|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระหรือเกรย์มาร์เกตรายใหญ่ แข่งกันปรับตัวสร้างจุดขายด้านบริการหลังการขาย หนีการแข่งขันด้านราคากับเกรย์ฯ รายย่อย และหน้าใหม่
ตลาดรถยนต์นำเข้าอิสระคุกรุ่น หลังบรรดาผู้นำเข้าอิสระรายใหญ่ ถูกเกรย์มาร์เกตรายเล็กๆ ตีตลาดอย่างหนักด้วยกลยุทธ์ด้านราคา และสิ่งเดียวที่จะสามารถสร้างความแตกต่าง และเป็นจุดขายได้คือ การทำในเรื่องบริการหลังการขายที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะโชว์รูมและศูนย์บริการ
ก่อนหน้านี้ เอส.อี.ซี. กรุ๊ป อดีตผู้นำในตลาดรถยนต์นำเข้าอิสระ นั้นเคยมีการขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการไว้มากถึง 12 แห่ง และสามารถครองความยิ่งใหญ่ในตลาดมาได้เป็นเวลานาน จนล่มสลายด้วยเรื่องของการทุจริตภายใน ซึ่งการมีโชว์รูมและศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ๆ รวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือในการซ่อมบำรุงที่พร้อม ทำให้รถยนต์นำเข้าของ เอส.อี.ซี.ฯ ในเวลานั้นได้รับความนิยมสูง แม้จะต้องแข่งขันกับเกรย์รายย่อยด้านราคาก็ตาม
เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เกรย์มาร์เกต 3 รายใหญ่ในเวลานี้ ต้องเพิ่มจำนวนโชว์รูม หรือศูนย์บริการให้ครอบคลุมในหลายๆ พื้นที่ หรือแม้แต่การขยายศูนย์บริการ เพื่อรองรับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และอีตั้น อิมปอร์ต เป็นหนึ่งในเกรย์มาร์เกตรายใหญ่ที่ เตรียมขยายงานด้านบริการหลังการขายในปี 2554 ว่ากันว่าจะเป็นปีที่มีการแข่งขันรุนแรงมากกว่าปีนี้ และแน่นอนสิ่งที่อีตั้นฯ กังวลคือ สงครามราคา
พีรศุษม์ ตันติยันกุล กรรมการผู้จัดการ อีตั้น อิมปอร์ท บอกว่า การขยายพื้นที่ศูนย์บริการในครั้งนี้จะต้องใช้งบประมาณราว 80 ล้านบาท เพื่อขยายศูนย์บริการใหม่ ประกอบด้วยช่องซ่อมทั้งหมด 23 ช่องซ่อม จากเดิมศูนย์บริการสำนักงานใหญ่บนถนนศรีนครินทร์มีเพียง 8 ช่องซ่อม ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับการให้บริการได้มากถึง 1,500 คันต่อเดือน
ศูนย์บริการใหม่แห่งนี้ จะมีความพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน สำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ อาทิ มุมดูหนัง มินิบาร์ อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้เพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ “Excellent Service” เน้นบริการที่ดีเยี่ยม ตั้งแต่การนำรถเข้าบริการจนเสร็จพร้อมส่งมอบ โดยช่างผู้ชำนาญการที่ผ่านการฝึกอบรมการใช้เครื่องมือ เทคนิคพิเศษในการวิเคราะห์สาเหตุ และปัญหา รวมถึงการแก้ไขเครื่องยนต์ในทุกอาการ สำหรับรถยนต์ทุกรุ่นทุกยี่ห้อที่ทางอีตั้นจัดจำหน่าย ขณะเดียวกัน ศูนย์บริการแห่งใหม่ ยังถือเป็นการเปิดโอกาสทางธุรกิจ พร้อมขยายกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น และคาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบได้ราวเดือนมีนาคม 2554
ในขณะที่ค่ายทีเอสแอล เกรยร์มาร์เกตรายใหญ่ย่านหลักสี่ และที่ผ่านมาได้เริ่มขยายโชว์รูมและศูนย์บริการอีก 2 แห่งคือ ย่านสาทร และทองหล่อ (สุขุมวิท 55) โดยทั้งหมดถูกวางกลยุทธ์ด้านบริการหลังการขายด้วยคอนเซ็ปต์ SMRT (Smart team and Smart service) เป็นแผนการยกระดับการให้บริการหลังการขายสำหรับรถยนต์นำเข้าของทีเอสแอล ส่วนในต่างจังหวัดนั้น ทีเอสแอลก็เริ่มรุกตลาดไปยังภูเก็ต พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ และมีปริมาณผู้ใช้รถยนต์นำเข้าอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ค่ายทีเอสแอล อยู่ระหว่างการดำเนินการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการในกรุงเทพฯ อีก 1 แห่งด้วย
แม้แต่บีอาร์จี หรือเบนซ์รามคำแห่งกรุ๊ปเอง นอกจากโชว์รูมและศูนย์บริการที่มีอยู่ 2 สาขาคือที่ถนนรามคำแหง และพหลโยธิน แล้ว บีอาร์จี ก็เลือกกลยุทธ์การเพิ่มเครือข่ายศูนย์บริการผ่านจุดให้บริการขนาดเล็กที่เรียกว่า Pro Care หรือศูนย์ดูแลรักษารถยนต์ และให้บริการ ล้าง ขัด เคลือบ ให้บริการประเภทเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ล้างหัวฉีด แม้จะไม่สามารถให้บริการที่ครอบคลุมบริการหลังการขายได้ทั้งหมด แต่ก็สามารถใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้าได้ทางหนึ่ง และใช้งบลงทุนที่ไม่มากมายนัก
เหล่านี้เป็นความพยายามในการสร้างจุดแข็งของบรรดาผู้นำเข้ารถยนต์อิสระรายใหญ่ ที่ทั้งต้องแข่งขันกันเอง ในด้านยอดขาย และบริการหลังการขาย รวมถึงต้องต่อสู้กับผู้นำเข้าอิสระรายเล็ก ที่อาศัยพื้นที่โชว์รูมเพียงไม่กี่ตารางเมตร นำรถยนต์มาขายในราคาที่ต่ำกว่า แต่ไม่มีบริการหลังการขายใดๆ โดยมีตลาดรวมรถยนต์นำเข้าอิสระในปีนี้ที่คาดว่าจะสูงกว่า 3,000 คันเป็นเป้าหมายสำคัญ
|
|
|
|
|