ไทยแอร์เอเชีย ปรับแผน รับการเมืองไม่นิ่ง ทัศพล เผย 3 ปี เสียโอกาสโกยรายได้ 3 พันล้านบาท ชะลอรับมอบเครื่องบินป้ายแดง 4 ลำ เบนเข็ม ใช้เดสติเนชั่น เมืองศักยภาพ ต่อท่อถึงไทย ปีหน้ามุ่งเสริมแกร่ง 3 ฮับหลัก ฝันรายได้โตแตะ 25%

นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ทางสายการบินได้มีการปรับแผนธุรกิจให้สอดรับกับสถานการณ์ เพราะจากวามวุ่นวายทางการเมืองไทย ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กระทบกับนักท่องเที่ยวในหลายตลาดเป้าหมายชะลอการเดินทาง เช่น นักท่องเที่ยวจากประเทศจีน รวมถึงชะลอการรับมอบเครื่องบินใหม่ป้ายแดง ช่วงปี 2553-2554จากแผนเดิมจะรับมอบปีละ 4 ลำ ปรับลดเหลือปีละ 2 ลำ เสียโอกาสที่จะเปิดเส้นทางบินใหม่รวม 5 เส้นทาง แบ่งเป็นเส้นทางประเทศอินเดีย 3 เส้นทาง และ ประเทศจีน 2 เส้นทาง รวมมูลค่าที่เสียโอกาสทางธุรกิจราว 3 พันล้านบาท

***ใช้บาหลีต่อท่อดึงออสซี่เข้าไทย****
นอกจากนั้นทางสายการบิน ยังปรับแผนเร็วขึ้นในส่วนของเส้นทางที่มีศักยภาพ ได้แก่ แผนการตั้งเชียงใหม่ เป็นฮับทางภาคเหนือของไทยแอร์เอเชีย ที่จะเริ่มเปิดเส้นทางบิน เชียงใหม่ -สิงคโปร์ และ เชียงใหม่หาดใหญ่ เริ่มบิน 24 ม.ค.54 ล่าสุด เปิดเส้นทางภูเก็ต -บาหลี สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน พร้อมโปรโมชั่น ราคาเริ่มต้น 1,490 บาทต่อที่นั่ง สำรองได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 14 พ.ย.53 ที่www.airasia.com เริ่มเดินทาง 17 ธ.ค.ศกนี้ เป้าหมายหลัก คือกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย ที่เดินทางมาเที่ยวบาหลี ได้เพิ่มทางเลือกในวันพักผ่อน ต่อเครื่องมาเที่ยวที่ภูเก็ตด้วย ตั้งเป้าโหลดแฟกเตอร์ไม่ต่ำกว่า 80% ในที่นี้ กว่า 60%จะเป็นชาวออสเตรเลีย ที่เหลือ เป็นชาติอื่นๆ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น

“เราปรับแผนโดยมุ่งเปิดเส้นทางที่มีศักยภาพ เพื่อมาชดเชย เส้นทางที่เสียไป เพราะ จีนเป็นตลาดอ่อนไหว ถ้าการเมืองไม่นิ่ง เขาก็จะชะลอการเดินทาง ส่วนบาหลี มีเที่ยวบินตรงมาจากหลายประเทศ และ นักท่องเที่ยวก็ต้อการเดินทางมาภูเก็ตด้วย แต่ ยังไม่มีเที่ยวบินตรง เช่น ตลาด ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวเดลี เกาหลี ซึ่งเดสตินั่นเหล่านี้ ไทยแอร์เอเชีย ก็บินไปได้ไม่ถึง เราจึงใช้วิธีต่อท่อขนผู้โดยสารจากบาหลีเข้ามาภูเก็ต”

**ชู 3 ฮับ เสริมแกร่ง***

แผนธุรกิจปี 2554 จะไม่เน้นเปิดเส้นทางบินในประเทศ แต่จะหันมาบริหารจัดการ เส้นทางบินที่ทยอยเปิดในปีนี้และต้นปีหน้า รวมถึง 3 ฮับการบินใหมที่เปิดแล้ว คือ ภูเก็ต เชียงใหม่ และ อุดรธานี ให้แข้งแกร่งโดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของผลประกอบการธุรกิจในปีหน้าไว้ที่25-26% สำหรับปีนี้ ผลประกอบการ ก็ยังคงเติบโต เฉลี่ยที่ 24-25% ป็นการเติบโตที่น้อยกว่า ช่วง 2-3 ปีก่อน ที่เคยโตได้ถึงปีละ 50-70% ซึ่งการมุ่งสร้างศูนย์กลางทางการบิน(ฮับ)ให้ครอบคลุมทุดภูมิภาคทั่วประเทศไทย ถือเป็แผนกระจายความเสี่ยง ให้นักท่องเที่ยวมีทางเลือกที่จะบินตรงเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้ แม้จะมีความวุ่นวายทางการเมืองเกิดขึ้น ซึ่งไทยแอร์เอเชีย ยังประเมินไม่ได้ว่า ในปีหน้าหลังการเลือกตั้งจะมีความวุ่นวายทางการเมืองอีกหรือไม่และหนักแค่ไหน แต่เมื่อมีฮับ ในจังหวัดหลักๆดังที่กล่าวมาก็จะลดความเสี่ยงได้