รถไฟฟ้าทำราคาที่ดินโดยรอบสถานีพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2541-2553 พุ่งขึ้นเกือบเท่าตัว โดยจากการสำรวจราคาที่ดินรอบสถานีรถไฟฟ้า 112 สถานีตามแนวรถไฟฟ้า 10 สายในเขตกรุงเทพมหานครพบว่าราคาพุ่งขึ้น 178% หรือเท่ากับปีละ 8.9% สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยเงินฝากโดยเก็บที่ดินไว้เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย บางแห่งราคาพุ่งขึ้นมากกว่าสองเท่าตัว เช่น บริเวณสถานีรถไฟฟ้านานาและสถานีรถไฟฟ้าเอกมัย ราคาพุ่งขึ้น 233% หรือเฉลี่ยปีละ 10.5%
โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหารศูนย์ข้อมูลวิจัย และประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอส เตท แอฟแฟร์ส ระบุว่า พิจารณาเฉพาะในช่วงปี 2548-2553 หรือ 5 ปีล่าสุด ยิ่งพบว่าอัตราการเพิ่มของราคาที่ดินรอบรถไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นถึง 104% หรือหนึ่งเท่าตัว เท่ากับปีหนึ่งราคาเพิ่มขึ้น 15.3% สูงยิ่งกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เสียอีก ที่เด่นชัดกว่านั้นก็คือในรอบปี 2552-2553 ราคาที่ดินรอบสถานีรถไฟฟ้าพุ่งขึ้นถึง 17.9% ภายในปีเดียว ขณะที่อัตราการเพิ่มเฉลี่ยทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพิ่มขึ้นเพียง 4.4% มีบางแห่งราคาที่ดินกลับตกต่ำลงด้วยเช่นกัน แม้ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำสุดขีดในช่วงปี 2540-2542 ราคาที่ดินในบริเวณใกล้สถานีรถไฟฟ้าก็ยังไม่ตกแต่กลับหยุดนิ่งไประยะหนึ่ง ในขณะที่ราคาโดยเฉลี่ยทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในช่วง ดังกล่าวตกต่ำลงปีละประมาณ 10%
ผลการสำรวจของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหา ริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส พบว่า ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส มีราคา เฉลี่ยตารางวาละ 300,000-1,200,000 บาท สูงสุด สถานีสยาม สแควร์ เพลินจิต ชิดลม ตารางวาละ 1,200,000 บาท เพิ่ม 20% โดยราคาที่ดินขนาดนี้ต้องใช้ธนบัตรใบละ 1,000 บาท 3 ใบและใบละ 500 อีก 1 ใบ พร้อมเหรียญอีกจำนวนหนึ่งวางบนพื้นที่ 1 ตารางวา จึงจะมีค่าเป็นเงิน 1,200,00 บาท ในช่วงปี 2548-2552 แนวรถไฟฟ้าบีทีเอสทั้งสายเพิ่ม 104% หรือเฉลี่ยปีละ 20.8% ส่วนช่วงล่าสุดปี 2552-2553 อัตราการเพิ่มคือ 10.0-28.6% เฉลี่ย 17.9% โดยทำเลย่านสีลม สาทร มีราคาตารางวาละ 900,000-1,000,000 บาท (เพิ่ม 12.5-17.6%) ส่วนย่านสุขุมวิท ราคาเฉลี่ยคือ 600,000-900,000 บาท (เพิ่ม 20-25%) ขณะที่ราคาที่ดินบริเวณสถานีรถ ไฟฟ้าส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง ตากสิน-บางหว้า หมอชิต-สะพานใหม่ในรอบปี 2552-2553 ล่าสุดพบว่า บริเวณอ่อนนุช-แบริ่ง เพิ่ม 15.4-20.0% (เฉลี่ย 17.6%) สถานีที่มีอัตราการเพิ่มสูงสุดคือสถานี บางจาก มีราคาที่ดินตารางวาละ 260,000 บาท เพิ่มต่ำสุดคือสถานีแบริ่ง มีราคาตารางวาละ 150,000 บาท
สำหร้บเส้นตากสิน-บางหว้า เพิ่มขึ้น 10.5-14.3% (เฉลี่ย 12.6%) โดยอัตราการเพิ่มสูงสุดคือสถานีกรุงธนบุรี มีราคาตาราง วาละ 320,000 บาท ส่วนที่เพิ่มต่ำสุด บางหว้า มีราคาตารางวาละ 105,000 บาท เส้นหมอชิต-สะพานใหม่ เพิ่ม 5.0-15.4% (เฉลี่ย 8.5%) สถานีที่มีอัตราเพิ่มสูงสุดคือสถานีลาดพร้าว ราคาเฉลี่ย 230,000 บาทต่อตารางวา ส่วนที่เพิ่มในอัตราต่ำสุดสถานีบางบัว มีราคาตารางวาละ 105,000 บาท
สำหรับราคาที่ดินรอบสถานีรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ในอัตราที่ต่ำกว่ารถไฟฟ้าบีทีเอส โดยราคาที่ดิน เฉลี่ยอยู่ระหว่างตารางวาละ 160,000-850,000 บาท สูงสุดอยู่ที่บริเวณสถานีสีลมเป็นเงินตารางวาละ 850,000 บาท เพิ่มขึ้น 13.3% ภายในเวลาปีเดียว แต่ในรอบปี 2548-2552 ทั้งสายเพิ่มขึ้นถึง 69% เทียบค่าเฉลี่ยทั้งกรุงเทพฯ 23% และปี 2553 เพิ่มช่วง 6.7-25.0% เฉลี่ย 15.2% เทียบค่าเฉลี่ยทั้งกรุงเทพฯ 4.4%
นอกจากนี้ในการศึกษาราคาที่ดินนี้ยังวิเคราะห์ในสายรถ ไฟฟ้าสายอื่นอีก 8 สาย รวม 112 สถานี ทั้งที่เตรียมการก่อสร้าง และยังอยู่ระหว่างในแผน ซึ่งพบว่าราคากระเตื้องขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยทั่วกรุงเทพมหานคร และเป็นราคาที่วิเคราะห์ตามศักยภาพจริง ราคาเรียกขายของผู้ขายหรือนายหน้าอาจจะสูงกว่าราคาประเมินตามราคาตลาดนี้
แต่ราคาที่ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ประเมินไว้นี้เป็นราคาที่น่าจะสามารถซื้อขายได้จริงในตลาดเปิด แต่ไม่ใช่ราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมของกรมธนารักษ์ ซึ่งมักต่ำกว่าราคาตลาด แต่ไม่ระบุได้ชัดเจนว่ามีสัดส่วนต่ำกว่าราคาซื้อขายจริงกี่เปอร์เซ็นต์
|