Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์10 ตุลาคม 2553
CEO ข้ามชาติ ปรับตัวไม่ทันการตลาดโลก             
 


   
search resources

Commercial and business




ในแวดวงทางการตลาด มักจะมีความเชื่อว่าบรรดาบริษัทข้ามชาติมีความสามารถในการเติบโต โดยการพึ่งพาโอกาสทางธุรกิจในระดับโลกได้อย่างดีและมากกว่ากิจการทั่วไป และน่าจะสามารถปรับตัวปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้ทันตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในตลาดโลกได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทไอบีเอ็มได้เปิดเผยรายงาน 2 ฉบับ ที่มีความสำคัญมากต่อการมองภาพอนาคตของบริษัทข้ามชาติในเจเนอเรชั่นต่อไป

รายงานฉบับแรกชื่อ 2010 CEO Study ได้มาจากการสัมภาษณ์ซีอีโอทั่วโลกกว่า 1,500 คนและรายงานอีกฉบับหนึ่งเป็นเรื่อง Global Student Study 2010 มาจากการสำรวจนักศึกษา 3,600 คนจากทั่วโลก เพื่อชี้สไตล์ของผู้บริหารปัจจุบันและเปรียบเทียบกับคนที่จะเป็นว่าที่ซีอีโอในอนาคต

เมื่อนำรายงานทั้งสองฉบับมาพิจารณาร่วมกัน พบว่ามีความคลาดเคลื่อนและแตกต่างกันไม่น้อยระหว่างซีอีโอ 2 รุ่นในมุมมองที่มีต่อกระแสโลกาภิวัตน์ต่อการดำเนินธุรกิจระดับกิจการข้ามชาติ และผลกระทบที่เกิดจากกระแสโลกต่อการดำเนินกิจการ

ประการแรก ซีอีโอปัจจุบันประเมินว่าสภาพแวดล้อมทางธุรกิจระดับโลกจะมีความซับซ้อนขึ้นในระยะต่อไปจากนี้ จากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในระดับมหภาค โดยเฉพาะการถ่ายโอนอำนาจทางเศรษฐกิจจากตลาดในประเทศทางตะวันตกมายังตลาดในประเทศกำลังพัฒนามากขึ้น สอดคล้องกับการพยากรณ์ของกลุ่มประเทศสมาชิกโออีซีดีจากการที่มวลรวมรายได้ประชาชาติของประเทศพัฒนาแล้วจะลดลงจาก 60% ของโลกเหลือเพียง 43% ในปี 2030

ด้วยเหตุนี้ การบริหารงานของกิจการข้ามชาติ จะเน้นโมเดลการดำเนินงานที่มุ่งเน้นระดับท้องถิ่นหรือรายพื้นที่มากกว่าการใช้โมเดลการดำเนินงานแบบเดียวในตลาดหลักตลาดหนึ่งตลาดใดเท่านั้น โดยควรทำการเชื่อมโยงกับศูนย์กลางการตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงใหม่ๆ และอิทธิพลของตลาดในเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาใต้

อย่างเช่นตลาดจีนที่มีประชากรกลุ่มรายได้ปานกลางอยู่แล้วประมาณ 250 ล้านคนนั้น คาดว่าจะเพิ่มอีกเท่าตัวในทศวรรษหน้า และคาดว่ามีผู้ใช้แรงงาน 1 ใน 4 ของแรงงานที่เป็นชาวอินเดียในปี 2020 ซึ่งจะมีผลทำให้เกิดการกระจายตัวของลูกค้าเป้าหมายและกลุ่มผู้ใช้แรงงานในกิจการข้ามชาติ

ด้วยเหตุนี้ ซีอีโอของบริษัทข้ามชาติจึงมีความจำเป็นต้องปรับปรุงการออกแบบโมเดลธุรกิจระดับข้ามชาติของตนใหม่ ปรับวิธีการปฏิบัติทางธุรกิจระหว่างประเทศใหม่ เปลี่ยนโครงสร้างการบริหารใหม่ และสร้างสไตล์ของการเป็นผู้นำสไตล์ใหม่ เพื่อรับมือกับความหลากหลายของกลุ่มลูกค้าและแรงงานที่จะเป็นบุคลากรในกิจการ

อย่างไรก็ตาม จากการสัมภาษณ์กลับพบว่าซีอีโอรุ่นปัจจุบันส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยจะเชื่อว่าการปรับตัวของกระแสภาวะแวดล้อมในธุรกิจระดับโลกจะมีผลต่อกิจการของตนเองในช่วง 5 ปีที่จะถึงนี้

ประการที่สอง ตรงข้ามกับว่าที่ซีอีโอในอนาคต คนรุ่นใหม่คิดว่าองค์กรไม่น่าจะอยู่ได้ต่อไป และเชื่อว่าเป็นโมเดลธุรกิจที่ล้าสมัยไปแล้ว และเชื่อว่ากระแสการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพแวดล้อมของระดับโลกจะมีอิทธิพลเพียงพอที่จะเปลี่ยนโครงสร้างกิจการได้ ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าที่ซีอีโอในอนาคตเหล่านี้มีชีวิตอยู่ในสังคมที่มีความหลากหลายอยู่แล้ว จึงตระหนักถึงการปรองดองท่ามกลางความแตกต่าง และเข้าถึงกลุ่มคนที่แตกต่างได้ดีกว่า

นอกจากนั้น การใช้ชีวิตอยู่บนโลกของสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้ว่าที่ซีอีโอรุ่นใหม่ มีความเชื่อมโยงและติดต่อกับกลุ่มคนที่แตกต่างระดับโลกอยู่แล้ว

ประการที่สาม แนวทางที่กิจการข้ามชาติส่วนใหญ่น่าจะไปในอนาคต น่าจะประกอบด้วยองค์ประกอบที่สำคัญอย่างน้อย 3 ประการเพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจระดับโลก คือ องค์ประกอบแรก การดำเนินงานในลักษณะที่เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย แทนระบบที่ทำเองคนเดียว อยู่คนเดียว โดยเฉพาะการดึงเอามูลค่าเพิ่มมาจากเครือข่ายที่เป็นพนักงาน คู่ค้า ซัปพลายเออร์ และลูกค้าจากภูมิภาคต่างๆ เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการในระดับโลกได้

องค์ประกอบที่สอง การดำเนินงานแบบพร้อมที่จะปรับตัวได้ตลอดเวลา มีความยืดหยุ่นของการปรับแผนงานตามสถานการณ์มากขึ้น

องค์ประกอบที่สาม การกระตุ้นแนวคิดให้ผู้บริหารมองภาพการบริหารธุรกิจในระดับโลกมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่การมองแบบวัฒนธรรมองค์กรเดียว มองเห็นความหลากหลาย และเห็นระบบของคุณค่าอย่างแท้จริงที่อยู่ร่วมกันในองค์กรเดียวกันได้อย่างผสมผสาน

องค์กรที่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากจากการมองเห็นความหลากหลายของผู้คน มีหลายแห่งแล้วเหมือนกัน อย่างเช่น จีอี บริษัท ซิสโก้ ซิสเต็ม ได้ลดความเป็นกิจการทางตะวันตกลงไปมาก และเสริมการบริหารจัดการด้วยซีอีโอจากระดับภูมิภาคมากขึ้น

บทสรุปของการศึกษาจากรายงาน 2 ฉบับดังกล่าวระบุว่า กิจการระดับข้ามชาติไม่สามารถยึดติดกิจการของตนไว้กับโครงสร้างองค์กรและกระบวนการดำเนินธุรกิจในแบบของศตวรรษที่ 20 อีกต่อไปได้

ซีอีโอของกิจการข้ามชาติต้องพยายามที่จะเพิ่มการพึ่งพาว่าที่ซีอีโอที่จะขึ้นมาเป็นทายาททางการบริหารในอนาคตให้มากขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นการปรับเปลี่ยนกิจการไปสู่การบริหารแบบกระจายรูปแบบตามการกระจายตัวเชิงภูมิภาค และเชื่อมโยงการเข้าถึงตลาดที่หลากหลายได้อย่างมั่นใจ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us