยวบนถนน R3a ระยะทาง 248 กิโลเมตร ซึ่งทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้บรรจุเอาไว้ในเส้นทางท่องเที่ยว ก็กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ชาวไทยและต่างชาติมาก ในปี 2552 มีนัก

ท่องเที่ยวไทยเดินทางผ่านถนนสายนี้ไปสิบสองปันนารวม 85,697 คน เพิ่มขึ้นกว่าเดิม 55.2%

ช่วงมกราคม-สิงหาคม 2553 มีคนไทยเดินทางผ่าน R3a ไปเยือนสิบสองปันนาแล้วกว่า 60,095 คน โดยมีการจัดตั้งสำนักงานเป็นศูนย์การท่องเที่ยวตามเมืองที่สำคัญระหว่างกัน ทั้งที่ สิบสองปันนา เมืองห้วยทราย สปป.ลาว เชียงราย เชียงใหม่ จะเปิดที่กรุงเทพฯ ภายในสิ้นปีนี้

พงษ์ธร ชยาตุลชาต ประธานบริษัทหย่าไทร์เอเชี่ยนทัวร์ จำกัด ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์กระจายสินค้าและท่องเที่ยวสิบสองปันนาประจำ จ.เชียงราย กล่าวว่าศูนย์ฯ ก่อตั้งมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2552 โดยการสนับสนุนของสำนักงานการท่องเที่ยวสิบสองปันนา บริษัทเทียนเฉินกรุ๊ปของจีน และบริษัทหย่าไทร์เอเชี่ยนทัวร์ จำกัด ปัจจุบันให้บริการด้านข้อมูลการ ท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้คือไทย จีน ลาว พม่า เวียดนาม กัมพูชา และมีการจัดตั้งทัวร์ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งกำลังพัฒนาเป็นศูนย์แลกเปลี่ยนการเรียนรู้ระหว่างนักศึกษาไทย-จีน ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไปด้วย

เขาบอกว่าตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553-เมษายน 2554 มณฑลหยุนหนัน มีแผนจะนำนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเยือน เชียงรายประมาณ 10,000 คน โดยได้มีการจัดกิจกรรมฟื้นฟูประเพณีและวัฒนธรรมด้านการท่องเที่ยวใน 5 เมือง ใหญ่ของมณฑล หากเมืองไหนชนะก็จะได้โควตาพาคนมาเที่ยวประมาณ 2,500 คน เฉพาะสิบสองปันนาก็มีคนเดินทางมาเยือน 2,500-2,800 คนแล้ว

อย่างไรก็ตาม ประเด็นปัญหาสำคัญของการพัฒนาการท่องเที่ยวในย่านนี้ก็คืออุปสรรคเรื่องหนังสือผ่านแดน ที่แม้ว่าที่ผ่านมา ประเทศภาคีจะนำนโยบายการออกวีซ่า ณ จุดผ่านแดน (Visa on arrival) มาใช้มากขึ้นก็ตาม

แต่เป้าหมายสุดท้ายคือ Visa Free Zone ก็ยังไม่ปรากฏเป็นจริง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us