|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ล็อกซเล่ย์ลุยคอนซูเมอร์แบรนด์ของตัวเอง ดึง “ศรัณย์ สมุทรโคจร” ร่วมคุมบังเหียน ประเดิมด้วยธุรกิจร้านอาหาร จับมือกับโดทงโบริ ยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่น ทุ่ม 100 ล้านบาทในปีแรก ผุด 2 ร้านอาหาร ในรูปแบบมัลติคอนเซ็ปท์ใน 2 โครงการ เชื่อธุรกิจร้านอาหารมีโอการสูงที่ผู้เล่นหน้าใหม่จะเข้ามาตีตลาดได้
นายศรัณย์ สมุทรโคจร กรรมการบริหาร บริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง จำกัด ในเครือ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา72 ปี ที่ผ่านมา ล็อกซเล่ย์ได้ดำเนินธุรกิจในหลานรูปแบบ ทั้งด้านอสังหาริมทรัพย์ เทรดดิ้ง บริการ จอยเวนเจอร์ และเทคโนโลยี แต่ที่สำคัญยังไม่มีคอนซูเมอร์แบรนด์เป็นของตัวเอง
ทำให้บริษัทแม่ได้มีแผนที่ต้องการพัฒนาคอนซูแบรนด์เป็นของตัวเองขึ้นมา ทั้งในรูปแบบฟู้ดและนอนฟู้ด โดยตนเข้ามาช่วยพัฒนาและวางยุทธศาสตร์ในเรื่องนี้ ล่าสุดในกลุ่มฟู้ด เล็งเห็นว่าธุรกิจร้านอาหารมีโอกาสในการเข้ามาทำตลาดในฐานะผู้เล่นรายใหม่ได้ค่อนข้างสูง เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ตอบรับ บวกกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันในตลาดได้
ล่าสุดจึงได้ร่วมมือกับทาง บริษัท โดทงโบริ จำกัด ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเชนร้านอาหารประเภทเทปปันยากิ และโอโดโน มิยากิ (พิซซ่าสไตล์ญี่ปุ่น) ที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น ในการเซ็นสัญญามาสเตอร์แฟรนไชส์ร่วมกันเป็นระยะเวลา 20 ปี ในรูปแบบ 10ปี+10ปีข้างหน้า ในการนำแบรนด์ร้าน โดทงโบริ และ เท็ทสึเมน (ราเม็ง) เข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทยซึ่งได้สิทธิ์ผูกขาดการทำตลาดและขายแฟรนไชส์แต่เพียงผู้เดียว
เบื้องต้นในการลงทุนตลอด 1 ปีหลังจากนี้ บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้กว่า 100 ล้านบาท ในการที่จะเปิดร้านทั้ง 2 แบรนด์ ถึง 2 สาขา ที่ โครงการ เดอะไนน์ พระรามเก้า ในช่วงเดือนพ.ค. ปีหน้า และในเดือนก.ย.ต่อมา จะเปิดให้บริการที่โครงการ เทอร์มินอล21 ต่อไป โดยทั้ง 2 ร้านนี้ จะอยู่ภายใต้พื้นที่แฟลชิฟสโตร์ ที่เรียกว่า โครงการ มัลติคอนเซ็ปท์ ที่บริษัทจะพัฒนาพื้นที่ที่มีอยู่ราว500 ตารางเมตร ในแต่ละโครงการ ในการนำร้านอาหารที่พัฒนาขึ้นมาหลายๆร้านมาเปิดให้บริการร่วมกันในโครงการดังกล่าว
นายศรัณย์ กล่าวต่อว่า แผนของการดำเนินธุรกิจร้านอาหารนั้น จะเป็นไปในทิศทาง 3 ด้าน คือ 1.เซ็นสัญญาขอซื้อแฟรนไชส์ 2. จอยเวนเจอร์ ร่วมทุนกัน และ 3.พัฒนาแบรนด์ขึ้นมาเอง โดยใน 1 ปีหลังจากนี้มองว่าจะสามารถพัฒนารูปแบบร้านขึ้นมาได้กว่า 5-6 แบรนด์(รวม 2 แบรนด์ที่กล่าวมาแล้ว) ภายใต้ 3 แนวทางดังกล่าว หรือภายใน 10 ปี จะมีแบรนด์ทั้งหมด 10-20 แบรนด์ จับกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่ม ไม่เฉพาะแค่ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นเท่านั้น โดยหลังจากนี้มองว่าจะขยายสาขาในทุกแบรนด์รวมกันได้ปีละประมาณ 18-20 สาขา หรือภายในปี 2020 จะมีร้านอาหารที่เป็นแฟรนไชส์ถึง 180สาขาได้
อย่างไรก็ตามในส่วนของนายศรัณย์นั้น ก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หลังจากนั้นได้พ้นจากตำแหน่งและเข้ามาทำงานให้กับล็อกซเล่ย์ ตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา
|
|
|
|
|