Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา พฤศจิกายน 2553
Naif Al-Mutawa: ผู้รังสรรค์ The 99             
โดย สมศักดิ์ ดำรงสุนทรชัย
 


   
www resources

The 99 Homepage

   
search resources

Printing & Publishing
The 99
Naif Al-Mutawa




ภายใต้บทบาทการเป็นบรรณาธิการใหญ่ของ Teshkeel Comics เรื่องราวของ Naif Al-Mutawa อาจเป็นเพียงวิถีที่ดำเนินไป ไม่แตกต่างจากผู้ประกอบการสิ่งพิมพ์รายอื่นๆ ที่มีอย่างมากมายในบรรณพิภพ

หากแต่ด้วยความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นประหนึ่งต้นทางและที่มาของ The 99 เรื่องราวของอภิวีรชนที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานทางความเชื่อและวัฒนธรรมอิสลาม รวมถึงการได้รับเลือกโดย The Royal Islamic Strategic Studies Cente ให้เป็น 1 ใน 500 มุสลิมที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกปัจจุบันถึง 2 ปีซ้อน (2009 และ 2010) วิสัยทัศน์ของ Naif Al-Mutawa ย่อมมิใช่สิ่งที่จะมองข้าม หรือละเลยไปโดยง่าย

Naif Al-Mutawa ซึ่งปัจจุบันอายุ 40 ปี เขียนถึงผู้อ่านไว้ใน Naif’s Notes ซึ่งปรากฏอยู่ในช่วงท้ายเล่มของ The 99: Origins สะท้อนกระบวนทัศน์และความเป็นไปของเขาไว้อย่างน่าสนใจ

เมื่ออายุเก้าขวบ เขาหนีออกจากบ้าน โดยเตรียมสัมภาระที่คิดว่าจำเป็นสำหรับการเผชิญโลกกว้าง แต่หลังจากเวลาผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง พ่อแม่ของเขาก็พบ ว่าเขาเตร็ดเตร่อยู่ไม่ไกลจากแถวละแวกบ้าน พวกเขาตรวจดูว่านักเดินทางตัวน้อยของพวกเขาเตรียมตัวอะไรมาบ้าง

“สิ่งที่พวกเขาพบในกระเป๋าของผมมีเพียงหนังสือแนวผจญภัยหอบใหญ่ ทั้ง The Hardy Boys และ Nancy Drew ซึ่งถือเป็นชีวิตจิตใจสำหรับผม อะไรอีกล่ะที่เราจะต้องการมากไปกว่านี้”

เขาเป็นนักอ่านที่พร้อมจะใช้เวลา และค่าใช้จ่ายให้หมดไปกับหนังสืออย่าง จริงจัง แต่หนังสือที่เขาอ่านไม่ใช่หนังสือ เรียนที่บรรจุอยู่ในหลักสูตรการศึกษา เพราะสำหรับเขาแล้ว

“หนังสือเรียนมีไว้สำหรับพวกที่ไม่มีหนังสืออะไรจะให้อ่านเท่านั้น” แต่เขาก็พร้อมจะอ่านหนังสือทุกเล่มที่มีเนื้อหาดึงดูดความสนใจของเขา

เมื่อถึงอายุ 11 ปี เขาบอกกับพ่อแม่ของเขาว่า เขาต้องการ จะเป็นนักเขียน ซึ่งพ่อแม่ของเขาก็ยินดีที่จะสนับสนุน ตราบเท่าที่การเขียนหนังสืออยู่ในฐานะที่เป็นงานอดิเรก เพราะสำหรับพ่อแม่ของเขาแล้ว การเป็นนักเขียนไม่ใช่สิ่งที่จะพิจารณาในฐานะอาชีพได้

“ผมจึงเติบโตขึ้น โดยมีหนังสือเป็นประหนึ่งคำสาป และสิ่งจรรโลงใจไปพร้อมกัน”

เมื่อเขาเดินทางไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในสหรัฐอเมริกา ที่มหาวิทยาลัย Tufts เขาเลือกเรียนวิชาเอกรวม 3 สาขา โดยเขาเลือกเรียนวิชาจิตวิทยาและประวัติศาสตร์ ด้วยเหตุผลว่าเพื่อพ่อแม่ และสาขาวรรณคดีอังกฤษเพื่อสนองความสนใจของตัวเขา เอง ซึ่งเมื่อเขาเดินทางกลับสู่มาตุภูมิในคูเวตหลังสำเร็จการศึกษา เขาก็ได้ใช้ความรู้เข้าทำงานในสถาบันทางการแพทย์ในฐานะนักวิจัย ควบคู่กับการเขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น

“งานที่สถาบันแพทย์เป็นไปเพื่อพ่อแม่ ขณะที่การเขียนคืองานสำหรับผมเอง”

Naif Al-Mutawa เดินทางกลับไปสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง เพื่อศึกษาต่อในสาขา Clinical Psychology จนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัย Long Island แต่นั่นไม่ได้ทำให้แรงปรารถนาที่จะเป็นนักเขียนของเขาดับมอดลงและการมีชีวิตแบบแยกส่วน เป็น 2 ภาคเริ่มยากขึ้นและเขาไม่ต้องการที่จะเก็บงานเขียนไว้ในตู้อีกต่อไป

ขณะเดียวกัน ด้วยประสบการณ์ของการเป็นจิตแพทย์ที่ได้ทำงานคลุกคลี กับอดีตเชลยสงครามทั้งจากสงครามในคูเวต และในฐานะจิตแพทย์ผู้ปฏิบัติการ อยู่ในศูนย์ผู้รอดชีวิตจากการทารุณกรรมทางการเมือง (Survivors of Political Torture Unit) ของโรงพยาบาล Bellevue ในนครนิวยอร์ก ทำให้เขาตระหนักและหยั่งรู้ได้ถึงพิษภัยของการถือทิฐิที่มีในทุกสังคม

ประสบการณ์โดยตรงเกี่ยวกับประพฤติกรรม ที่โหดร้ายทารุณที่มนุษย์กระทำต่อกัน เพียงเพราะมีความเชื่อทางศาสนาและแนวความคิดทางการเมืองที่แตกต่างกันกลายเป็นแรงผลักดันให้ Naif Al-Mutawa เขียนวรรณกรรมสำหรับเด็ก To Bounce or not to Bounce ซึ่งส่งผลให้เขากลายเป็นนักเขียน มือรางวัล เมื่อ UNESCO ประกาศให้หนังสือของเขา เล่มนี้ได้รับรางวัลในสาขา Children’s Literature in the Service of Tolerance ในปี 1997

ในปี 2003 หลังจากที่เขาสำเร็จการศึกษาด้านการบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียใน New York เขาก็ค้นพบวิธีที่จะบูรณาการความรู้และความสนใจที่แตกต่างกันสุดขั้วในตัวเขาเข้าไว้เป็นเรื่องเดียวกัน ด้วยการสร้างตัวละครอภิวีรชนสำหรับ เยาวชนในโลกมุสลิม ซึ่งเป็นที่มาของ The 99 ในที่สุด

Naif Al-Mutawa ได้รับรางวัลจากวิถีความคิดของเขามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Eliot-Pearson Award ในสาขาความเป็นเลิศในการผลิตสื่อสำหรับ เด็ก จากมหาวิทยาลัย Tufts และรางวัล “Market-place of Ideas” จาก United Nations Alliance of Civilizations รวมถึงรางวัล Social Entrepreneurship จาก Schwab Foundation ซึ่งมีการมอบรางวัลในการประชุม World Economic Forum เมื่อปี 2009

แต่เหนือสิ่งอื่นใด เขาเชื่อว่า “The 99 จะเป็นประหนึ่งเพื่อนสำหรับเยาวชนที่มีจำนวนกว่า 1 ใน 4 ของพลโลก ภายใต้แนวความคิดและความเชื่อของอิสลาม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านผู้อ่านจะร่วมเคียง ข้างไปกับเราตลอดการเดินทางที่ยิ่งใหญ่นี้”

สิ่งที่ Naif Al-Mutawa มุ่งหวังไว้ ย่อมไม่ใช่สิ่งเลื่อนลอย และดูเหมือนว่าการเดินทางครั้งใหญ่ของเขาจะมีเพื่อนร่วมเดินทางมากมายขึ้นทุกขณะเสียด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us