Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2527








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2527
โชติ โภควนิช เขาเป็นคนแรกในรอบ 100 ปี             
 


   
search resources

International
โชติ โภควนิช




โชติ โภควนิช กับ ทวี อัมพรมหา หรือขาวผ่อง สิทธิชูชัย นั้นมีอะไรคล้ายๆ กันอย่างน้อยก็อย่างหนึ่ง แม้ว่าคนแรกจะมีอาชีพเป็นนักบิรหารในวงการธุรกิจไม่ได้สวมนวมตะบันหน้าใครเหมือนกับคนหลังก็เถอะ

ทวีหรือขาวผ่องเพิ่งจะถูกยกย่องให้เป็นนักมวยคนแรกในประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาไทย ที่สามารถคว้าเหรียญเงินมาครองอย่างสมภาคภูมิในมหกรรมกีฬาโอลิมปิค ซึ่งระหว่างบรรเลงต้นฉบับอยู่นี้ ชื่อเสียงของขาวผ่องก็ดังคับเมืองไปแล้ว แต่กว่า "ผู้จัดการ" จะตีพิมพ์ออกวางจำหน่ายเจ้าตัวจะยังดังอยู่ต่อไปหรือไม่นั้น ก็สุดที่จะเดาได้ เอาเป็นว่ายังไง…ยังไงขาวผ่องก็เป็นนักชกเหรียญเงินโอลิมปิคคนแรกของประเทศไทยก็แล้วกัน

ส่วนโชติ โภควนิช ก็เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์เหมือนกัน และคือสิ่งที่ว่ามีส่วนคล้ายกันอยู่

โชติ ปัจจุบันอายุ 42 ปี ตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของบริษัท อี๊สต์เอเชียติ๊ก ประเทศไทย บริษัท การค้าระหว่างประเทศที่มีอายุการก่อตั้งถึงปีนี้ก็ 100 ปีพอดิบพอดี ขณะนี้มีสำนักงานใหญ่หรือตัวบริษัทแม่อยู่ที่กรุงโคเปนเฮเกนประเทศเดนมาร์ก

หนึ่งศตวรรษของอี๊สต์เอเชียติ๊กนั้น เป็นหนึ่งศตวรรษของการเจริญเติบโตจนสามารถแตกกิ่งก้านสาขาออกไปหลายสิบประเทศ แต่ไม่ว่ากาลเวลาจะผันเปลี่ยนเพิ่มอายุให้แก่กิจการอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ตลอดหนึ่งศตวรรษไม่เคยเปลี่ยนก็คือ ผู้บริหารระดับสูงไม่ว่าจะเป็นบริษัทแม่หรือบริษัทลูกล้วนต้องเป็นคนเชื้อสายเดนมาร์กหรือไม่เช่นนั้นก็ควรจะมีสายเลือดแองโกร-แซกซันเหมือนๆ กันซึ่งจะเป็นเพราะความบังเอิญที่ยังหานักบริหารประเภทเลือดต่างสีไม่ได้หรือจะเป็นเพราะนโยบายก็สุดที่จะทราบ

อย่างไรก็ตาม ถ้าสิ่งนี้เป็นจารีต จารีตนี้ก็ให้มีอันต้องถูกยกเลิกไปเสียแล้ว เนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้ ทางสำนักงานใหญ่ของอี๊สต์เอเชียติ๊กได้แถลงว่า นับแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2527 เป็นต้นไป ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของบริษัทอี๊สต์เอเชียติ๊กที่สิงคโปร์จะถึงวาระของหนุ่มนักบริหารเชื้อสายไทยที่ชื่อ โชติ โภควนิช

โดยโชติจะไปแทน K.V. MORCH ซึ่งจะย้ายกลับไปประจำที่สำนักงานใหญ่กรุงโคเปนแฮเกนบ้านเกิดของเขา

โชติจึงเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับการโปรโมตขึ้นไปรับตำแหน่งระดับนั้นและเป็นกรรมการผู้จัดการชาวต่างชาติคนแรกที่ไม่ใช่เดนนิชหรือมีเชื่อสายแองโกร-แซกซันอีกด้วย

โชติเป็นศิษย์เก่าอัสสัมชัญสำเร็จวิชาการบัญชีจากอังกฤษ โดยเป็น MEMBER OF THE ASSOCIATION OF CERTIFIED ACCOUNTANTS, ENGLAND และเคยผ่าน PROGRAM FOR MANAGEMENT DEVELOPMENT ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหลักสูตรระยะสั้นสำหรับผู้ที่จะก้าวขึ้นไปเป็นนักบริหารระดับสูง

หลังจากผ่านการเป็นนักเรียนเก่าอังกฤษที่คร่ำหวอดอยู่นานถึง 9 ปี โชติเริ่มงานชิ้นแรกกับบริษัทรับตรวจสอบบัญชีและที่ปรึกษาชื่อ LOWE, BINGHAM & MATIHEWS ในฮ่องกงจากนั้นก็กลับบ้านมาร่วมงานกับ PRICE WATERHOUSE & CO. ที่กรุงเทพฯ และเคยทำงานกับ HAWKER SIDDELEY VAIATION ที่ลอนดอน พักหนึ่ง

เขาเริ่มงานกับอี๊สต์เอเชียตี๊กประเทศไทยเมื่อเดือนธันวาคมปี 2511 ตำแหน่งแรกคือสมุห์บัญชีประจำบริษัท

หลังจากนั้นก็ก้าวหน้าในตำแหน่งด้านนี้มาโดยตลอดจนเมื่อ 2 ปีที่แล้วก็ขึ้นรั้งตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน ซึ่งว่าไปแล้วก็คือมือขวาของกรรมการผู้จัดการบริษัท

การย้ายโชติไปเป็นกรรมการผู้จัดการสาขาสิงคโปร์ครั้งนี้มีเสียงวิจารณ์ติดตามมาพอสมควรโดยเฉพาะคำวิจารณ์ที่ว่า การไปครั้งนี้เป็นการส่งโชติไปหาประสบการณ์ข้างนอก ก่อนจะกลับเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการสาขาประเทศไทย ดูเหมือนจะพูดกันหนาหูที่สุด

อี๊สต์เอเชียติ๊กประเทศไทยเพิ่งตัดสินใจสมัครเข้าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ของไทยเมื่อไม่กี่ปีมานี้ และบริษัทมีนโยบายที่พยายามจะเปลี่ยนสีสันของการเป็นบริษัทสาขาของต่างประเทศ ให้เป็นบริษัทที่มีคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้องมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขายหุ้นส่วนหนึ่งให้หรือการโปรโมตคนเจ้าของประเทศขึ้นมาในตำแหน่งนักบริหารระดับสูง

สิ่งที่เกิดขึ้นกับโชติจึงถูกมองว่าน่าจะมีส่วนสัมพันธ์อย่างแยกไม่ออกจากนโยบายดังกล่าว ซึ่งแน่นอนย่อมผนวกกับความสามารถเฉพาะตัวของโชติด้วย

ปลายปี 2527 นี้อี๊สต์เอเชียติ๊กจะจัดงานเฉลิมฉลองเป็นการใหญ่โต ในฐานะที่ก่อตั้งกิจการขึ้นมาจนมีอายุครบ 100 ปี

และเรื่องของโชติ โภควนิช ในวันนี้จะถูกบันทึกไว้ในหน้าแรกของประวัติศาสตร์ในปีที่ 101

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us