บลจ.กรุงไทยออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี มูลค่า 4 พันล.ลงทุนกรรมสิทธิ์ 2 โรงแรม ภูเก็ต – เชียงใหม่ และอีก 1สิทธิการเช่า หัวหิน กำหนดผลตอบแทนเบื้องต้น7%ต่อปี เตรียมเปิดจองปลายเดือนนี้

สมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กรุงไทย กล่าวว่า ได้เตรียมเสนอขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี(DTCPF) มูลค่า 4 พันล้านบาท ให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(IPO) ประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป

โดยกองทุนดังกล่าวจะเข้าลงทุนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์(Freehold) ในที่ดิน อาคาร และงานระบบสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม เฟอร์นิเจอร์ ทรัพย์สินและอุปกรณ์ต่างๆ ของโรงแรม ดุสิตธานี ลากูน่าภูเก็ต และโรงแรม ดุสิตดีทู เชียงใหม่ รวมทั้งลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) เป็นระยะเวลา 30 ปี ในที่ดิน อาคาร เฟอร์นิเจอร์ ทรัพย์สิน และอุปกรณ์ต่างๆ และงานระบบสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม ดุสิตธานี หัวหิน โดยสัดส่วนการลงทุนในกองทุนคิดเป็น Freehold 75% และLeasehold อีก 25%

ทั้งนี้ขั้นตอนหลังจากกองทุนเข้าไปซื้อสินทรัพย์ลงทุนในสิทธิการเช่าทั้งหมดแล้ว จะให้ บริษัท ดุสิต แมเนจเม้นท์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ บมจ.ดุสิตธานี (DTC) ถือหุ้น 99.99% เช่าทั้ง 3 โรงแรมจากกองทุน และจะรับประกันรายได้ขั้นต่ำเป็นระยะเวลา 4 ปีแรก ในอัตราปีละ 385 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้กองทุนรวมสามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างน้อยปีละครั้งโดยคิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ระดับประมาณ7%

สำหรับอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมดุสิตธานี ลากูน่าภูเก็ต อยู่ที่ 63% ขณะที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน อยู่ที่ 51% และโรงแรมดุสิตดีทู เชียงใหม่อยู่ที่ 40%

"จุดเด่นของทรัพย์สินนี้ อยู่ที่ความหลากหลายในแต่ละทำเลของโรงแรมในเครือดุสิตธานี ซึ่งอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสำหรับชาวไทยและต่างประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตในอนาคต และชื่อเสียงของดุสิตก็ได้รับการยอมรับ แม้จะมีปัญหาในช่วงที่ผ่านมาบ้าง แต่ก็สามารถฟื้นตัวได้เร็ว"

อนึ่ง ด้วยขนาด 4 พันล้านบาทของกองทุนดังกล่าว ถือเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 จากจำนวนทั้งหมด 27 กองที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมกองที่ 5 ทั้งนี้หากเทียบผลตอบแทนที่คาดว่าจะอยู่ที่ 7-7.5% ต่อปีก็ยังถือว่ายังต่ำกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนจาก 5 กองทุนใหญ่ที่ 8.14% ต่อปี และค่าเฉลี่ยผลตอบแทนของกองทุนอสังหาทั้งหมดที่ 8.04%ต่อปี