|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นโยบายการมุ่งเพิ่มเบี้ยประกันรับรวม ด้วยกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าผ่านกรมธรรม์ประเภทซิงเกิ้ลพรีเมี่ยมที่ไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้รวดเร็ว เช่น ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (พีเอ) ได้กลายเป็นสมรภูมิเรดโอเชี่ยนที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรงในตลาด และยังเป็นปัญหาของบริษัทที่รับประกันภัยในภายหลังที่พบว่า มีอัตราความเสียหาย (Loss Ratio) และตัวเลขการเคลมสินไหมสูงขึ้นทุกปี ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทในที่สุด
จิรวุฒิ บุญศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาที่บริษัทเน้นขยายฐานลูกค้าโดยการขาย PA จนมีลูกค้าในส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านราย แต่กลับพบว่า Loss Ratio ของกรมธรรม์ PA เพิ่มขึ้นมาตลอด จากปี 2551 อยู่ที่ 45.3% ปี 2552 เพิ่มเป็น 53.5% และปี 2553 เพิ่มเป็น 57.4% ทั้งที่ในความเป็นจริงจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น น่าจะทำให้อัตราการเคลมน่าจะลดลง เพราะมีจำนวนลูกค้ามาถัวเฉลี่ยความเสี่ยง และกรณีที่มีการเคลมมากเป็นพิเศษ คือ การเคลมที่เกิดจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์
อัตราการเคลมที่สูงขึ้น ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับขึ้นอัตราค่าเบี้ยประกันของพีเอในปีหน้า โดยจะปรับค่าเบี้ยประกันใน 2 แบบ คือ 1.ปรับราคาเพิ่มประมาณ 5% ของเบี้ยที่ขายอยู่ในปัจจุบัน เช่น เบี้ย 1,700 บาทต่อปี จะถูกปรับขึ้นอีกประมาณ 85 บาท พร้อมกับเพิ่มความคุ้มครอง 2.ไม่ปรับเบี้ยประกันขึ้น แต่จะลดโรงพยาบาลเกรดเอลงพื้นที่ละ 1 แห่ง เพราะโรงพยาบาลเกรดเอจะมีค่ารักษาพยาบาลสูงมาก ซึ่งคุมค่าใช้จ่ายได้ยาก นอกจากนี้จะหันกลับมาทบทวนกลุ่มลูกค้าใหม่เน้นกลุ่มที่มีความเสี่ยงน้อยลง
ด้านกรุงเทพประกันภัยก็ประกาศชัดเจนว่า ในปีหน้าจะหันมารุกตลาดประกันสุขภาพมากขึ้น หลังจากพบว่าตลาดประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลมีการแข่งขันอย่างรุนแรง และเป็นตลาดที่อิ่มตัวแล้ว คนส่วนใหญ่มีการซื้อกรมธรรม์ประเภทนี้ไว้อยู่แล้ว ทำให้บริษัทสร้างยอดขายได้ยาก
อย่างไรก็ตาม อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ผู้อำนวยการธุรกิจลูกค้ารายย่อย บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การสร้างกำไรจากสินค้าประกันสุขภาพก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นสินค้าที่มี Loss Ratioสูง เห็นได้จากบริษัทฯ มี Loss Ratioของประกันสุขภาพบุคคลอยู่ที่ 60% ในขณะที่ประกันสุขภาพกลุ่มอยู่ที่ 80% รวมถึงอัตราค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลต่างๆ ก็มีการปรับเพิ่มทุกปี ทำให้มีต้นทุนการบริหารค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
ก่อนหน้านี้กรุงเทพประกันภัยมีสินค้าประกันสุขภาพนำเสนอขายอยู่แล้ว เช่น มะเร็ง, 4 โรคคลาสสิค และมนุษย์เงินเดือน แต่เป็นลักษณะการเหมาจ่ายตามทุนประกันหากตรวจวินิจฉัยว่าเป็นโรคนั้น สำหรับปีหน้าบริษัทมีแผนจะเปิดตัวกรมธรรม์ประกันสุขภาพรูปแบบใหม่ โดยปรับการจ่ายค่าชดเชยเป็นการเบิกจ่ายตามจริง ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในหรือผู้ป่วยนอก ค่าชดเชยรายได้รายวัน และจะร่วมมือกับบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต ที่มีความเชี่ยวชาญและมีเครือข่ายของโรงพยาบาลในการพัฒนาสินค้าร่วมกัน และเน้นไปที่การเจาะลูกค้าระดับกลาง-บน ที่มีกำลังซื้อสูง พร้อมจะจ่ายเบี้ยประกันในหลักหมื่นบาทต่อปี
นอกจากจะใช้กลยุทธ์ในการปรับด้านตัวสินค้าแล้ว บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการปรับวิธีการนำเสนอขายสินค้าในช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้ง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการตลาด โดยอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรจากต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อมาช่วยแบ่งเซกเมนต์จากฐานลูกค้าของบริษัทที่มีอยู่ให้มีความละเอียดยิ่งขึ้น โดยลงลึกถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และพันธมิตรจะเข้ามาช่วยพัฒนาสินค้าให้หลากหลายและตรงกับความต้องการของลูกค้าที่มีความแตกต่างกัน เมื่อสินค้าตรงกับความต้องการของลูกค้า ก็จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น ช่วยเพิ่มอัตราซื้อของลูกค้าจาก 8% เป็น 12% ทำให้เบี้ยรับของบริษัทเพิ่มขึ้นด้วย
ล่าสุดกรุงเทพประกันภัยได้ปรับช่องทางขายให้มีประสิทธิภาพขึ้น โดยลูกค้าสามารถซื้อกรมธรรม์ประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ (Comprehensive Travel Accident : CTA) ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชม. และสามารถพิมพ์กรมธรรม์เพื่อยืนยันความคุ้มครองได้ทันที นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอขายกรมธรรม์อื่นๆ ด้วย ได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยโรคมะเร็ง ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันภัยชุด 4 โรคคลาสสิค และชุดมนุษย์เงินเดือน โดยตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยผ่านช่องทางออนไลน์ในปีนี้รวม 8 ล้านบาท เป็นสัดส่วนประกันการเดินทาง 50% ส่วนปีหน้าตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยผ่านช่องทางนี้ 15 ล้านบาท เติบโตขึ้น 80% การขายผ่านช่องทางออนไลน์ทำให้ต้นทุนของบริษัทลดลงครึ่งหนึ่ง และลูกค้าจะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยลง 12-15% เมื่อเทียบการซื้อจากช่องทางอื่นๆ นอกจากนี้บริษัทได้พัฒนาระบบให้ลูกค้าสามารถใช้บริการ i-Claim เพื่อแจ้งเคลมสินไหมรถยนต์ผ่านเว็บไซต์ได้ ช่วยลดขั้นตอนและย่นเวลาของลูกค้าในการติดต่อกับบริษัทได้
|
|
|
|
|