Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์17 ตุลาคม 2553
“เคาน์เตอร์” ศึกความงามหมื่นล้านชูคอนเซ็ปต์-อัดนวัตกรรมลุยโค้งสุดท้าย             
 


   
search resources

Kanebo Cosmetics (Thailand)
เอลก้า (ประเทศไทย), บจก.
Cosmetics




ชมศึกความงาม 10,000 ล้านช่วงโค้งสุดท้าย “คลีนิกข์” ทุ่มงบ 6.5 ล้านบาท ปรับโฉมเคาน์เตอร์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “Service As You Like It” เป็นแห่งที่ 2 ในเอเชียต่อจากฮ่องกง หวังตอบความต้องการของลูกค้าทุกรูปแบบและขยายฐานสู่กลุ่ม young ด้าน “คาเนโบ” ปูพรมครบเซกเมนต์ ล่าสุดลอนช์ “Impress GRANMULA” ลุยตลาดซูเปอร์ไฮเอนด์ พร้อมผุดเคาน์เตอร์ นิวคอนเซ็ปต์ปีหน้า

หากมองภาพการแข่งขันตั้งแต่ต้นปี เคาน์เตอร์แบรนด์เป็นอีกสมรภูมิหนึ่งที่ถือว่าดุเดือด และถึงตอนนี้ก็ยังร้อนแรงแทบทุกตารางผิว โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้าย จะเห็นว่าสงครามการช่วงชิงผิวหน้าสาวไทยเข้มข้นยิ่งขึ้น เพราะนอกจากเป้าหมายการปั๊มยอดขาย บรรดาผู้เล่นทั้งหลายยังมองถึงการตอบโจทย์ผู้บริโภคในเชิงลึก มากกว่าการขยายฐานในเชิงปริมาณเท่านั้น

ล่าสุดการเปิดเคาน์เตอร์โฉมใหม่พื้นที่ 64 ตารางเมตร ของ “คลีนิกข์” ที่สยามพารากอน แม้ผิวเผินเป็นเพียงการรีโนเวตสาขาให้แลดูทันสมัยและแปลกใหม่ในสายตาผู้บริโภคเท่านั้น ทว่า นี่คือการปรับเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกความต้องการ ขณะเดียวกันก็เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นด้วย โดย “Service As You Like It” คือ คอนเซ็ปต์ที่ผู้เล่นรายนี้ต้องการใช้สื่อกับผู้บริโภค ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์เดียวกันทั่วโลก และคลีนิกข์ในไทยก็เป็นประเทศที่ 2 ต่อจากฮ่องกงที่ผุดเคาน์เตอร์คอนเซ็ปต์ดังกล่าว ขณะที่ประเทศอื่นก็เตรียมทยอยเปิดตัวต่อเนื่อง เช่น มาเลเซีย

“เคาน์เตอร์นี้ใช้งบลงทุนมากกว่าเคาน์เตอร์ปรกติที่ใช้งบกว่า 5 ล้านบาท ราว 30% โดยคอนเซ็ปต์ใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อให้ตอบไลฟ์สไตล์การจับจ่ายของผู้หญิงในปัจจุบันที่มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น แบบที่ต้องการบริการเต็มรูปแบบ รับคำปรึกษาแบบใกล้ชิด, ผู้ต้องการบริการแบบให้ความช่วยเหลือ และแบบบริการตัวเอง โดยพื้นที่จะแบ่งโซนชัดเจน เช่น มุมที่จำลองเป็นโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่เพื่อโชว์สินค้ากลุ่มเมกอัพ มุมสำหรับบอกรายละเอียดสินค้าท็อป 5 ของแบรนด์ หรือมุมโชว์สินค้ากลุ่มต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกสินค้าตามความต้องการ” เป็นคำกล่าวของ นันทวัลย์ เหล่าสินชัย ผู้จัดการผลิตภัณฑ์คลีนิกข์ บริษัท เอลก้า (ประเทศไทย) จำกัด

ทั้งนี้ หลังจากเคาน์เตอร์โฉมใหม่ที่สาขาสยามพารากอนเปิดให้บริการไปกว่า 1 เดือน พบว่า ลูกค้าที่เข้ามาเพิ่มขึ้น 20% โดยยอดขายกลุ่มเมกอัพเติบโตขึ้น 29% จากเดิมที่สินค้ากลุ่มนี้จะโตได้สูงเท่านี้ต้องมีโปรดักส์แรงๆ ออกมาเขย่าตลาด ส่วนกลุ่มทรีตเมนต์ที่ทำรายได้หลักของคลีนิกข์ 65% ก็ขยายตัวกว่า 50% ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการออกนวัตกรรม Laser Focus ด้วย ขณะที่ยอดการซื้อต่อบิลของลูกค้าโดยเฉลี่ยเพิ่มจาก 3,000 บาทเป็น 3,500 บาท

ไม่เพียงเท่านี้ ผู้บริหารแบรนด์คลีนิกข์ยังบอกว่า คอนเซ็ปต์ใหม่ยังช่วยสร้างประสบการณ์และการเข้าถึงแบรนด์กับลูกค้ากลุ่มใหม่ได้ง่ายขึ้นด้วย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น นักศึกษาที่ยังไม่เคยใช้สินค้า หรือไม่รู้ว่าคลีนิกข์ก็มีสินค้ากลุ่มเมกอัพ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเมกอัพจะเป็นกุญแจดอกสำคัญที่ทำให้เราเติบโต เพราะที่ผ่านมาคลีนิกข์แข็งแกร่งแล้วในกลุ่มทรีตเมนต์ โดยมั่นใจว่าการเปิดเกมบุกถึงสิ้นปีนี้จะช่วยให้แบรนด์เติบโตได้เป็นตัวเลข 2 หลัก

อย่างไรก็ตาม แม้คลีนิกข์มองว่าคอนเซ็ปต์ใหม่จะช่วยสื่อภาพลักษณ์และเข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีมากขึ้น แต่ผู้บริหารแบรนด์คลีนิกข์ ก็กล่าวชัดเจนว่าคอนเซ็ปต์ดังกล่าวเหมาะกับกลุ่มผู้บริโภคในกรุงเทพฯ หรือกลุ่มเมืองใหญ่ที่มีชีวิตเร่งรีบ และเข้าใจในไลฟ์สไตล์ตนเอง ดังนั้น การขยายสาขาในรูปแบบดังกล่าวก็ต้องพิจารณาตามกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่นั้นด้วย ส่วนสาขาเดิมแม้จะไม่มีการปรับโฉม แต่ผู้เล่นรายนี้ก็เน้นประสิทธิภาพการให้บริการ ด้วยการเพิ่มเครื่องวิเคราะห์ผิวประจำทุกสาขา จากตอนนี้มีแล้ว 10 สาขา และจะทยอยให้ครบ 43 สาขาในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ คลีนิกข์ไม่ได้เป็นแบรนด์ที่มีการนำคอนเซ็ปต์ของเคาน์เตอร์มาเป็นตัวดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขายเท่านั้น เพราะเมื่อไม่นานมานี้ค่ายเอลก้าก็เพิ่งทำการปรับโฉมเคาน์เตอร์แบรนด์ในเครือ 7 แบรนด์พร้อมกันที่สาขาพารากอน เช่น เอสเต ลอเดอร์, ลาแมร์, แมค, ออริจินส์ แม้แต่ผู้เล่นต่างค่ายอย่าง “ชิเซโด้” ก็หันมาให้ความสำคัญกับการผุดเคาน์เตอร์ในคอนเซ็ปต์ต่างๆ ที่มีการออกแบบมาให้เจาะกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันด้วย เช่น “ชิเซโด้ โตเกียว เคาน์เตอร์” เน้นสื่อสารกับกลุ่มวัยรุ่น นักศึกษา ส่วนรูปแบบ “Global Merchandising Counter” มุ่งเจาะกลุ่มผู้ใหญ่

ส่วนค่ายคาเนโบ แม้จะเป็นผู้เล่นที่ไม่มีความเคลื่อนไหวมากนักเมื่อเทียบกับ 2 ผู้นำตลาด แต่ผู้เล่นรายนี้ก็ใช้คอนเซ็ปต์ของเคาน์เตอร์ในการแยกเจาะกลุ่มลูกค้าด้วย โดยเคาน์เตอร์คาเนโบมี 2 รูปแบบ คือ เคาน์เตอร์ซากุระ และนิวคอนเซ็ปต์ ซึ่งเตรียมจะเปิดอีกที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ปีหน้า ขณะเดียวกันได้ลงทุนนำเข้าเครื่องเช็กสภาพผิว มูลค่าเครื่องละ 200,000 บาท ไว้ที่เคาน์เตอร์ทั้งหมด 60 แห่ง โดยเป้าหมายเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัยและขยายฐานลูกค้าใหม่ อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป จากเดิมมีลูกค้าหลักเป็นกลุ่มแม่บ้านอายุ 30-40 ปี

นอกจากการสื่อภาพลักษณ์ผ่านเคาน์เตอร์ ทางคาเนโบยังมุ่งใช้โปรดักส์เป็นตัวช่วยอีกทางหนึ่งด้วย ล่าสุดการเปิดตัวครีมบำรุงผิว “อิมเพรส แกรนมูล่า” จำนวน 3 รายการ วางราคาที่ 8,000-48,000 บาท เจาะกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไป เป็นสินค้าซูเปอร์ไฮเอนด์ระดับเดียวกับ ซิซเลย์, ลาแมร์ และเคลย์เดอโป โบเต้ ซึ่งไม่เพียงจะช่วยสื่อถึงการเป็นแบรนด์ที่มีนวัตกรรมและดูเป็นพรีเมียมมากขึ้นเท่านั้น แต่สินค้าชุดนี้ยังช่วยให้คาเนโบมีสินค้าบุกในทุกเซกเมนต์ ไล่ตั้งแต่แมสทีจ เพรสทีจ พรีเมียม และซูเปอร์ไฮเอนด์

สำหรับการออกสินค้าครั้งนี้ มร.โทมิโอะ โอนิชิ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท คาเนโบ คอสเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า เป็นหนึ่งในแผนของคาเนโบที่พยายามปรับภาพลักษณ์ใหม่ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันแบรนด์ในเครือคาเนโบ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเคาน์เตอร์ ประกอบด้วย แบรนด์อิมเพรส (สกินแคร์), แบรนด์บลองเชีย (สกินแคร์), แบรนด์คอเฟร์ท ดอร์ (เมกอัพ) และแบรนด์ลูน่าโซล (เมกอัพ) ส่วนกลุ่มแมส ประกอบด้วยแบรนด์เคทและแบรนด์เฟรเชล ที่จำหน่ายในร้านสุขภาพและความงามและซูเปอร์มาร์เกต เช่น วัตสัน บู๊ทส์

ทั้งนี้ อิมเพรส แกรนมูล่า ถือเป็นหนึ่งในเซกเมนต์ของแบรนด์อิมเพรสที่เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าผู้ใหญ่ ส่วนอิมเพรส ราคา 2,000-18,000 บาท เจาะกลุ่มคนทำงาน และอิมเพรส ไอซี 1,000-6,800 บาท เน้นกลุ่มวัยรุ่น 20 ปีขึ้นไป โดยคาเนโบจะวางสินค้ากลุ่มใหม่นี้กระจายครบ 69 สาขา เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในต่างจังหวัดและสร้างการรับรู้ในทิศทางเดียวกันด้วย ต่างจากคู่แข่งแบรนด์อื่นที่มักวางสินค้าระดับไฮเอนด์เฉพาะสาขาที่เห็นว่าเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น

เกมบุกครั้งนี้ แสงเดือน อุทารวุฒิพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท คาเนโบ คอสเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า บริษัทคาดว่าสินค้ากลุ่มอิมเพรสจะเติบโตขึ้น 20% และช่วยให้ภาพรวมคาเนโบขยายตัวขึ้นด้วย โดยหวังจะสามารถเป็นท็อป 5 ภายใน 3 ปี ด้วยแชร์กว่า 8% จากตอนนี้ที่มีอยู่ราว 4% จากตลาดเคาน์เตอร์แบรนด์มูลค่า 10,000 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us