วันนี้คำว่า “สมาร์ทโฟน” ไม่ใช่คำที่ไกลเกินฝันของผู้ใช้โทรศัพท์มือถืออีกต่อไป เพราะผู้บริโภคยุคใหม่เรียนรู้กันไว และเข้าใจกันดีแล้วว่าสมาร์ทโฟนมีคุณสมบัติเพิ่มเติมที่สอดคล้องกับความจำเป็นในการบริหารชีวิต ตั้งแต่ระดับผู้ปฏิบัติไปจนถึงผู้บริหารธุรกิจ หากเป็นการใช้สมาร์ทโฟนในทางธุรกิจ

จึงไม่ค่อยจะมีใครสงสัยเกี่ยวกับบทบาทของสมาร์ทโฟนในทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการจัดตารางเวลาการประชุม พบปะสังสรรค์ทางธุรกิจ ไปจนถึงการติดตามตารางเวลาที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมในครอบครัว การอัปเดตอีเมลที่ส่งมาใหม่ๆ หรือการค้นหาบางอย่างผ่านการท่องเว็บ

เส้นที่แบ่งแยกระหว่างการใช้สมาร์ทโฟนทางธุรกิจกับการใช้สมาร์ทโฟนเพื่อสนองความต้องการส่วนตัว โดยเฉพาะในคุณสมบัติที่เป็นมัลติมีเดียหรือเอนเตอร์เทนเมนต์อาจจะยังน่าติดตามต่อไป

ในขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญทางการตลาดบางคนพยากรณ์ว่า ความนิยมและความแพร่หลายของสมาร์ทโฟน น่าจะทำให้มีการส่งต่อเทคโนโลยีที่เป็นสมาร์ทโฟนชิปไปยังสินค้าในประเภทอื่นในอนาคต โดยเฉพาะของเล่นเด็ก ทั้งนี้เพราะว่าในวันนี้เจเนอเรชั่นนี้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ปฏิบัติงานบนชิปสแนปดราก้อนของควอลคอมม์

(Qualcomm) หรือโอแมพ 3 ของ เท็กซัส อินสทรูเมนท์ส หรือฮัมมิงเบิร์ดของซัมซุง ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ยังถือว่าเป็นเพียงบทเริ่มต้นหรือเจเนอเรชั่นแรกของชิป ที่น่าจะยังสามารถพัฒนาศักยภาพและขอบข่ายออกไปได้มากขึ้นอีกมากมายแบบบอกขอบเขตไม่ได้ชัดในวันนี้

มีการประมาณการกันว่าเทคโนโลยีตอนนี้สามารถใช้งานหรือเล่นกับฟังก์ชั่นต่างๆ ได้นานกว่า 10 ชั่วโมง หากเป็นวิดีโอก็เป็นการเล่นแบบไฮเดฟด้วย และนานออกไปกว่า 140 ชั่วโมงหากเป็นการเล่นเพลงจากซิงเกิลชาร์จ

ที่ให้ความสำคัญกับระยะเวลาในการทำงานของสมาร์ทโฟนก็เพราะว่า โทรศัพท์มือถือนั้นจะไม่สามารถเรียกตัวเองว่าสมาร์ทโฟนได้ หากมีระยะเวลาของอายุการใช้งานของเครื่องสั้นแบบเดิมๆ หรือทำงานช้าอืดอาดไม่ทันใจวัยโจ๋ และไม่มีแอปพลิเคชั่นด้านซอฟต์แวร์ที่น่าสนใจ

แต่แนวโน้มที่เห็นได้ชัดในวันนี้คือ อีกไม่นานเกินรอ โทรศัพท์มือถือทั้งโลกคงจะหนีไม่พ้นยุคของสมาร์ทโฟนเสียแล้ว และการดำเนินธุรกิจก็คงหนีไม่พ้น เอ็ม มาร์เกตติ้ง หรือโมบาย มาร์เกตติ้งแน่นอน

อย่างไรก็ตาม วันนี้แนวโน้มของผู้คนจำนวนไม่น้อยยังมองว่าสมาร์ทโฟนยังเป็นเพียงแฟชั่น ความนิยมชั่วคราว หรือของเล่นประดับติดตัวมากกว่าการเตรียมใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง และที่สำคัญการศึกษายังพบว่าสมาร์ทโฟนเป็นสินค้าเชิงสัญลักษณ์ของเด็ก วัยรุ่น ที่ใช้เวลานานเป็นชั่วโมงๆ ในการส่งข้อความถึงกันและกัน เชื่อมโยงกันทางอีเมล เล่นวิดีโอเกม หรือการเอนเตอร์เทนเมนต์รูปแบบอื่นๆ

ขณะเดียวกัน หากมองจากผู้ประกอบการในตลาดของเล่น ก็จะพบว่ามองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเด็กและวัยรุ่นในความอยากได้อยากมีสมาร์ทโฟน

นั่นทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ของโลกอย่างบริษัทบันไดของญี่ปุ่น ได้นำเสนอของเล่นชิ้นใหม่ที่มีหน้าตาและฟังก์ชั่นการทำงานและการออกแบบคล้ายกับสมาร์ทโฟนอย่างมาก โดยมีชื่อว่า สมาร์ทเบอร์รี่

ที่ว่าเหมือนกับสมาร์ทโฟนก็เพราะของเล่นชิ้นนี้มีฟังก์ชั่นให้เลือกเข้าใช้ไวร์เลสได้ด้วย และเปิดให้เด็กที่เล่น 4 คนสามารถส่งอีเมลถึงกัน หรือแชตกันในกลุ่ม หรือเล่นเกมออนไลน์ได้ในระยะที่มีรัศมีห่างกันไม่เกิน 10 เมตรด้วย

นอกจากนั้น หน้าจอของสมาร์ทเบอร์รี่ที่ว่านี้ยังมีหน้าตา ขนาดที่ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนอย่างมาก คือขนาด 50x35 มิลลิเมตร หนักประมาณ 112.3 กรัม และหน้าจอเป็นแอลซีดี สกรีน สไลด์ออกมาเป็นคีย์บอร์ดได้ ทำงานโดยใช้แบตเตอรี่ 3เอ

ที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ เป้าหมายของลูกค้าที่บริษัทออกมาประกาศมี 2 กลุ่มคือ กลุ่มแรกเป็นเด็กที่มีอายุระหว่าง 6-9 ขวบ กลุ่มที่สองคือ พ่อแม่ที่จะใช้ในการตามหาตัวลูกว่าเล่นอยู่ที่ไหน เป็นการสื่อสารระหว่างพ่อแม่กับลูกๆ

นั่นแปลว่าในอนาคตเด็กอายุขนาดนี้จะมีความสามารถในการใช้เครือข่ายสื่อสารทางออนไลน์และสมาร์ทโฟนได้แล้ว