|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ยูนิลีเวอร์ ประกาศยุทธศาสตร์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ชูแผนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืน เร่ง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ หวังสร้างความยั่งยืนตราสินค้า มัดใจผู้บริโภค และประหยัดต้นทุน พร้อมสร้างการเติบโตธุรกิจผลประกอบการทั่วโลกโต 2 เท่าตัวในปี 2563
นายบาวเค่อ ราวเออร์ส ประธานกรรมการบริหาร กลุ่ม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค กล่าวว่า หลังจากที่ยูนิลีเวอร์ประกาศแผนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนในระดับโลก โดย เป้าหมายที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากสินค้าของยูนิลีเวอร์ลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2563 ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคให้ดีขึ้น ทั้งนี้เพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยอีก 20 ปีข้างหน้านี้รายได้ของยูนิลีเวอร์ทั่วโลกเติบโต 2 เท่าตัว
“การสร้างการเติบโตของบริษัทฯ พร้อมกับลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยการหาวิธีการใหม่ๆ ในทุกด้าน จะช่วยให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จ ซึ่งในการจัดการกับความท้าทายเพื่อสร้างความยั่งยืน พบว่ามีโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ มากมาย เช่น ความนิยมที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์ของเพิ่มขึ้น การร่วมมือกับผู้ค้าปลีกในการสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่ง การส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม การขยายตลาด และการประหยัดต้นทุน”
สำหรับแผนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนเพื่อลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ครึ่งหนึ่ง มีด้วยกัน 3 เป้าหมาย คือ 1.ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ลงครึ่งหนึ่ง 2.ช่วยให้คนกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลกมีคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีขึ้น และ3.การจัดหาวัตถุดิบทางการเกษตรจากแหล่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทจะเริ่มปรับกระบวนการดำเนินการตลอดวงจรชีวิตของสินค้า ซึ่งมีด้วยกัน 5 กระบวน คือ 1.การจัดหาวัตถุดิบ 2. การผลิต 3. การขนส่ง 4.การใช้ของผู้บริโภค และ5.ขยะ
นายราวเออร์ส กล่าวว่า จากการคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ยูนิลีเวอร์มากกว่า 1,600 รายการ ของการใช้ต่อผู้บริโภคใน 14 ประเทศ พบว่า 1.การจัดหาวัตถุดิบ มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 26% ซึ่งบริษัทได้วางแผนใช้วัตถุดิบทางการเกษตร 100% ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายในปี 2558 ขณะที่ 2.การผลิต มีการปล่อยก๊าซ ฯ 3% ดังนั้นวางแผนลดก๊าซที่เกิดจากกระบวนการผลิต 90% ในอีก 2563 ได้แก่ ลดปริมาณการใช้พลังงานโรงงาน 4% ต่อปี ช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 59,372 ตันต่อปี และปีในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เปลี่ยนตู้เย็นไอศกรีมจาก 3 หมื่นเครื่องเป็น 5 หมื่นเครื่อง
และ 3.การขนส่งมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 2% ซึ่งบริษัทได้พิจารณาทุกขั้นตอนในซัพพลายเชน โดยดำเนินโครงการ Backhaul มุ่งเน้นการใช้ยานพาหนะในการขนส่งให้เกิดประโยชน์สูงสุด ร่วมมือกับลูกค้าและโมเดิร์นเทรดจัดการขนสินค้าได้เต็มความสามารถ วิธีนี้ช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 15-20% ในปี 2556 และการปรับความหนาของกล่อง 5 ชั้นมาเหลือ 3 ชั้น ในปีหน้านี้สัดส่วน 35-40% เพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และดำเนินการโครงการการนำกลับมาใช้ใหม่ เริ่มจากไม้ไอศกรีมวอลล์ 300 ล้านชิ้น หรือ 346 ตันต่อปี เปลี่ยนเป็นน้ำมันดิบ
ส่วนด้านที่ 4.การใช้ของผู้บริโภค 68% ได้นำเสนอนวัตกรรมใหม่ อาทิ เปิดตัวผงซักฟอกสูตรเข้มข้น และน้ำปรับผ้านุ่มน้ำเดียว ช่วยประหยัดแพกเกจจิ้ง ลดการใช้น้ำลง ซึ่งในส่วนนี้ต้องดำเนินการป้อนข้อมูลความรู้เกี่ยวกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และ5.ขยะ มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สัดส่วน 1% บริษัทได้ดำเนินการลดการปล่อยน้ำเสียจากกระบวนการผลิตมาบำบัดที่โรงงานบำบัดน้ำเสียให้กลับมาเป็นน้ำดิบที่มีคุณภาพ เป็นต้น
“การดำเนินการของบริษัทสามารถสร้างความแตกต่าง และส่งเสริมให้ผู้บริโภคได้เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและการใช้สินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเราเชื่อว่าจะทำให้เกิดผลในเชิงบวกต่อการสร้างความยั่งยืนในอนาคต” นายราวเออร์ส กล่าว
|
|
|
|
|