ภายหลังจากที่สปาแอดเวอร์ไทซิ่ง และไทยฮาคูโฮโด ได้รวมธุรกิจเข้าด้วยกัน เมื่อต้นปี 2552 ได้มีการวางแนวทำงานด้วยคอนเซปต์ “ไฮบริด พาวเวอร์” เบรน 2 วัฒนธรรมการทำงานของไทยและญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน ผ่านเครือข่ายของคีย์แมน 3 GM มากประสบการณ์ มุ่งสร้างผลงานที่ตอบโจทย์ของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ตรงตามปรัชญาการทำงานของสปาฯ ที่ยึดถือมาตลอด 20 ปี คือ “ความสำเร็จของลูกค้า คือคุณค่าของผลงาน” เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสภาพเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมโฆษณาที่มีแนวโน้มกลับมาเติบโตอีกครั้ง
ทั้งนี้การผสาน 2 วัฒนธรรมไทยและญี่ปุ่น อันเป็นจุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาปรับเข้าด้วยกันได้เป็นอย่างดี ได้ส่งผลอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ การกลับมาของแบรนด์จากญี่ปุ่น เช่น พานาโซนิค, ซูซูกิ, ลอตเต้ ที่กลับมาใช้งบโฆษณาเพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยสามารถใช้ข้อมูลตลาดในเมืองไทยที่แม่นยำมากขึ้นในการรุกตลาด ขณะเดียวกันประเทศญี่ปุ่นถือเป็นแหล่งข้อมูลความรู้ทางการตลาดขนาดใหญ่ มีสินค้าและบริการที่หลากหลาย ทำให้สามารถนำไอเดียแปลกใหม่ และประสบความสำเร็จจากญี่ปุ่นมาปรับใช้สร้างความสำเร็จในการทำตลาดให้กับแบรนด์ในเมืองไทยได้เช่นกัน
จากชั่วโมงบินและประสบการณ์ของทั้ง 3 ผู้บริหาร เชื่อว่า บิลลิ่งของสปา-ฮาคูโฮโด ในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตขึ้นราว 10% จากปีก่อน โดยคาดว่าภาพรวมของธุรกิจโฆษณาทั้งระบบจะมีการเติบโตราว 8-10% เช่นกัน งานนี้หากพลิกกลับไปดูปูมหลังของคีย์แมนทั้ง 3 คงได้คำตอบชัดว่า ไม่ธรรมดา!!!
คนที่1.สมพร มาอุทธรณ์ ผู้จัดการทั่วไป
อดีต Research Executive กับบริษัท วิจัยอันดับ 1 ในอดีต Deemar ก่อนย้ายเข้าร่วมงานกับเอเยนซี่อันดับ 1 อย่าง Lintas ประสบการณ์ทำงานและรับผิดชอบงานในหลากหลายตำแหน่ง ตั้งแต่ Research Manager, Media&Research Director, Account Director และ Research & Account Planning Direcotr ก่อนย้ายมาร่วมงานกับสปาแอดเวอร์ไทซิ่ง ในตำแหน่ง Senior Executive Business Development Director ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง General Manager ในบริษัท สปา-ฮาคูโฮโด จำกัด
ในงานบริหารงานลูกค้า เขาเคยรับผิดชอบงานให้กับแบรนด์ใหญ่อย่าง หมากฝรั่ง Chiclets ลูกอมฮอลล์, น้ำยาบ้วนปาก Listerrine, โทรศัพท์ Nokia และรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าปัจจุบันมีลูกค้าอยู่ในการดูแลประกอบด้วย สินค้าจากกลุ่มโอสถสภา : แบนเนอร์โปรตีน/ โบตัน/ โอเล่ / ยูทิป/12 Plus/ Exit, รองเท้าแตะแกมโบล, กีโต้, ทิปโก้, มาลี, เครือโรงพยาบาลเปาโล, อินเตอร์ลิงก์ ฯลฯ
คนที่2. วศโดม รัศมิทัต ผู้จัดการทั่วไป
เขาเริ่มทำงานที่บริษัท Lema International ในตำแหน่ง Creative และย้ายมาเป็น Copywriter ในเอเยนซียักษ์ในอดีต Kenyon & Eckhardt (Thailand) ก่อนมาร่วมงานกับสปา แอดเวอร์ไทซิ่ง ในตำแหน่ง Executive Creative Director ก้าวขึ้นเป็น Senior Executive Creative Director และ Senior Executive Business Group Director จนถึงตำแหน่ง General Manager เมื่อกลางปีนี้
ประสบการณ์ในการบริหารลูกค้า วศโดมสร้างผลงานให้กับแบรนด์ใหญ่ระดับโลกหลายราย อาทิ BMW, Nissan, Misubishi Motor, Suzuki, Sony, Toshiba, Pioneer, Fuji, Best Food, Mcdonald, กระทิชาวเกาะ, ไวตามิลด์, Lactacyd, Premier Group, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, Tops Supermarket, ยีนส์ฮาร่า, แม็คยินส์, UMI, Nokia, สามารถคอร์ปอเรชั่น, CS Loxinfo, British Airways, สหธนาคาร, ธนาคารนครหลวงไทย,3M, กลุ่มสยามซิเมนต์ , เอเชียซิเมนต์ , Aero Liner, Hero Liner, อสมท-โมเดิร์นไนน์ทีวี, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ปัจจุบัน แบรนด์ใหญ่ที่อยู่ในการดูแลของวศโดม ประกอบด้วย กลุ่มโอสถสภา : M-150/ LIPO / SHARK / M-SPORT/ BANNER/ โอสถสภา คอร์ปอเรต , กลุ่มสิงห์ : สิงห์ คอร์ปอเรชั่น / ลีโอ / บี-อิ้ง / อีสาน/ Singha-Chelsea Project, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และกลุ่มปตท. : PTT FUEL / PTT LUBRICANTS.
คนที่ 3.ทรุฮิซะ อิโต้ ผู้จัดการทั่วไป
เขาเข้าสู่วงการโฆษณาด้วยการทำงานกับ Hakuhodo Inc.ในตำแหน่ง Assistant Manager & Account Planning Director ก่อนย้ายมาอยู่ประเทศไทย กับ Thai Hakuhodo ในตำแหน่ง Client Service Director & Strategic Planning Director
ประสบการณ์ในการดูแลแบรนด์ คุณอิโต้ เคยดูแลแบรนด์รถยนต์ทั้ง BMW, Mitsubishi และ Nissan มาก่อน ปัจจุบัน มีลูกค้าอยู่ในการดูแล ประกอบด้วย รถยนต์และจักรยานยนต์ซูซูกิ, ไทยลอตเต้, พานาโซนิค, Gilco, Nippon Airways Energy Reform เป็นต้น
|