บิ๊ก โคล่า เร่งเครื่องขยายตลาดน้ำอัดลมเจาะคนกรุงทะลวงคนรุ่นใหม่ อัดฉีด 160 ล้านบาท คว้าสปอนเซอร์ทีมชาติอังกฤษ 2ปีซ้อน ต่อยอดสปอร์ต มาร์เก็ตติ้งจากบอลโลกมาสู่บอล ยูโร หวังยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์สากล ขยายช่องทางร้านสะดวกซื้อ ปล่อยแคมเปญโปรโมชันปลายปีดันยอด สิ้นปีโต 30% กวาดแชร์ 22% ทะลุเป้า

นายชนินทร์ เทียนเจริญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โคล่า เรอัล เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำอัดลมบิ๊ก โคล่า เปิดเผยว่า แผนการตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมบิ๊ก โคล่า บริษัทต้องการขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนกรุงเทพเพิ่มขึ้นจาก 20% เป็น 30% ในปีหน้านี้ และต่างจังหวัดเหลือจาก 80% เป็น 70% โดยมุ่งขยายฐานกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น-ปลายอายุ 10-18ปี จากเดิมฐานลูกค้ากลุ่มครอบครัวและเด็กอายุ 10ปี เป็นหลัก

ดังนั้นบริษัทจึงได้ทุ่มงบ 160 ล้านบาท ดำเนินกลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง โดยเซ็นสัญญาเป็นผู้สนับสนุนฟุตบอลทีมชาติอังกฤษต่อถึง 2 ปี ซึ่งในปี 2555 จะมีการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 เป็นการทำสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งต่อยอดจากการแข่งขันฟุตบอลโลกที่มีขึ้นในปีนี้ เพราะหลังจากบิ๊ก โคล่า เป็นผู้สนับสนุนฟุตบอลทีมชาติอังกฤษในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ทันสมัยและเป็นสากล

“ผู้บริโภคให้การตอบรับดีขึ้นหลังจบแคมเปญบอลโลก โดยสามารถขยายฐานลูกค้าคนกรุงเพิ่มจาก 10% เป็น 20% จากการที่คนกรุงเริ่มยอมรับแบรนด์เพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 50% นอกจากนี้การรับรู้แบรนด์บิ๊กโคล่าติดอันดับท็อปทรีในตลาด และเป็นแบรนด์ที่เข้าไปนั่งอยู่ในใจเด็กอายุ 10-14ปี”

ล่าสุดได้ทุ่มงบกว่า 80 ล้านบาท จากงบรวมทั้งปี 250 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ “ดื่มบิ๊ก โคล่า ซ่าถึงอังกฤษ ลุ้นเยือนถิ่นสิงโตคำราม” ลุ้นชิงรางวัลแพกเกจทัวร์ชมการแข่งขันฟุตบอลโลกชิงแชมป์ชาติยุโรป และรางวัลอื่นๆ ตั้งแต่วันนี้ถึง 12 กุมภาพันธ์ 2554ทั้งนี้การทำโปรโมชันในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีนี้ เพื่อกระตุ้นยอดขาย และเป็นการสร้างความแตกต่างกับค่ายน้ำอัดลมโค้กและเป๊ปซี่ ที่มุ่งกลยุทธ์มิวสิก มาร์เก็ตติ้ง

พร้อมกันนี้บริษัทได้ขยายช่องทางจำหน่ายสู่ร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น โดยนำขนาด 620 มล.ราคา 14 บาท เข้าไปจำหน่ายขณะที่โค้กและเป๊ปซี่ จำหน่ายราคา 17 บาท หลังจากก่อนหน้านี้ได้นำขนาด 1.5 ลิตรเข้าไปจำหน่ายแล้ว ทั้งนี้เพื่อทำให้สินค้าครอบคลุมทุกช่องทางทั้งโมเดิร์นเทรด ร้านค้าปลีก และรองรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ขณะที่ปีหน้านี้เตรียมทุ่มงบ 250 ล้านบาท ดำเนินการตลาดเชิงรุก

สภาพตลาดน้ำอัดลม 3.6 หมื่นล้านบาท ในปีเติบโต 5% โดยในช่วงเดือนตุลาคมไม่เติบโต เนื่องจากฝนตกต่อเนื่อง ส่วนกรณีน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ สร้างผลกระทบต่อยอดขายบ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตามจากการดำเนินกิจกรรมการตลาดสิ้นปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 30% หรือมีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 15% เป็น 22% สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ต้องการมีส่วนแบ่ง 20% เป็นอันดับ 3 รองจากโค้ก มีส่วนแบ่ง 35% และเป๊ปซี่