เทสโก้ กินรวบ รุกธุรกิจการเงิน ส่งบัตรเงินผ่อน เอาใจราชาเงินผ่อน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จจากการลอนช์บัตรเครดิต พร้อมตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งจากบัตรเครดิตและบัตรเงินผ่อนที่ใช้ในเทสโก้ โลตัส

เทสโก้ โลตัส ทุ่มงบ 70 ล้านบาท รุกธุรกิจการเงิน ตั้ง บริษัท เทสโก้ คาร์ด เซอร์วิสเซส ผุดบัตรเครดิตเทสโก้ วีซ่า แพลทินัม และบัตรเงินผ่อน เทสโก้ พรีเมียร์ สร้างความคล่องตัวทางการเงิน เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภคหลังจากที่ก่อนหน้านี้เดินเกมเติมเต็มไลฟ์สไตล์เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้าห้าง

“เราเชื่อว่าบัตรเครดิตเทสโก้ วีซ่า แพลทินัม เป็นบัตรที่ให้สิทธิประโยชน์สูงสุดกับสมาชิกเมื่อเปรียบเทียบกับบัตรอื่นๆ ในประเภทเดียวกัน นอกจากจะรับเงินคืน 3% จากการซื้อสินค้าที่เทสโก้ โลตัส และเติมน้ำมันที่สถานีบริการเอสโซ่แล้ว ยังมอบสิทธิประโยชน์อื่นๆ ซึ่งรวมถึงคะแนนสะสมพิเศษจากการใช้จ่ายผ่านบัตร ส่วนบัตรสินเชื่อ เทสโก้ พรีเมียร์ จัดทำขึ้นโดยเฉพาะสำหรับลูกค้ารายได้ปานกลาง” แพทริค เกรแฮม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เทสโก้ คาร์ด เซอร์วิสเซส กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบัน บัตรเครดิตเทสโก้ วีซ่า มีฐานลูกค้า 500,000 ราย โดยคาดว่าในปีนี้มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งสิ้น 26,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นราว 10% จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากลูกค้าจะได้สิทธิประโยชน์ทั้งการรับเงินคืน 3% ตั้งแต่บาทแรก ที่ห้างเทสโก้ โลตัส และปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ทำให้บัตรแพลทินัมมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยสูงถึง 15,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน นอกจากนี้บริษัทตั้งเป้ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเทสโก้ วีซ่า แพลทินัม ในปีหน้าไว้ที่ 30,0000 ล้าน เพิ่มขึ้น 15% จากปีนี้

ส่วนบัตรสินเชื่อเทสโก้ พรีเมียร์ ซึ่งเริ่มออกสู่ตลาดเมื่อช่วงกลางปี โดยให้บริการสินเชื่อเงินผ่อน และสินเชื่อเงินสดกับลูกค้าปัจจุบันมีฐานลูกค้า 10,000 ราย โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ราย และจะเพิ่มเป็น 200,000 รายในปีหน้า ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าของบัตรสินเชื่อเทสโก้ พรีเมียร์เป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อย ตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายจากการอำนวยความสะดวกทางด้านการเงินให้แก่ลูกค้า และยังเป็นการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ โดยก่อนหน้านี้ลูกค้าเทสโก้มีการใช้บริการบัตรเงินผ่อนจากค่ายอิออน เฟิร์สช้อยส์

อย่างไรก็ดี ภายหลังจากเทสโก้ รุกธุรกิจการเงิน คาดว่าจะขยายส่วนแบ่งการตลาดของยอดเงินผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้างเทสโก้ โลตัสจาก 3% ในปัจจุบันให้เป็น 30% ในอีก 2 ปีข้างหน้า ส่วนบัตรเครดิตเทสโก้ คาดว่าจะมีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 30% เป็น 50% จากจำนวนลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิตทั้งหมดในห้างเทสโก้ โลตัส

ทั้งนี้ การเติบโตของเทสโก้ โลตัส ที่มีโมเดลธุรกิจค้าปลีกมากมาย ส่งผลให้มีคู่แข่งรอบด้าน ทำให้ต้องพยายามหาแม่เหล็กใหม่ๆ ในการช่วงชิงกำลังซื้อจากคู่แข่ง โดยหลังจากเทสโก้ ส่ง โลตัส เอ็กซ์เพรส เข้าสู่สมรภูมิคอนวีเนียนสโตร์ ก็ต้องเผชิญกับคู่แข่งรายใหญ่อย่างเซเว่นอีเลฟเว่นที่มีสาขามากถึง 5,000 สาขา

ทำให้เทสโก้ โลตัส พยายามหาสินค้าและบริการใหม่ๆ ในการดึงดูดกำลังซื้อ เช่น การก้าวเข้าสู่ธุรกิจบิลเพย์เมนต์ หรือการรับชำระค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ โดย คิดค่าธรรมเนียมเพียงบิลละ 5 บาท ซึ่งถูกกว่าเคาน์เตอร์เซอร์วิส ในเครือร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เป็นเท่าตัว อีกทั้งบางช่วง เทสโก้ ยังมีการทำโปรโมชั่นลดค่าธรรมเนียมเหลือเพียง 1 บาท และบางครั้งก็มีแคมเปญฟรีค่าธรรมเนียม ส่งผลให้มียอดการใช้บริการบิลเพย์เมนต์เพิ่มขึ้นสูงถึง 300% ซึ่งสะท้อนกลับไปถึงการดึงดูดกำลังซื้อให้เข้ามาใช้บริการในสาขาต่างๆ ของเทสโก้ โลตัส ได้มากขึ้นด้วย

นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมา เทสโก้ โลตัส ยังมีการทำบัตรสมาชิกที่ชื่อว่า “คลับ การ์ด” บัตรสมาชิกที่ฉีกกฎบัตรของคู่แข่งด้วยการสะสมแต้มแบบไม่มีวันหมดอายุ และสมัครสมาชิกฟรี โดยใช้ได้กับสาขาของเทสโก้ โลตัส ทุกรูปแบบ ตั้งแต่ไฮเปอร์มาร์เกต ไปถึง โลตัส เอ็กซ์เพรส ส่งผลให้ในเวลาเพียง 1 ปี สามารถขยายฐานสมาชิกได้มากถึง 5 ล้านราย มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 4 ล้านราย

ล่าสุด เทสโก้ มีการรุกเข้าสู่ธุรกิจประกันภัยด้วยการตั้งบริษัท เทสโก้ เจเนอรัล อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ โดยร่วมกับศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดตัว “ประกันภัยโรคมะเร็ง” ราคา 66 บาทต่อเดือน ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 600,000 บาท เมื่อตรวจพบมะเร็งทุกระยะ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งบริการจากเทสโก้ โลตัส ที่จะดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการที่เทสโก้ โลตัส และเป็นการเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในทุกด้านของผู้บริโภค

สำหรับการแตกไลน์ธุรกิจการเงินของเทสโก้ เป็นความพยายามที่ต่อเนื่องหลังจากดึงดูดกำลังซื้อให้เข้ามาใช้บริการในห้างแล้ว ก็พยายามทำให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกจากการจับจ่ายผ่านบัตรเครดิต และบัตรเงินผ่อนของเทสโก้ โลตัส

“เราพยายามหาวิธีการใหม่ๆ ในการทำให้ลูกค้าของเรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการสามารถซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณภาพ หรือสินค้าชิ้นใหญ่ที่มีราคาสูงอื่นๆ ได้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพวกเขา” เกรแฮม กล่าว

ทั้งนี้ ธุรกิจบัตรเครดิต และบัตรเงินผ่อน มีรายได้จากการคิดค่าบริการร้านค้าต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมา เทสโก้ ต้องจ่ายให้กับสถาบันการเงิน รวมถึงนอนแบงก์อย่างบัตรอิออน และเฟิร์สช้อยส์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นเม็ดเงินที่ไม่น้อย ส่งผลให้เทสโก้ ก้าวเข้าสู่ธุรกิจการเงิน เพื่อมิให้เม็ดเงินรั่วไหล เพียงแต่เปลี่ยนกระเป๋าซ้าย ขวา เท่านั้น