ทีพีซี เร่งแต่งตัวใหม่ขายกิจการ ลุยปรับปรุงบริการและสิทธิประโยชน์ ลดเวนเดอร์ 50% อัพเกรดเป็นพริวิเลจการ์ดสมชื่อ หวังโก่งค่าตัว ด้านรักษาการผู้จัดการใหญ่คุยมีเอกชน 2 รายรุมจีบ ยันสิทธิประโยชน์วีซ่า 5 ปี ยังเป็นจุดขายสำคัญ

น.ส.เมธาวี ตันวัฒนะพงษ์ รักษาการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด(ทีพีซี) ผู้บริหารโครงการบัตรไทยแลนด์อีลิทการ์ด เปิดเผยว่า ทีพีซีอยู่ระหว่างปรับปรุงการบริการที่จะให้แก่สมาชิกผู้ถือบัตรอีลิทการ์ดโดยต้องการให้มีความเป็นพริวิเลจมากขึ้นให้สมกับความเป็นบัตรอีลิทการ์ดที่ผู้ถือบัตรคือผู้มีอภิสิทธิ์เหนือระดับอย่างแท้จริง นอกจากนั้นยังจะดูปรับเปลี่ยนเรื่องสิทธิประโยชน์ให้เหมาะสมยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งการปรับครั้งนี้ก็เพื่อให้บัตรดูมีความโดดเด่นเป็นที่น่าสนใจ เพื่อเตรียมรอขายให้กับบริษัทเอกชนที่สนใจเข้ามาประมูลซื้อกิจการ

ทั้งนี้ล่าสุดมีรายงานว่ามีบริษัทเอกชนสนใจและติดต่อมาสอบถามรายละเอียดและสนใจที่จะเข้าซื้อกิจการอีลิทการ์ด โดยเสนอกับทีพีซี ให้มีการปรับสิทธิประโยชน์และการบริการ เพื่อใช้เป็นสิ่งจูงใจลูกค้าที่สนใจเข้าเป็นสมาชิก การดำเนินการของทีพีซีขณะนี้ คือเตรียมปรับลดจำนวนเวนเดอร์ที่ให้บริการลง 50% แต่จะคัดสถานที่ให้เป็นระดับพรีเมียมมากที่สุด เพื่อให้สมาชิกได้รับบริการที่ดีเลิศ เช่น สปาหรือสนามกอล์ฟ ก็จะเลือกระดับท็อป 10 หรือ 20 อันดับต้นๆด้านการบริการ

“การปรับลดเวนเดอร์ จะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ทีพีซีจะจ่ายให้แก่เวนเดอร์ ส่วนสมาชิกก็จะได้รับบริการจัดดีเยี่ยม ซึ่งการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ก็เพราะทำตามคำแนะนำที่เอกชนที่สนใจเข้าซื้อกิจการ ซึ่งมีอยู่ 2 รายที่สนใจ และสิ่งที่เขาต้องการคืออนุญาตให้ถือวีซ่าได้นาน 5 ปี และการบริการที่เหนือระดับอย่างแท้จริง ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่บริษัทในการกำหนดราคาประมูลขายขั้นต่ำด้วย ซึ่งของเดิมที่มีอยู่มองว่าการบริการเหมือนบุฟเฟ่ต์ คือมีเวนเดอร์จำนวนมากเกินไป เอกลักษณ์ของเวนเดอร์แต่ละรายก็แตกต่างทำให้ภาพลัษณ์ของอีลิทการ์ดยิ่งไม่ชัดเจน”

น.ส.เมธาวี กล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)ทีพีซี ยังมีมติตั้งกรรมการศึกษาผลกระทบจากค่าเงินดอลล่าร์ที่อ่อนตัวและค่าบาทที่แข็งขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วยวิเคราะห์ผลกระทบ โดยจะนำข้อมูลที่ได้เสนอต่อผู้ถือหุ้นทีพีซี โดยจะกำหนดการประชุมอีกครั้งเร็วๆนี้

ทั้งนี้เพราะทีพีซีถือเงินสกุลดอลล่าร์อยู่ราว 5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือ 162 ล้านบาท โดยการประชุมที่จะกำหนดขึ้นใหม่นี้ จะต้องเสนอบอร์ดให้ตัดสินใจด้วยว่าจากสถานการณ์ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนตัว ทีพีซีจะนำเงินดอลล่าร์ที่มีอยู่มาแลกเป็นเงินบาทให้หมดหรือ แบ่งแลกเป็นงวดๆไป โดยเงินสะสมที่มีอยู่ดังกล่าวคาดว่าสามารถใช้จ่ายได้ถึง กลางปี 2554
ส่วนเรื่องการกำหนดราคากลางในการประมูลขายกิจการอีลิทการ์ด คณะกรรมการจำหน่ายกิจการได้นัดประชุมอีกครั้งวันที่ 26 ต.ค.นี้ และหาก ครม.มีการพิจารณาเรื่องสิทธิประโยชน์การให้วีซ่าเสร็จทัน ก็คาดว่าจะสามารถกำหนดราคากลางได้



อัพเดดล่าสุด 10/20/2010 11:13:27 PM โดย Somjet Hansarikan

หมายเหตุ เส้นแบ่งข่าว หมายถึง ข่าวถูกแบ่งเป็นหน้า ๆ
keyword :

Close