Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์17 ตุลาคม 2553
ปั้นแบรนด์เบิร์ดๆสู่ เวิล์ดคลาส สูตร“เบิร์ดแลนด์ แอนนิเมชั่น” โมเดล             
 


   
search resources

จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, บมจ.
Animation
ธงไชย แมคอินไตย์




เปิดกลยุทธ์ “เบิร์ด แลนด์ แอนนิเมชั่น โมเดล”ต่อยอดแบรนด์ซูเปอร์สตาร์ดังค้างฟ้ามานานกว่า 20 ปี“เบิร์ด -ธงไชย แมคอินไตย ”ให้เป็นแบรนด์ที่ยั่งยืนและครองใจแฟนเพลงทุกเพศ ทุกวัยได้ยาวนานขึ้น พร้อมก้าวขึ้นสู่ระดับ World Classของค่ายจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ทั้งทำโฟกัส กรุ๊ป และนำหนังเปิดตัวบนเวทีคานส์ เพื่อให้โดนใจคนดูทุกชาติทุกภาษา พร้อมกลยุทธ์สื่อสารการตลาดทั่วโลก

ออกจะเป็นบิ๊กเซอร์ไพร้ส์ไม่น้อยสำหรับแวดวงบันเทิงที่จู่ๆค่ายจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ของอากู๋-ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรมเลือกเปิดตัวโครงการเบิร์ดแลนด์ แอนนิเมชั่น ของซูเปอร์สตาร์ดัง 2ทศวรรษ “เบิร์ด-ธงชัย แมคอินไตย” เมื่อสัปดาห์ก่อน อันเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับค่ายคู่แข่งอย่าง อาร์เอส กำลังเผชิญกับมรสุมของซูเปอร์สตาร์ดังฟิล์ม-รัชภูมิ โตคงทรัพย์ที่กำลังมีข่าวร้อนๆแนวอื้อฉาวจนพื้นที่ข่าวหน้า 1 หน้าบันเทิงเต็มไปด้วยข่าวความเคลื่อนไหวของนักร้องหนุ่มคนดังติดต่อนานนับสัปดาห์ งานนี้ทั้งแกรมมี่กับอาร์เอสและซูเปอร์สตาร์ดังทั้งคู่จึงเป็นแบรนด์ที่ถูกกล่าวขานมากที่สุดทั้งภาพลบและภาพบวกในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

“เบิร์ดแลนด์ แอนนิเมชั่น”ของค่ายจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ครั้งนี้ นอกจากมีความสำคัญทางธุรกิจไม่น้อยเพราะไม่เพียงแต่เป็น “จิ๊กซอร์ตัวสำคัญ” ของ Entertainment Platformค่ายแกรมมี่ฯในการขยายโมเดลธุรกิจเข้าสู่ “ Edutainment”ซึ่งเป็นโมเดลที่มีอนาคตเติบโตทั่วโลก แต่ยังเป็นการ “ต่อยอดคอนเทนท์อีกรูปแบบหนึ่งให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น” นอกเหนือจากเพลง คอนเสิร์ต ละคร ภาพยนตร์ และอื่นๆที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยใช้เม็ดเงินลงทุนผลิตกกว่า 100ล้านบาท

ปั้นเบิร์ด แอนนิเมชั่น
สู่โปรดักส์เวิล์ดคลาส

จุดเด่นของเบิร์ด แอนนิเมชั่น มีการนำคาแรกเตอร์ของศิลปินซูเปอร์สตาร์ “เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์” มาสร้างเป็นตัวละครหลักที่จะผลักดันเรื่องราวความมหัศจรรย์ต่างๆ ให้เกิดขึ้นในโลกแห่งดนตรีและเสียงเพลง ด้านเนื้อหา การผลิตได้มอบหมายให้เชลล์ฮัท เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ บริษัทผู้ผลิตแอนิเมชั่นชั้นนำของเมืองไทย ประสบความสำเร็จมาแล้วกับการ์ตูนแอนิเมชั่น “เชลล์ดอน” มาเป็นผู้ผลิต โดยได้ทดสอบและทำ Focus Group เพื่อให้แน่ใจว่า มุขและแก๊กของเรื่องสอดคล้องกับตลาดเป้าหมาย

ขณะเดียวกันยังได้นำแอนิเมชั่นเรื่องนี้ไปแนะนำในงาน MIPTV ที่เมืองคานส์ เมื่อเดือนเมษายน 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับจากตัวแทนจำหน่ายการ์ตูนทีวีซีรี่ส์ระดับโลกที่แสดงความสนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างมากมาย ทำให้มั่นใจได้ว่า “เบิร์ดแลนด์...แดนมหัศจรรย์” จะเป็นแอนิเมชั่นระดับ World Class ที่เข้าถึงคนทุกชาติทุกภาษาและเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกคน

“ในแอนิเมชั่นเรื่องนี้จะเห็นได้ว่าตัวละครแต่ละตัวมาจากแต่ละภูมิภาค แต่ละทวีปทั่วโลก เราจะเห็นทั้งเด็กเอเชีย ยุโรป อเมริกา และแอฟริกา ที่จะมาทำให้เด็กๆทั่วโลกดูแล้วเข้าใจ และรู้สึกตอบสนองได้ทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ และเรายังได้วางให้ตัวละครมีความสามารถพิเศษไม่เพียงแต่ทางด้านดนตรีเท่านั้น แต่ยังมีความเชี่ยวชาญทางวิชาการคนละด้าน เพื่อเตรียมขยายไปสู่เอ็ดดูเทนเม้นท์ที่เป็นความรู้ด้วย” ดร.จิรยุทธ ชุษณะโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชลล์ฮัท เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด อธิบายแผนสร้างตัวละครเบิร์ด-ธงไชย

นอกจากนี้ เชลล์ฮัท ยังมีแผนการตลาดเบิร์ด แอนนิเมชันในช่วง 6 เดือนก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ มีทั้งการออนแอร์ผ่านสื่อทีวีในประเทศแล้ว ยังมีแผนที่จะขายลิขสิทธิ์การแพร่ภาพให้แก่สถานีโทรทัศน์ชั้นนำจากต่างประเทศทั่วโลก คาดว่ารายได้จากการขายลิขสิทธิ์ “เบิร์ดแลนด์...แดนมหัศจรรย์” ทั้งในรูปแบบของการแพร่ภาพ, สินค้าเมอร์ชั่นไดซ์ และตลาดโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ในต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วนรวมกันประมาณ 60% ขณะที่รายได้จากกลุ่มประเทศในแถบเอเชียรวมทั้งประเทศไทย 40% โดยช่วง 3 ปีแรกนับจากการออกอากาศทั่วโลก จะมีรายได้รวมประมาณ 200 ล้านบาท

สปอนเซอร์ มาเก็ตติ้ง
กลยุทธ์ร่วมปั้นแบรนด์เบิร์ดๆ

นอกจากนี้ การมุ่งสร้างแบรนด์แอนนิเมชั่น เบิร์ด สู่ World Class แล้ว ค่ายจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ยังได้ทำการตลาดโปรดักส์ตัวนี้ตั้งแต่ต้นน้ำด้วยการร่วมกับ 4 พันธมิตรของบิ๊กแบรนด์ โดย 2 ใน 4 ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการได้แก่ ไทยประกันชีวิต และ น้ำดื่มช้าง ของค่าย ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)โดยทั้งสองค่ายจะเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนส่วนหนึ่งและมีการทำการตลาดผ่านโปรดักส์ต่างๆของเบิร์ด แอนนิเมชั่นทางครบเครื่อง

ทั้งนี้ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ มารุต บูรณะเศรษฐกุล บอกถึงเหตุผลที่เข้ามาร่วมพันธมิตรครั้งนี้ว่า เนื่องจากสอดคล้องกับแนวทางส่งเสริมความสามารถและให้โอกาสของเยาวชนรอบด้าน ทั้งศึกษา กีฬา ศิลปวัฒนธรรม สังคม ตลอดจนดนตรี ผ่านโครงการไทยเบฟไทยทาเล้นท์ อีกทั้งยังเป็นสร้างการรับรู้ศักยภาพของคนไทยที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ดีออกไปสู่เวทีระดับโลกได้ ตามแนวคิดของผลิตภัณฑ์ที่ว่า “จุดเริ่มต้นใหม่ เกิดขึ้นได้ทุกวัน”

ขณะที่ไทยประกันชีวิตเอง มองว่า เนื้อหาของเบิร์ด แลนด์ เน้นเชิงสร้างสรรค์ที่พูดถึงความฝันและการก้าวเดินตามความฝันของคนรุ่นใหม่ รวมถึงการใช้ดนตรีเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงความรักระหว่างเพื่อน และคนในสังคม ซึ่งไทยประกันชีวิตเองก็มุ่งเน้นการส่งเสริมให้เกิดความรัก ความห่วงใยซึ่งกันและกัน อันเป็นพื้นฐานของการประกันชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความรักในครอบครัว ความรักเพื่อน หรือความรักต่อคนในสังคม

“ทั้ง 2 แบรนด์ มีกลุ่มเป้าหมายทุกเพศ ทุกวัย ที่สำคัญที่สามารถไปด้วยกันกับแบรนด์เบิร์ดอยู่แล้ว อีกทั้งเบิร์ดแลนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัย แม้ว่า ตัวแอนนิเมชั่น จะเป็นโปรดักส์ของกลุ่มเด็กก็ตาม แต่ด้วยความเป็นซูเปอร์สตาร์มานานกว่า 20ปีทำให้มีฐานคนดูครอบคลุมทั้งกลุ่มได้อย่างลงตัว”   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us