ปัจจุบันมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตราว 20 ล้านคนในประเทศไทย จากตัวเลขดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจใช้ช่องทางออนไลน์เข้าไปเสริมธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารเป็นองค์กรระดับต้นๆ ที่ใช้งบมหาศาลลงทุนด้านเทคโนโลยี

เหมือนดังเช่นธนาคารกสิกรไทยได้ใช้เวลา 15 ปีปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อรองรับบริการด้านการเงิน ให้ลูกค้าสามารถใช้บริการผ่านช่องทางสื่อดิจิตอล ทำให้ธนาคารกสิกรไทยอ้างว่าเป็นผู้นำในการให้บริการทางการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีผู้ใช้เป็นอันดับ 1 กว่า 2 ล้านคนและมียอดธุรกรรมกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี

การติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางสื่อดิจิตอลธนาคารไม่ได้จำกัดให้บริการผ่านอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่ได้รวมถึงการใช้บริการผ่านตู้เอทีเอ็มและตู้บริการ รับฝากเงิน

ในส่วนการใช้บริการด้านการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือหรือ K-Mobile Banking ธนาคารได้พัฒนาระบบให้สามารถใช้งานได้ทุกเครือข่าย และทุกระบบปฏิบัติการ เช่น iPad iPhone Blackberry Window Mobile Phone HTC Java Phone

การพัฒนาระบบให้ทำงานกับโทรศัพท์มือถือ เพราะธนาคารมองเห็นแนวโน้มธุรกรรมการเงินจะเกิดขึ้นอีกมาก เหมือนเช่นที่ผ่านมาได้เปิดตัวบริการที่เรียกว่า Mobile Payment ใช้โทรศัพท์และซื้อของ และหักเงินในโทรศัพท์มือถือ

โลกสังคมออนไลน์ (Social Media) เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ธนาคารได้เข้าไปเพื่อใช้ติดต่อสื่อสารกับผู้คนผ่านเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน คือ Facebook และ Twitter

จึงทำให้ปัจจุบันธนาคารมีจำนวนสมาชิกในเฟซบุ๊ก 82,000 คน และทวิตเตอร์ 15,000 คน ธนาคารจะมีทีมงานเข้าไปมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นเรื่องต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และสามารถแนะนำบริการทางด้านการเงิน เป็นช่องทางให้คำปรึกษา ทางด้านการเงิน

การเข้าไปสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนในโลกออนไลน์ เปรียบเหมือนเป็นการสร้างความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง และจดจำแบรนด์ได้ดีไม่น้อย

สิ่งที่ธนาคารต้องการตอกย้ำให้สาธารณะรับรู้ก็คือ การเป็นผู้นำในโลกดิจิตอล แบงกิ้ง ที่มีส่วนแบ่งการตลาดถึง 75%

แม้ว่าบทบาทของธนาคารกสิกรไทยคือเป็นสถาบันการเงิน ให้บริการด้านการเงินเป็นหลัก แต่พัฒนาการของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ธนาคารต้องปรับตัวเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ธนาคารกระโดดออกมาเล่นในอีกบทบาทหนึ่ง

บทบาทนั้นคือการเป็นผู้จัดการธุรกิจออนไลน์ (organizer) มีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้เกิดธุรกรรมบนออนไลน์มากขึ้น

ล่าสุดธนาคารจึงได้จัดทำเว็บไซต์ www.2010MegaSale. com เป็นเว็บชอปปิ้งออนไลน์ร่วมกับเจ้าของสินค้าและบริการกว่า 20 ราย เช่น ค่ายเพลงอาร์เอส สายการบินบางกอกแอร์เวย์และนกแอร์ หรือโรงพยาบาลในเครือกรุงเทพ รวมทั้งเอเชียบุ๊ค เป็นต้น

เป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายผ่านออนไลน์ โดยธนาคารจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางชำระค่าบริการผ่านบัตรเครดิต และบัตรเดบิตให้กับทุกสถาบันการเงิน แต่ธนาคารได้จูงใจให้ลูกค้าของกสิกรไทย กรณีจ่ายผ่านบัตรเดบิตและบัตรเครดิตจะได้รับคะแนนสะสม 5 เท่า

ศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทยบอกว่า เว็บชอปปิ้งออนไลน์จะมีอายุเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น เป็นเว็บที่มีรูปแบบการขายสินค้าโปรโมชั่นเหมือนกับห้างสรรพสินค้า ที่ต้องกำหนดระยะเวลา แต่รูปแบบการให้บริการดังกล่าวจะมีให้เห็นอีกในปีหน้า

ธนาคารใช้งบประมาณเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำโลกดิจิตอล แบงกิ้ง ไป 50 ล้านบาท และใช้เวลาเตรียมการ 8 เดือน กับอายุของเว็บช็อปปิ้งออนไลน์เพียง 2 สัปดาห์ คุ้มหรือไม่คุ้ม ต้องรอผลตอบรับอีกที