|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ล็อกซเล่ย์ดันกลุ่มธุรกิจเทรดดิ้งสยายปีกบุกตลาดอาเซียนและจีน เร่งผนึกพันธมิตรเสริมทัพ พร้อมขยายช่องทางเสริมแกร่ง ทั้งโชวห่วย คีออส หน่วยรถ ตั้งเป้าโกยยอดสิ้นปี 4,500 ล้านบาท
ด้วยเป้าหมายที่ต้องการเป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายและซัปพลายเชนด้านเครือข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ กอปรกับการปรับตัวเพื่อสร้างความพร้อมรับมือกับการรวมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี 2558 “ล็อกซเล่ย์” หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 20 แบรนด์ จึงต้องเปิดเกมรุกพร้อมปรับยุทธศาสตร์การบุกให้เข้มข้นยิ่งขึ้น
ล่าสุด การเตรียมแผนนำสินค้าอุปโภคบริโภคที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายเข้าไปขยายในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในแถบอาเซียนและสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจะมีทั้งการเข้าไปตั้งสำนักงานด้วยตนเอง การแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย หรือการร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศนั้น โดยจะพิจารณาตามความเหมาะสมและศักยภาพ เช่น การแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย ที่มณฑลกว่างโจว ประเทศจีน 1 ราย เพราะเป็นผู้ประกอบการที่มีช่องทางการจำหน่ายสินค้ากว่า 100 หน้าร้าน ส่วนประเทศกัมพูชา และพม่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งสำนักงาน เพื่อหาพันธมิตรมาร่วมทุนหรือแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย
“บริษัทเคยตั้งสำนักงานเพื่อทำตลาดใน 2 ประเทศ คือ ลาวและเวียดนาม แต่การขยายตลาดไปยัง 3 ประเทศล่าสุดนี้ ถือเป็นการนำร่องบุกตลาดต่างประเทศของล็อกซเล่ย์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะที่บางประเทศบริษัทยังต้องศึกษาสภาพตลาดเพื่อลดความเสี่ยง เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ แม้จะเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูง แต่ด้วยระบบการขนส่งของล็อกซเล่ย์ที่ยังไม่พร้อมรองรับในช่วง 1-2 ปีนี้ บริษัทจึงมุ่งสร้างและขยายตลาดในประเทศที่มีความพร้อมให้แข็งแกร่งก่อน โดยตอนนี้สัดส่วนการส่งสินค้าออกต่างประเทศอยู่ที่ 3% คาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 10% ในปีหน้า และเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต” เป็นคำกล่าวของ สุรพันธ์ ภาษิตนิรันดร์ กรรมการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะกำกับดูแลกลุ่มธุรกิจการค้า
สำหรับสินค้าที่ล็อกซเล่ย์นำเข้าไปบุกตลาดต่างประเทศนั้น จะมีทั้งสินค้าที่บริษัทจัดจำหน่ายและสินค้าของคู่ค้า ในรูปแบบพันธมิตรทางการค้า หนึ่งในกลยุทธ์การพัฒนาและเสริมแกร่งบริษัท ซึ่งแต่ละปีล็อกซเล่ย์ตั้งเป้าเพิ่มแบรนด์สินค้าหรือต้องมีพันธมิตรรายใหม่ในมือปีละประมาณ 5-6 แบรนด์ โดยปัจจุบันมีลูกค้าทั้งหมดรวมกว่า 20 แบรนด์ ทั้งนี้ น้ำอัดลมแบรนด์ไบเล่ย์ และผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวแบรนด์มันชี่ คือคู่ค้ารายล่าสุดที่ค่ายล็อกซเล่ย์ได้สิทธิ์เป็นตัวแทนจำหน่าย
ขณะเดียวกัน ค่ายนี้ยังเสริมแกร่งด้านช่องทางจำหน่าย เพื่อเพิ่มศักยภาพในการกระจายสินค้าให้มากขึ้น ทั้งนี้ สุรพันธ์ บอกว่า บริษัทเตรียมขยายร้านคีออสเข้าไปตามสถาบันการศึกษาและชุมชน โดยตอนนี้ได้นำร่องโมเดลดังกล่าวไปแล้ว 7-8 แห่ง ใช้งบลงทุนแห่งละประมาณ 50,000 บาท ซึ่งบริษัทคาดว่าจะขยายให้ครบ 100 แห่งภายในสิ้นปีหน้า ไม่เพียงเท่านี้ ในช่องทางจำหน่ายรูปแบบอื่น เช่น ร้านโชวห่วย ก็มีแผนเตรียมขยายเพิ่มเป็น 2,800-3,000 แห่ง จากที่มีกว่า 2,500 แห่ง หรือการเพิ่มหน่วยรถแวน รถมอเตอร์ไซค์เพื่อนำสินค้าเข้าไปตามชุมชนหรือตามร้านค้าขนาดเล็กในหมู่บ้าน โดยเป็นรูปแบบการส่งสินค้าที่ล็อกซเล่ย์เริ่มดำเนินการกว่า 1 ปี ซึ่งปัจจุบันมีรถแวนราว 100 คัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 30 คัน
สำหรับการเดินเกมรุกของล็อกซเล่ย์นับจากนี้ เป้าหมายอยู่ที่การดันกลุ่มธุรกิจเทรดดิ้งสยายปีกบุกตลาดต่างประเทศอย่างเต็มที่ โดยปีนี้ตั้งเป้าธุรกิจกลุ่มนี้เติบโตขึ้น 8-10% หรือปิดรายได้ที่ 4,500 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมบริษัทมีการขยายตัวราว 20% ซึ่งประกอบด้วย 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีการค้าภาครัฐ 2.ภาคการบริการ ปัจจุบันดำเนินงานบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 3.สายธุรกิจร่วมทุนกับพันธมิตร และ 4.ธุรกิจเทรดดิ้ง หรือธุรกิจการค้าตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยปัจจุบันสัดส่วนอุปโภคบริโภคทำรายได้ 60% ส่วนสินค้าในภาคอุตสาหกรรมมีสัดส่วน 40%
|
|
|
|
|