กระแสความนิยมของผู้บริโภคในเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ตลาดสินค้าไอทีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นโอกาสทางการตลาดที่กรุงเทพประกันภัยหรือ BKI จะใช้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเติบโตของพอร์ตธุรกิจภัยพิเศษ ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยในหลักร้อยล้านบาทต่อปี

ที่ผ่านมา BKI ใช้การจับมือกับพันธมิตรผู้ผลิต เช่น กล้องวงจรปิดฟูจิโกะ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเอเซอร์ และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คไวโอ้ จากโซนี่ ในการรับประกันความเสี่ยงภัยของสินค้าแก่ผู้ซื้อ นอกเหนือจากการประกันตัวเครื่องโดยปกติจากผู้ผลิตที่มีอายุการรับประกันนาน 1 ปี ล่าสุด BKI ได้ปรับกลยุทธ์เพิ่มเบี้ยในส่วนนี้ ด้วยการเพิ่มไลน์การรับประกันสินค้าของโซนี่ ขยายไปสู่สินค้าอื่นๆ ในหมวดภาพและเสียง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค กล้องและเลนส์ ในรูปแบบของ Sony Extended Warranty by Bangkok Insurance ผู้ซื้อสินค้าสามารถซื้อประกันเพิ่มได้ เพื่อให้ความคุ้มครองตัวเครื่อง ทั้งค่าซ่อม และค่าชดเชยกรณีเครื่องหาย นาน 2 ปี หรือ 3 ปี ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ซื้อสินค้า

ความคุ้มครองดังกล่าวเป็นการขยายระยะเวลาการรับประกันของอุปกรณ์เครื่องใช้ คุ้มครองความสูญเสียหรือเสียหายอันเกิดจากความบกพร่องของอุปกรณ์เครื่องใช้ ซึ่งเกิดจากการใช้งานตามปกติตามการรับประกันของผู้ผลิต พร้อมความคุ้มครองเพิ่มเติม ได้แก่ ไฟไหม้ ฟ้าผ่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสินค้า การลักทรัพย์ (ที่ปรากฎร่องรอยการงัดแงะต่อทางเข้า-ออกตัวอาคารที่จัดเก็บทรัพย์สิน ไม่รวมการชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ และวิ่งราวทรัพย์ทุกกรณี) การกระแทก ตกหล่น (ยกเว้นหมวดกล้องและเลนส์) แบ่งเป็นขยายการรับประกันเป็น 2 ปี อัตราเบี้ย 3% ของราคาสินค้า และ 3 ปี อัตราเบี้ย 6% ของราคาสินค้า หรือเริ่มต้น 560 บาท ชำระเบี้ยเพียงครั้งเดียว สำหรับสินค้าที่มีราคาขั้นต่ำ 4,000 บาท แต่ไม่เกิน 700,000 บาท

ผกามาศ จารุเสถียร ผู้อำนวยการธุรกิจภัยพิเศษ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด มหาชน (BKI) กล่าวว่า กลุ่มสินค้าไอทีมีความสำคัญกลายเป็นปัจจัยที่ 6 ของชีวิตประจำวันไปแล้ว และปัจจุบันก็กลายเป็นสินค้าสิ้นเปลือง มีการซื้อซ้ำ ทำใหัตลาดยังมีอนาคตจะเติบโตได้อีกมาก เดิมบริษัทมีคู่ค้าหลัก คือ เอเซอร์ ซึ่งจัดทำแพ็คเก็จประกันภัย 1 ปีพ่วงอยู่ในราคาขาย แต่ในกรณีของโซนี่ ลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้เองในรูปแบบระยะเวลาที่ต้องการ ที่ผ่านมาอัตราความเสียหาย (Loss Ratio) ของสินค้ากลุ่มนี้ไม่สูงนัก อยู่ในระดับไม่ถึง 50% ในขณะที่ปัจจุบันโซนี่ถือเป็นพันธมิตรที่มีศักยภาพ โดยเป็นผู้ผลิตสินค้ากลุ่มไอทีและเทคโนโลยีที่มีฐานลูกค้ามากกว่า 1 ล้านราย