Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์17 ตุลาคม 2553
จุดขายใหม่บัตรเดบิต KBANK เพิ่มทางสะดวกนักช็อปออนไลน์             
 


   
search resources

ธนาคารกสิกรไทย, บมจ.
Debit and Cash Card




การอิ่มตัวของตลาดและการขับเคี่ยวกันอย่างรุนแรงของบัตรเครดิต ทำให้ในระยะหลังได้เห็นเคแบงก์ขยับหนี หันมาปลุกกระแสตลาดบัตรเดบิต ด้วยการทำตลาดอย่างจริงจังมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกเครื่องให้บัตรเดบิตของเคแบงก์มีความแตกต่างที่มากกว่าบัตรเดบิตทั่วไป ไม่ใช่เพียงแค่ใช้กดเงินสดและชำระค่าสินค้าเท่านั้น

จุดที่ทำให้เคแบงก์สนใจตลาดบัตรเดบิต น่าจะเป็นเพราะการทำบัตรเดบิตยังไม่มีข้อจำกัดเรื่องคุณสมบัติผู้ถือบัตรเหมือนบัตรเครดิต คือ รายได้ของผู้ถือบัตร และไม่มีเรื่องความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถขยายถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ กว้างกว่าบัตรเครดิต เมื่อผนวกกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไป ผู้ถือบัตรเริ่มมีอายุน้อยลง จากเดิมคือวัยทำงานตอนต้น ขยับมาสู่นักเรียน นักศึกษาที่เป็นกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเดิมอาจจะถือแค่บัตรเอทีเอ็มเพื่อใช้กดเงินสดเท่านั้น แต่หันมาใช้บัตรเดบิตแทนมากขึ้น เพราะเห็นเรื่องความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน จึงทำให้บัตรเดบิตเป็นตลาดที่น่าสนใจ ปัจจุบันเคแบงก์มีฐานผู้ถือบัตรเดบิต 6-7 ล้านบัตร สูงกว่าบัตรเครดิตที่มีผู้ถือบัตรเพียง 1.48 ล้านบัตร หากมีการทำตลาดอย่างจริงจังเชื่อว่าบัตรเดบิตมีโอกาสจะเติบโตได้อีกมาก

การทำตลาดอย่างจริงจังทำให้ปัจจุบันบัตรเดบิตของเคแบงก์นอกเหนือจากคุณสมบัติพื้นฐาน คือ กดเงินสด ชำระค่าสินค้าได้ตามร้านค้าต่างๆ แล้ว ยังมีการเพิ่มเซกเมนต์ เพิ่มประเภทของบัตรให้หลากหลาย มีสิทธิประโยชน์ต่างๆ เป็นตัวดึงความสนใจลูกค้า เช่น ส่วนลดร้านค้า สะสมแต้มแลกของรางวัล ไม่ต่างอะไรไปกับการทำตลาดของบัตรเครดิต

นอกจากนี้การส่งเสริมการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็คทรอนิกส์และออนไลน์ของเคแบงก์ ตามนโยบายลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียม ทำให้เคแบงก์ต้องพัฒนาระบบให้สามารถรองรับกับธุรกรรมของลูกค้าทุกกลุ่มให้ได้มากที่สุด ล่าสุดเคแบงก์ได้พัฒนาระบบจนทำให้บัตรเดบิตของเคแบงก์สามารถใช้ชำระค่าสินค้าที่ซื้อผ่านเว็บไซต์ได้ จากเดิมที่การซื้อสินค้าในเว็บไซต์จะต้องชำระด้วยบัตรเครดิตเท่านั้น ทำให้ปัจจุบันมีบัตรเดบิตเพียง 2 รายเท่านั้นในเมืองไทยที่สามารถใช้ได้ คือ เคแบงก์และธนาคารกรุงเทพ

ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เคแบงก์ระบุว่าเพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ วัยรุ่นที่นิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น แต่พบข้อจำกัดเรื่องการชำระเงินที่ต้องชำระผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น ทั้งนี้เคแบงก์ได้พัฒนาระบบรักษาความปลอดภัย 2 ชั้น (Two-factor Authentication) มารองรับ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกรรมออนไลน์ เพื่อสร้างความมั่นใจใหักับลูกค้า โดยปัจจุบันมีจำนวนบัตรเดบิตที่ทำธุรกรรมชำระค่าสินค้าผ่านเว็บไซต์รวม 1 แสนบัตร เทียบกับภาพรวมตลาดที่มีการชำระผ่านบัตรเครดิตในสัดส่วน 75%

อย่างไรก็ตามกลยุทธ์ของเคแบงก์จะทำเฉพาะที่ตัวบัตรเดบิต เพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ แต่ต้องทำไปถึงต้นทาง ซึ่งก็คือเว็บไซต์ต่างๆ ที่เป็นร้านค้าด้วย โดยพยายามเพิ่มจำนวนร้านค้าที่ใช้ K-Payment Gateway หรือบริการรับชำระค่าสินค้าและบริการให้มากที่สุด แม้ปัจจุบันร้านค้าออนไลน์ในตลาดถึง 90% คิดเป็นมูลค่าการซื้อขาย 25,000-30,000 ล้านบาทต่อปี จะใช้ระบบของเคแบงก์อยู่แล้วก็ตาม ศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารจะเร่งโปรโมทบริการดังกล่าวให้มากขึ้น หลังจากพบว่าแนวโน้มตลาดE-Commerce ในไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและก้าวกระโดด จากปี 2551 ที่มีการซื้อขายเพียง 10,000 ล้านบาท คาดกว่าจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 24,000-25,000 ล้านบาทในปีนี้

ล่าสุดเคแบงก์ได้ใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท จัดทำเว็บไซต์ www.2010MegaSale.com ดึงพันธมิตรร้านค้ากว่า 20 ราย นำเสนอสินค้าและบริการราคาพิเศษลดสูงสุด 70% เช่น Gadget ตั๋วภาพยนตร์ โปรแกรมตรวจสุขภาพ เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ตั๋วเครื่องบิน แพ็คเก็จทัวร์ ห้องพักโรงแรมชั้นนำ กระเป๋าแบรนด์เนม พร้อมเปิดประมูลสินค้าต่างๆ เป็นเสมือนงานเซลล์เฉพาะกิจที่จะจัดขึ้นเพียง 3 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 15-31 ต.ค. 53 เท่านั้น โดยจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายสำหรับงานนี้ ได้แก่ ส่วนลดพิเศษเมื่อชำระด้วยบัตรเครดิตทุกสถาบันการเงิน, รับคะแนนสะสม 5 เท่า สูงสุด 5,000 บาท เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย, รับสิทธิ 5 เท่าในการชิงโชคของ IPad และ IPhone 4G ในช่วงปลายปี เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต ซึ่งโครงการดังกล่าวเคแบงก์ตั้งเป้าว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ยอดการซื้อขายผ่านเว็บไซต์ที่ใช้บริการของเคแบงก์เติบโตขึ้น 30% ในปีนี้ ทั้งนี้ธนาคารมีรายได้จากค่าธรรมเนียมจากการให้บริการดังกล่าว 200-300 ล้านบาทต่อปี   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us