Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา ธันวาคม 2553
Dual Hub Airports of Japan             
โดย ภก.ดร. ชุมพล ธีรลดานนท์
 


   
search resources

Airport




โฉมหน้าล่าสุดของสนามบิน Haneda กำลังปรับเปลี่ยนระบบการจราจรเหนือน่านฟ้าญี่ปุ่นให้เข้าสู่สมดุลใหม่ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระดับนานาชาติภายใต้บริบทที่อำนวยความสะดวกเชื่อมโยงเครือข่ายภูมิภาค-เมืองหลวง-ต่างประเทศเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าที่ผ่านมา

หลักไมล์เริ่มต้นนับแต่ปี 1978 ที่ท่าอากาศยานนานาชาติ Narita* ซึ่งมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Narita International Airport (เปลี่ยนชื่อจาก New Tokyo International Airport เมื่อปี 2004) เปิดให้บริการแก่ผู้โดยสารระหว่างประเทศเป็นต้นมา ท่าอากาศยานนานาชาติ Haneda** ผันบทบาทเป็นสนามบินภายในประเทศแต่ยังคงเส้นทางบินพิสัยสั้นระหว่างประเทศไปยังเกาหลีใต้, เซี่ยงไฮ้, ฮ่องกง, ไต้หวัน ไว้ส่วนหนึ่งซึ่งไม่มากนัก

แม้ดูเหมือนว่าทั้ง Narita และ Haneda ต่างพัฒนาก้าวล้ำไปไกลจนได้ชื่อว่าเป็นสนามบินชั้นนำที่มีเที่ยวบินขึ้นลงหนาแน่นติดอันดับโลกก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้วได้เกิดสุญญากาศคั่นกลางระหว่างท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่งนี้ เป็นความสัมพันธ์ แบบเส้นขนานที่ไม่อาจให้บริการผู้โดยสารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควร เพราะภายหลังจากที่เที่ยวบินจากต่างจังหวัดลงจอดที่สนามบิน Haneda แล้วผู้โดยสารจะต้องเดินทางโดยรถไฟหรือรถโดยสาร ประจำทางหรือรถยนต์ไปอีกอย่างน้อย 1 ชั่วโมงเพื่อต่อเที่ยวบินออกนอกประเทศหรือในทางกลับกัน กรณีที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าสู่ญี่ปุ่นที่สนามบิน Narita แล้วต้องต่อเครื่องไปยังต่างจังหวัด ก็ย่อมประสบกับความไม่สะดวกนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้

หรือแม้กระทั่งผู้โดยสารที่พำนักอยู่ในเมืองหลวงและปริมณฑล (ยกเว้นจังหวัด Chiba ซึ่งเป็น ที่ตั้งของสนามบิน Narita) ต่างเหนื่อยหน่ายกับการเดินทางไปยังสนามบินที่อยู่ไกลออกไปกว่า 60 กิโลเมตร

อานิสงส์จากสุญญากาศดังกล่าวจึงตกไปสู่ท่าอากาศยานนานาชาติ Incheon ประเทศเกาหลีใต้ ที่อ้าแขนเปิดรับเที่ยวบินจากสนามบินหลักในภูมิภาค ของประเทศญี่ปุ่น 28 แห่ง ซึ่งสามารถต่อเที่ยวบินโดยสารไปสู่ทุกทวีปทั่วโลกได้ตั้งแต่ปี 2001

ตัวเลขสถิติผู้โดยสารจากญี่ปุ่นประมาณ 80 ล้านคนต่อปีที่เดินทางไปต่างประเทศผ่านทางสนามบิน Incheon ซึ่งนอกจากสูญเสียรายได้ไปอย่างน่าเสียดายแล้วยังสูญเสียความสามารถการแข่งขันในระดับสากลในฐานะประตูเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกับอเมริกา ทั้งที่มีทำเลภูมิประเทศที่ได้เปรียบกว่ากลายเป็นความท้าทายต่อการพลิกผันภาวการณ์การเสียโอกาส ภายใต้ข้อจำกัดที่เป็นแรงต้านมาแต่อดีต ประการแรกคือสนามบิน Haneda ตั้งอยู่บริเวณริมอ่าวด้านใต้ของมหานครโตเกียวมีข้อจำกัดเรื่องการขยายขนาดสนามบินอีกทั้งเรื่องของงบประมาณ

ประการที่สอง ทั้งที่ระดับความก้าวหน้าการคมนาคมในระบบรางของประเทศญี่ปุ่นจะอยู่ในระดับแถวหน้าของโลก การสร้างรถไฟ Shinkansen จากใจกลางมหานครโตเกียวก็ดีหรือเชื่อมต่อระหว่างสนามบินทั้ง 2 แห่งเข้าด้วยกันกลับกลายเป็นเรื่องยากที่เกิดจากปัญหาการเวนคืนที่ดินมากกว่าความล้าหลังของเทคโนโลยี

นอกจากนี้เรื่องมลภาวะทางเสียงที่จำกัดเวลาขึ้นลงเที่ยวบินของสนามบิน Narita ซึ่งทุกจังหวะการก้าวขยายสนามบินจะถูกคนท้องถิ่นรอบๆ สนามบินประท้วงเสมอมา ยุทธศาสตร์ระดับชาติ ซึ่งกลั่นกรองออกมาจากความคิดที่ใช้เติมเต็มช่องว่างสุญญากาศที่เกิดขึ้นด้วยแนวคิดของ "Dual Hub Airports" ที่ยกระดับศักยภาพของสนามบิน Haneda ในฐานะสนามบิน นานาชาติอย่างเต็มรูปแบบโดยไม่ทับซ้อนกับบทบาทเดิมที่มีอยู่ของสนามบิน Narita

การก่อสร้าง Runway D เส้นที่ 4 ทางด้านทิศใต้ของสนามบินซึ่งแล้วเสร็จและเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2010 สามารถเพิ่มเที่ยวบินขึ้นได้อีกเท่าตัวหรือประมาณ 60,000 เที่ยวบินต่อปี ซึ่งในระยะแรกเพิ่มเส้นทางบินระหว่างประเทศไปยังเมืองหลักกว่า 10 แห่งทั่วโลกอย่างเช่น กรุงเทพฯ, กัวลาลัมเปอร์, สิงคโปร์, ลอนดอน, ปารีส, ฮอนโนลูลู, ลอสแองเจลิส, ซาน ฟรานซิสโก, แวนคูเวอร์, ดีทรอยต์, นิวยอร์ก โดยทำการบินระหว่างประเทศในช่วง 23.00-07.00 น. หลังจากนั้นเป็นเวลาทำการปกติสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศและเที่ยวบินไปโซล, ปูซาน, ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, ฮ่องกง และไทเป

กลไก Dual Hub Airports นี้จะช่วยเพิ่มทาง เลือกและความสะดวกให้กับผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างส่วนภูมิภาคกับต่างประเทศโดยผ่านทางท่าอากาศยานนานาชาติ Haneda ทั้งขาไปและกลับ นอกจากนี้ยังเป็นกำหนดการเดินทางในอุดมคติสำหรับกลุ่มเป้าหมายสำคัญ อันได้แก่ นักธุรกิจและนักท่องเที่ยววัยทำงานในเขตเมืองหลวงและปริมณฑลที่สามารถเดินทางไปยังปลายทางต่างประเทศได้ในช่วงกลางคืนโดยไม่เสียวันลาพักและเดินทางกลับเข้ามาทำงานต่อได้ทันทีในตอนเช้าเมื่อเครื่องลงจอดสู่สนามบิน Haneda

จุดแข็งอีกประการหนึ่งคือ การคมนาคมระหว่างสนามบิน Haneda เชื่อมต่อกับใจกลางมหานครโตเกียวโดยรถไฟ 2 สาย ได้แก่ Tokyo Monorail ใช้เวลา 16 นาทีถึงสถานี Hamamatsucho ซึ่งสามารถต่อรถไฟ JR Yamanote ได้โดยตรงและรถไฟ Keikyu (Keihin Kyuko Railway) ใช้เวลา 22 นาทีถึงสถานี Shinagawa นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงไปถึงเมือง Yokohama และสนามบิน Narita ได้เช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้นผู้โดยสารใช้เวลาเพียง 1 นาทีจากทางออกของสถานีรถไฟทั้ง 2 สายสู่ Counter Check-in ของสายการบินภายใน Departure Hall ได้ทันที

การเปิดให้บริการใน International Terminal ของสนามบิน Haneda ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ทั้งในแง่การสร้างงาน กอบกู้ความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และรายได้เข้าประเทศ โดยประมาณ การรายได้จากค่าบริการสนามบินทั้ง 2 แห่ง 1,000 ร้อยล้านเยน ค่าที่พักของนักท่องเที่ยวคาดว่า เพิ่มขึ้น 1,100 ร้อยล้านเยน รายรับจากการจำหน่าย สินค้าและของที่ระลึก 850 ร้อยล้านเยนต่อปี

นอกจากนี้ความร่วมมือจากสายการบินพันธมิตรทั้งในเครือข่าย oneworld โดยมีสายการบิน Japan Airlines เป็นเจ้าบ้าน, Star Alliance โดยมีสายการบิน All Nippon Airways เป็นเจ้าบ้าน และ Skyteam อีกทั้ง Low Cost Airline เช่น Air Asia ที่มีแผนเพิ่มเส้นทางการบินเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารนับแต่นี้เป็นต้นไป

กำเนิดของ Dual Hub Airports ของญี่ปุ่นในห้วงเวลานี้จึงมิได้แสดงภาพลักษณ์ของการเชื่อมประสานเส้นทางระหว่างทวีปเอเชียกับทวีปอเมริกาผ่านน่านฟ้าญี่ปุ่นโดยอาศัยความได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร์เพียงลำพังแต่ยังสะท้อนนัยสำคัญของวิสัยทัศน์ที่พร้อมพุ่งทะยานขึ้นสู่บทบาทผู้นำแห่งอุตสาหกรรมการบินย่าน Asia-Pacific ในศตวรรษนี้ อีกครั้ง

อ่านเพิ่มเติม :
* คอลัมน์ Japan Walker นิตยสารผู้จัดการฉบับเดือนกรกฎาคม 2549 หรือ http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=49646
** คอลัมน์ Japan Walker นิตยสารผู้จัดการฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2548 หรือ http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=29187   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us