|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
หากพูดถึงสายการบินจากตะวันออกกลาง “สายการบินกาตาร์” นับเป็นหนึ่งในสายการบินที่มีศักยภาพในการรับมือกับการแข่งขันของธุรกิจการบินในปัจจุบันอยู่ไม่น้อย ด้วยปัจจัยความพร้อมด้านกำลังคน บวกกับความพร้อมด้านกำลังเงินและศักยภาพของเครื่องบิน เชื่อว่า “สายการบินกาตาร์” คือหนึ่งในคู่แข่งที่ธุรกิจการบินต้องจับตามอง
“อัคบาร์ อัล เบเคอร์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินกาตาร์ พร้อมจะมาเล่าเรื่องราว และแนวทางการบริหารที่วางไว้ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2556
ขยายเส้นทางบินเพิ่ม
อัคบาร์ อัล เบเคอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินกาตาร์ กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผมเป็นผู้บริหารมา 10-11 ปี ผมวางแผนการขยายเส้นทางบินมาโดยตลอด จากเดิมที่มีเครื่องบิน 35 ลำ 35 เส้นทางบิน ขณะนี้ก็มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าแล้ว คือ 94 เส้นทางบิน เครื่องบินมี 90 ลำ ผมวางแผนการขยายตัวไว้ล่วงหน้าเป็น 10 ปีแล้ว แต่ไม่สามารถบอกได้เนื่องจากกลัวคู่แข่งจะรู้ทัน”
อย่างไรก็ดี ในปี 2556 มีแผนที่จะขยายเส้นทางบินเป็น 120 เส้นทางบิน และขยายเส้นทางบิน 120 ลำ โดยเครื่องบินที่ใช้บินจะมีอายุไม่เกิน 5 ปี ซึ่งขณะนี้เครื่องบินที่มีอายุมากสุดคือ 3 ปี ส่วนแนวทางการขยายเส้นทางบินจะอยู่ในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น จีน อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะไทยถือเป็นประเทศที่มีสนามบินจำนวนมาก ซึ่งสามารถเป็นฮับได้อีกมาก จะเห็นว่ากาตาร์ขยายเส้นทางบินเข้ามาในไทยไม่ต่ำกว่า 10 ปีแล้วตั้งแต่เมษายน 2543 ปีที่ผ่านมา พาผู้โดยสารเข้ามาในไทย 200,000 คน ปีนี้กาตาร์ก็ตั้งเป้าจะพาผู้โดยสารเข้าไทย 300,000 คน
“ที่เราเปิดเส้นทางบินมาเลเซีย-ภูเก็ต-โดฮานั้นเนื่องจากเราเห็นศักยภาพตรงนี้ และประเทศไทยกับรัฐกาตาร์ต่างมีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนานและแน่นแฟ้น การที่สายการบินกาตาร์เปิดให้บริการเที่ยวบินมายังภูเก็ต เท่ากับเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของภูเก็ตตลอดทั้งปี ซึ่งจากที่เปิดให้บริการมาถือว่าได้รับการตอบรับอย่างดี โดยเฉพาะในช่วงกลางฤดูหนาวมีการจองที่นั่งเข้ามาจำนวนมาก จากความถี่สัปดาห์ละ 6 เที่ยวบินก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มเป็นวันละ 1 เที่ยวบิน”
ทั้งนี้ กาตาร์เป็นสายการบินตะวันออกกลางเพียงแห่งเดียวที่ให้บริการสู่ภูเก็ต โดยกลุ่มเป้าหมายที่กาตาร์มองไว้จะมีทั้งคนยุโรปที่ต้องการบินเข้ามาที่ภูเก็ต และคนไทยที่ต้องการบินไปยุโรป และเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 10 ปีของการเปิดบริการสู่กรุงเทพฯ จะมีการเพิ่มเที่ยวบินอีก 1 เที่ยวบินเป็นวันละ 3 เที่ยวบิน โดยเริ่มต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ทำให้เที่ยวบินระหว่างไทยไปกาตาร์เพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 28 เที่ยวบิน
อย่างไรก็ตาม การขยายเส้นทางบินเข้าไทยถือว่าไม่มีอุปสรรคใดๆ เลย แม้ว่าไทยจะมีปัญหาเรื่องการเมืองก็ตาม เนื่องจากประเทศไทยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนผู้โดยสารจากตะวันออกกลางที่บินเข้ามารักษาตัวในไทยถือว่ามีปริมาณมาก ดังนั้น กาตาร์จึงมีบริการเปลสำหรับผู้ป่วยในเครื่องบิน 1-2 เปลต่อ 1 ลำ
สำหรับแนวทางการพัฒนากาตาร์ในระดับโลกนั้น ที่ผ่านมาถือว่ากาตาร์เป็นสายการบินที่มีพัฒนาการที่ดี เห็นได้จากปี 2550 ซึ่งเศรษฐกิจไม่ดีทั่วโลก กาตาร์ก็ลดที่นั่งเฟิร์สคลาสออกให้เหลือเพียงบิสซิเนสกับอีโคโนมีเท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูก
นอกจากนี้ ยังมีการขยายเส้นทางกรุงเทพฯ-ฮานอย สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน และเดินทางไปยังโฮจิมินห์ซิตี้ สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน ซึ่งสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเวียดนาม หรือเวียดนามมากรุงเทพฯ
ตลาดโต-กาตาร์พร้อมรุก
เบเคอร์ กล่าวถึงปัจจัยที่ทำให้กาตาร์รุกตลาดเอเชียมากขึ้น เนื่องจากตลาดการท่องเที่ยวในเอเชียกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และสายการบินกาตาร์ก็มีความพร้อมและจุดแข็งพร้อมที่จะสนองความต้องการในตลาดนี้เป็นอย่างดี เห็นได้จากตัวเลขของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ IATA ที่บอกว่าความต้องการในการเดินทางของผู้โดยสารทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปีที่ผ่านมา ดังนั้น การขยายตัวของกาตาร์ในเอเชียขณะนี้นับเป็นเวลาที่เหมาะสม และทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดที่กำลังเติบโตได้อย่างดี
นอกจากการขยายเส้นทางบินเหล่านี้แล้ว กาตาร์ยังมีแผนที่จะขยายเส้นทางบินทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อเชื่อมต่อสู่เมืองที่ยังมีบริการบินไม่เพียงพอ รวมทั้งเป็นการใช้ประโยชน์สูงสุดจากการมีโดฮาเป็นศูนย์กลางการบินที่สำคัญ โดยในอนาคตกาตาร์จะเปิดเส้นทางบินใหม่ไปยัง 5 เมืองใหญ่ คือ นีซ ในปี 2553 และบูดาเปสต์, บูคาเรสต์, บรัสเซลส์, สตุทการ์ท ในปี 2554
ตั้งเป้า 16.5 ล้านคน
เบเคอร์ กล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายของกาตาร์นั้นในฐานะของซีอีโอตั้งเป้าที่จะพัฒนากาตาร์ให้มีการเติบโตมากยิ่งขึ้น โดยเป้าตัวเลขผู้โดยสารนี้ตั้งไว้ที่ 16.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 14 ล้านคน
สำหรับการแข่งขันในธุรกิจการบินปัจจุบัน เบเคอร์ มองว่า ขณะนี้สายการบินโลว์คอสต์รุกตลาดมากขึ้น หากโลว์คอสต์มีการเข้ามากินแชร์ของกาตาร์ กาตาร์ก็พร้อมจะเปิดสายการบินโลว์คอสต์แข่งโดยจะเป็นโลว์คอตส์แบบฟูลเซอร์วิส ซึ่งขณะนี้มีการวางระบบไว้แล้ว หากต้องการเปิด ก็สามารถเปิดได้ภายใน 3 เดือน โดยจะใช้เครื่อง A320 และ A321 ซึ่งบรรจุผู้โดยสารได้ 180 ที่นั่ง ทั้งนี้ เส้นทางโลว์คอสต์ที่กาต้าร์จะบินใช้เวลาในการบินไม่เกิน 4 ชั่วโมง
เบเคอร์ ยังได้เล่าถึงนโยบายการทำ CSR ว่า ขณะนี้กาตาร์มีการทำ CSR กับเส้นทางบินลอนดอน-โดฮา ด้วยการใช้ก๊าซ GTL เป็นเชื้อเพลิงในการบิน ซึ่งจะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศได้อย่างมาก
ทั้งหมดนี้ คือ ภารกิจที่ “อัคบาร์ อัล เบเคอร์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินกาตาร์ วางแผนที่จะทำ คงต้องรอดูกันต่อไปว่า เป้าหมายที่วางไว้จะเป็นไปตามต้องการมากน้อยเพียงใด
|
|
|
|
|