Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน18 ตุลาคม 2553
บูมจอใหญ่LFDกระหึ่มโต133% ซัมซุงส่ง13รุ่นลุยโค้งท้าย             
 


   
search resources

ไทยซัมซุง อิเลคทรอนิคส์, บจก.
Samsung
Electric




ซัมซุง บุกตลาดจอ LFD เต็มสูบ คาดสิ้นปีโกยยอดขาย 4.2 ล้านเหรียญยูเอส โตจากปีก่อน 133% มองอีก 2 ปี ตลาดยังโตได้อีกเท่าตัว จากปัจจุบัน โต106% แตะ 12 ล้านเหรียญยูเอส ล่าสุดส่ง “อี-บอร์ด” เจาะตลาดการศึกษา

นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ ผู้อำนวยการธุรกิจไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า ซัมซุงได้เข้ามาทำตลาด ผลิตภัณฑ์จอภาพแสดงผลขนาดใหญ่ หรือที่เรียกกันว่า จอ LFD (Large Format Display) ตั้งแต่ 6 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันจากการสำรวจตลาดในไทยเชื่อว่า ภาพรวมตลาดจอแอลเอฟดี จะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 12 ล้านเหรียญยูเอส มีอัตราเติบโตที่ 106% คิดเป็นมูลค่าในเชิงปริมาณที่ 10,000 ยูนิตและมีผู้เล่นในตลาดนี้ประมาณ 4 ราย คือ แบรนด์ญี่ปุ่น 2 ราย และเกาหลี 2 ราย ซึ่ง 1 ในนี้ คือ ซัมซุง ขณะที่ทางซัมซุงเชื่อว่ามีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 35%

อย่างไรก็ตามพบว่า ตลาดจอแอลเอฟดีมีแนวโน้มเติบโตขึ้นสูงมาก ส่วนสำคัญมาจากความรู้และความเข้าใจที่ลูกค้าหันมาให้ความสำคัญต่อการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้มากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้ากลุ่มองค์กร และบริษัทเอกชน ที่มีจำนวนสาขามากๆ เนื่องจากจอภาพกลุ่มนี้ จะให้ผลดียิ่งขึ้น เมื่อใช้ในลักษณะของความเป็นโซลูชั่น ถึงแม้จะมีราคาค่อนข้างแพงก็ตาม ในเมื่อใช้ไปในระยะยาว ถือว่าคุ้มกว่าการใช้บิลบอร์ด หรือแผ่นโปสเตอร์อย่างในปัจจุบัน อีกทั้งมีความเป็นอินเตอร์แอกทีฟ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเอื้อประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจได้เป็นอย่างดี ขณะที่ผู้เล่นในตลาดมีไม่กี่ราย ปัญหาในเรื่องของราคาสินค้าจึงตกลงไม่มากนักเฉลี่ยปีละ 5-10% เท่านั้น โดยมองว่าอีก 2 ปี ตลาดจะโตอีก 1 เท่าตัวหรือมีความต้องการอยู่ที่ 20,000 เครื่องเมื่อเทียบกับในปัจจุบัน

สำหรับซัมซุง ปีนี้ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ไปแล้วกว่า 49 รุ่น และวางแผนที่จะเปิดตัวอีก 13 รุ่นในไตรมาสสุดท้าย ซึ่งจะส่งผลให้ซัมซุงมีผลิตภัณฑ์จอภาพแสดงผลขนาดใหญ่ในตลาดทั้งสิ้น 8 ซีรี่ส์ 62 รุ่น โดยแบ่งออกเป็น จอแอลซีดี 97% และจอพลาสม่า 3% ซึ่งมีขนาดหน้าจอให้เลือกตั้งแต่ 32-37 นิ้ว ,40-47นิ้ว, 50-57 นิ้ว, 60-65 นิ้ว, 70-82 นิ้ว, จนถึงขนาดใหญ่กว่า 82 นิ้ว ล่าสุดเปิดตัว อี-บอร์ด ขนาด 65 นิ้ว เหมาะสำหรับด้านการศึกษา คาดว่าจะจำหน่ายได้กว่า 50 เครื่องภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 4 แสนกว่าบาท

จากปัจจุบันลูกค้าหลักของจอแอลเอฟดีจะเป็นกลุ่มองค์กร และบริษัทใหญ่ๆ แบ่งออกเป็นภาครัฐ 50% และเอกชน 50% เท่าๆกัน แต่ในส่วนของภาครัฐเติบโตได้ดีกว่า

นายบุญเลิศ กล่าวต่อว่า ฐานการผลิต นำเข้าจากประเทศเกาหลีและมาเลเซีย ซึ่งมองว่ายังไม่มีแนวคิดที่จะผลิตในประเทศไทยถึงแม้ว่าโรงงานของเราที่นี่จะสามารถผลิตได้ก็ตาม ทั้งนี้เพื่อเป็นไปตามนโยบายการวางฐานการผลิตของแต่ละสินค้าของทางโรงงานซัมซุงมากกว่า ขณะที่ภาพรวมรายได้จากกลุ่มจอแอลเอฟดีสิ้นปีนี้เชื่อว่า จะอยู่ที่4.2 ล้านเหรียญยูเอส คิดเป็นจำนวนกว่า 3,500 เครื่อง เติบโตจากปีก่อนถึง 133% หรือรายได้จากจอแอลเอฟดีคิดเป็น 3% ของรายได้จากกลุ่มไอที ซึ่งภาพรวมรายได้ของกลุ่มไอทีปีนี้คาดว่าจะทำได้ถึง 170 ล้านเหรียญยูเอส เติบโตจากปีก่อน 50% มาจากหลายๆผลิตภัณฑ์ที่มีการขายที่ดีขึ้น เช่น พริ้นท์เตอร์ โนตบุค และจอแอลเอฟดี เป็นต้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us