Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์17 ตุลาคม 2553
เม็ดเงินโฆษณาโตผลดีหุ้นบันเทิง สื่อโทรทัศน์-โรงหนังรับผลบวก             
 


   
search resources

Advertising and Public Relations




เม็ดเงินโฆษณาโตอานิสงส์หุ้นกลุ่มบันเทิง เชื่อผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมาดี โดยเฉพาะสื่อทีวีและโรงหนัง แต่คาดความร้อนแรงน่าจะมีแนวโน้มลดลง

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส กล่าวว่า เม็ดเงินโฆษณางวดไตรมาส 3/2553 มีการเติบโตที่ดีขึ้นถึง 13.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างชัดเจน แต่คาดว่าเม็ดเงินโฆษณาในครึ่งปีหลังจะไม่ร้อนแรงเท่าครึ่งแรกของปีนี้

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเม็ดเงินโฆษณาช่วงครึ่งปีหลังยังสามารถเติบโตเกิน 7% จากระยะเดียวกันของปีก่อนได้ โดยเม็ดเงินโฆษณาสื่อทางโทรทัศน์ และสื่อโรงภาพยนตร์ยังคงเติบโตต่อเนื่องในระดับสูงในช่วงที่เหลือของปีนี้ สะท้อนได้จากสื่อทางโทรทัศน์ที่มีผู้จองเวลาโฆษณาจนล้นแล้ว

โดยเฉพาะ บมจ.บีอีซีเวิล์ด(BEC) ส่งผลให้มีการปรับขึ้นอัตราโฆษณา 3 รายการราว 9-13% ตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/2553 และตั้งแต่ต้นไตรมาส 4/2553 จะปรับขึ้นอัตราโฆษณาละครไพรม์ไทม์ 6% พร้อมปรับลดส่วนลดค่าโฆษณาแก่รายการละครซีรีส์เกาหลี จาก 40% เหลือ 20% ขณะที่สื่อโรงภาพยนตร์อย่าง บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) ที่มีผู้จองเวลาโฆษณาจนถึงสิ้นปีเช่นกัน

ธุรกิจทีวีและธุรกิจโรงภาพยนตร์ จึงถือเป็นธุรกิจที่น่าจับตามอง และคาดว่าจะมีกำไรเติบโตต่อเนื่องถึงปีหน้ารวมถึงจะมีส่วนช่วยผลักดันให้เม็ดเงินโฆษณาทั้งปี2553 เติบโตราว 10% และเติบโตต่อเนื่องอีก 5% ในปี2554

ทั้งนี้มองว่าหุ้นที่น่าสนใจ คือ MAJOR โดยให้ราคาเป้าหมาย 16.50 แม้งบโฆษณาผ่านสื่อทีวีจะเติบโตต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามหากพิจารณาเป็นรายหุ้น พบว่าหุ้นที่โดดเด่นสุดในกลุ่มทีวีคือ BEC ราคาเป้าหมาย 37 บาท แต่ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมารับข่าวแล้ว จึงคงคำแนะนำ "ถือ" เช่นเดียวกับ บมจ.อสมท.(MCOT) ให้ราคาเป้าหมาย 29 บาท ที่คาดว่าจะมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มในการจ่ายค่าใบอนุญาตรายปีให้กับกสทช.หลังจัดตั้งแล้วคาดว่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2555 ดังนั้นจึงแนะนำให้ลงทุน "น้อยกว่าตลาด"

นอกจากนี้ยังคงคำแนะนำ"ถือ" บมจ.อาร์เอส(RS) ราคาเป้าหมาย2.80 บาท เพราะหมดข่าวดีหลังประสบความสำเร็จในการถ่ายทอดบอลโลกแล้ว ขณะที่สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อMAJOR โดยตรง เนื่องจากรายได้ค่าโฆษณามีอัตรากำไรขั้นต้นสูงสุดราว 80-90% บวกกับ MAJOR จะบันทึกกำไรพิเศษราว 100 ล้านบาทในปลายงวดไตรมาส 3/2553 หรือต้นงวดไตรมาส 4/2553 จากบริษัทที่ร่วมทุนกับ บมจ.สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ (SF)ที่จะนำสินทรัพย์ที่รัชโยธิน ขายเข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us