|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ใกล้เวลาปลายปีซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันส์ของการใช้จ่ายทั้งกิน-เที่ยว-ช็อป จึงเป็นที่รู้กันว่าจะเป็นฤดูกาลที่บัตรเครดิตทุกค่ายจะออมแคมเปญในรูปแบบต่างๆ เพื่อตักตวงยอดใช้จ่ายในช่วงนี้ โดยมีผู้เล่นหน้าใหม่ คือ ธนชาต กับทีเอ็มบี ผู้เล่นหน้าเก่าที่รีแบรนด์ตัวเองใหม่จนหมดจดเข้ามาขอท้าชิงตลาดในปีนี้ด้วย
ตามเป้าหมายของธนชาตที่จะขึ้นเป็น Universal Banking ทำให้การรุกเข้าสู่ตลาดบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเป็นหนึ่งในแผนธุรกิจของธนาคาร ซึ่งการควบรวมกับนครหลวงไทย (SCIB) จะเป็นทางลัดทำให้ธนชาตสามารถเพิ่มฐานลูกค้าเข้ามาในพอร์ตได้อย่างก้าวกระโดด จากเดิมมีฐานบัตรเครดิตรวม 90,000 บัตรขึ้นเป็น 3 แสนบัตร แต่ก่อนที่จะควบรวมกัน ธนชาตได้ประเดิมเปิดตัวบัตรเครดิตของตัวเอง คือ ธนชาต Driveต่อด้วยบัตรสินเชื่อบุคคลธนชาต FLASH และบัตรเดบิต Cash Back ตามลำดับ
การเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ ทำให้ธนชาตต้องพัฒนาบัตรของตัวเองให้มีจุดขายที่แตกต่าง ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องสิทธิประโยชน์หรือส่วนลดจากร้านค้าเท่านั้น โดยบัตรเครดิตมีโปรแกรมคืนเงินเข้าบัญชี 1-1.5% ของยอดใช้จ่าย เมื่อเติมน้ำมันที่ปั๊มทั่วประเทศ เพิ่มระยะเวลาชำระคืนหนี้โดยปลอดดอกเบี้ยเป็น 55 วัน จากทั่วไปในตลาดอยู่ที่ 45 วัน โดยในช่วงแรกได้จัดแคมเปญพิเศษเพื่อเพิ่มฐานลูกค้า ได้แก่ คืนเงินเข้าบัญชี 5% ทุก 6,000 บาทแรกของการใช้จ่ายผ่านบัตรที่ปั๊มน้ำมันและซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วโลกใน 3 รอบบัญชีแรก และข้อเสนอโอนบัญชีบัตรเครดิตหรือเงินกู้จากธนาคารอื่น หรือรีไฟแนนซ์ ด้วยอัตราดอกเบี้ย 9.9% นาน 10 เดือน ถึงเดือน ก.พ. 2554 เทียบกับอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดซึ่งอยู่ที่ 20%
ส่วนจุดขายของบัตรสินเชื่อบุคคลธนชาต FLASH ฌอง มาร์ค ดาแลร์ ผู้อำนวยการอาวุโส ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ธนาคารธนชาต กล่าวว่า ลูกค้าสามารถกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มกว่า 1.7 ล้านตู้ทั่วโลกที่มีเครื่องหมาย Cirrusของ MasterCard โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการกดเงิน และได้รับคะแนนสะสม FLASH Reward สำหรับแลกเป็นเงินสดเครดิตคืนเข้าบัญชี รวมถึงจะมีการพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยรายปีลงสูงสุด 1% หรือ 25% เป็นเวลา 3 ปี จากเกณฑ์ปัจจุบันที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 28% ต่อปี ทั้งนี้ตั้งเป้าเพิ่มยอดบัตรสินเชื่อบุคคลเป็น 1 แสนบัตรในปีหน้า ซึ่งจำนวนสาขาบางส่วนที่เพิ่มขึ้นจากสาขาของ SCIBจะช่วยให้ธนชาตเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
ด้านบัตรเดบิต Cash Back ธนชาตได้พัฒนาจุดขายให้เป็นบัตรเดบิตใบแรกของไทยที่มีการคืนเงินให้ผู้ถือบัตร โดยมีการคืนเงินเข้าบัญชีในอัตรา 0.75% ของทุกยอดการใช้จ่าย โดยมีแคมเปญระยะสั้นถึงวันที่ 31 ม.ค. 54 จัดรายการคืนเงินเข้าบัญชีสูงสุด 2% ของทุกยอดการใช้จ่ายแต่ละเดือน สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อเดือน สำหรับลูกค้าที่มียอดเงินฝากออมทรัพย์หรือกระแสรายวันในบัญชีหลักที่ผูกกับบัตรเฉลี่ยทุกวันสิ้นเดือนตั้งแต่ 5 แสนบาทขึ้นไป โดยจุดขายเรื่องการคืนเงินเข้าบัญชีจะช่วยดึงลูกค้า ทั้งลูกค้าเก่าที่ถือบัตรเอทีเอ็มและลูกค้าใหม่ได้ โดยปัจจุบันธนชาตมีบัตรเดบิตรวม 1.2 ล้านบัตร ปีนี้ตั้งเป้าระดมเงินฝาก 4 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้มาร์เก็ตแชร์เงินฝากเพิ่มขึ้นเป็น 5% ทั้งนี้เป้าหมายของธนชาต คือ การก้าวขึ้นผู้นำตลาดติดอันดับ1 ใน 4 ในทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์
ในขณะที่ฟากของทีเอ็มบีก็มีความเคลื่อนไหวเช่นกัน โดยเปิดตัวบัตรเครดิต “TMB So Chill” ใช้กลยุทธ์ราคา ออกแคมเปญเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ คือ คิดอัตราดอกเบี้ย 9.5% สำหรับ 4 รอบบัญชีแรก ซึ่งต่ำที่สุดในตลาด และรอบบัญชีที่ 4 เป็นต้นไป รับเงินคืนเข้าบัญชี 15% ของดอกเบี้ยที่เรียกเก็บ หากชำระตรงเวลา ส่วนการเบิกเงินสดยกเว้นค่าธรรมเนียมการเบิก รวมถึงค่าธรรมเนียมแรกเข้า และรายปีตลอดชีพ
|
|
 |
|
|