Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา ตุลาคม 2553
ไปแซงต์-มาโล             
โดย สุภาพิมพ์ ธนะพรพันธุ์
 


   
search resources

Entertainment and Leisure




เมื่อฤดูร้อนมาถึง กิจกรรมต่างๆ ในกรุงปารีสหยุดชะงัก นิทรรศการที่เริ่มมาตั้งแต่ปลายฤดูหนาวพากันสิ้นสุดลง มีบ้างที่มีต่อ เนื่องไปจนเดือนกันยายน หลังจากนั้นจะมีนิทรรศการใหม่ๆ มาแทน กิจกรรมเดียวที่ชาวกรุงปารีสรอคอยคือ Paris Plage การแปลงเขื่อนริมแม่น้ำแซน (Seine) เป็นชายหาดแสนสำราญสำหรับผู้ที่ไม่ได้ไปพักร้อนและนักท่องเที่ยว

ไม่ได้ไป “พักร้อน” เหมือนชาวฝรั่งเศสหลายปี เพราะมัวแต่ “พักหนาว” ด้วยการกลับมาเยี่ยมบ้าน ประกอบกับมีการเดินทางออกนอกเมืองอยู่เนืองๆ กับเพื่อนไทยและเทศ จึงไม่รู้สึกว่าต้องการพักผ่อนและ “จำต้อง” พักร้อน ชาวฝรั่งเศสที่บ้านมาแปลก จู่ๆ ก็บอกว่าไปแซงต์-มาโล (Saint-Malo) กัน พร้อมกับจองที่พักประเภทที่เรียกว่า chambre d’hotes เจ้าของบ้านเปิดห้องให้เช่า สนน ราคาไม่สูงเหมือนโรงแรม แถมมีอาหารเช้าให้ด้วย

ขึ้นรถไฟที่สถานีมงต์ปาร์นาส (Gare Montparnasse) เป็นรถไฟความเร็วสูงที่เรียกว่า เตเจเว (TGV-train a grande vitesse) ซึ่งต้องจองที่นั่งล่วงหน้า ประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงแซงต์-มาโล นั่งรถ ประจำทางเพื่อไปยังแซงต์-แซร์วอง (Saint-Servan) อันเป็นที่ตั้งของบ้านพักและเดิน ต่ออีกพักใหญ่ อดไม่ได้ที่จะบ่นว่า ทำไมจองห้องพักไกลขนาดนี้ นึกท้อว่าต้องเดินและนั่งรถประจำทางอย่างนี้ไปอีกหลายวัน หากเพียงในวันรุ่งขึ้น ก็ไม่รู้สึกว่าต้องทุกข์ทรมาน เพราะเพียงประเดี๋ยวเดียวก็ถึงตัวเมืองแซงต์-มาโลแล้ว

บ้านหลังใหญ่มีบริเวณกว้างขวาง มาดามเจ้าของบ้านเปิดห้องให้เช่าหลายห้อง ด้วยกันทั้งชั้นบนชั้นล่าง รองรับนักท่องเที่ยว อย่างน้อย 15 คน ห้องพักมีห้องน้ำส่วนตัว มีห้องครัวที่ใช้ร่วมกัน น่าเสียดายที่ไม่มีห้องนั่งเล่นที่มีเครื่องรับโทรทัศน์ เมื่อเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ก็พากันเดินไปขึ้นรถประจำทาง มุ่งสู่แซงต์-มาโล ตัวเมืองเก่า ที่เป็นศูนย์กลางนักท่องเที่ยวอยู่ในกำแพงเมือง จึงเรียกว่า intra muros

แซงต์-มาโลอยู่ในจังหวัดเบรอะตาญ (Bretagne) เป็นเมืองของชาวโกลัวส์ (Gaulois) ชนดั้งเดิมของฝรั่งเศส ก่อนจะถูก พวกโรมันยึด เคยถูกพวกฟรองก์ (Francs) และไวกิ้งรุกรานและครอบครอง ในศตวรรษ ที่ 6 นักบวชจากเกาะอังกฤษเข้ามาตามเกาะแก่ง จนถึงแซงต์-มาโล หนึ่งในนั้นคือ แมค ลอว์ (Mac Law) ซึ่งในภายหลังได้เป็นนักบุญ อันเป็นที่มาของชื่อ แซงต์-มาโล เพื่อเป็นการป้องกันตัวจึงมีการสร้างกำแพง เมืองรายรอบในปี 1150 ยาว 1,900 เมตร มีประตูทั้งหมด 9 ประตู เช่น Saint-Vincent, Bes, Grande Porte, Saint-Louis, Saint-Thomas, Champs-Vauverts, Saint-Pierre, Estrees และ Dinan กำแพงเมืองแซงต์-มาโลเป็นโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนในปี 1886 และ 1921

เหนือประตู la Grande Porte มีรูปปั้นพระแม่มารีที่งามมาก ตามตำนานเล่าว่า รูปปั้นนี้ซึ่งทำด้วยหินแกรนิตลอยมา ตามน้ำ ชาวประมงที่ไปพบ อัญเชิญขึ้นบก และตั้งเหนือประตู la Grande Porte จึงเรียกชื่อว่า La Vierge de la Grande Porte องค์ที่เห็นนี้เป็นรูปจำลอง ส่วนองค์จริงทรุดโทรมมาก จึงมีการบูรณะใหญ่และนำไปตั้งในโบสถ์แซงต์-แวงซองต์ (Cathedrale Saint-Vincent) ใน intra muros นั่นเอง

เมื่อมีการค้นพบทวีปใหม่ แซงต์-มาโลกลายเป็นศูนย์กลางการค้ากับต่างประเทศ จึงมีนักเดินเรือชื่อดังที่เรียกว่า corsaire ซึ่งไม่ใช่ทหาร แต่มีหน้าที่ดูแลน่านน้ำฝรั่งเศส ทั้งนี้ทั้งนั้น corsaire ต้องได้รับใบอนุญาตจากกษัตริย์ฝรั่งเศสในการโจมตีเรือข้าศึกหรือผู้ไม่ประสงค์ดี รวมทั้งปราบปรามผู้ลักลอบค้าผิดกฎหมาย หากไร้ซึ่งใบอนุญาตนี้จะกลายเป็นโจรสลัด ทันที corsaire ที่เป็นชาวเมืองแซงต์-มาโล คนสำคัญคือ ฌาคส์ การ์ทีเอร์ (Jacques Cartier) ผู้ค้นพบแคนาดาส่วนที่เป็นเกเบค (Quebec) และมงต์เรอัล (Montreal) นอกจากนั้นยังมีโรแบรต์ ซูร์กุฟ (Robert Surcouf) เรอเน ดูเกย์-ทรูแอง (Rene Duguay-Trouin) โมแปร์ตุยส์ (Maupertuis)

ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 แซงต์-มาโลได้รับความเสียหายจากการโจมตีทางอากาศของฝ่ายพันธมิตรระหว่างการยกพลขึ้นบกบนหาดนอร์มองดี (Norman-die) ตัวเมืองถูกทำลายถึง 80% น่าแปลกใจ ที่กำแพงเมืองไม่ได้รับความเสียหาย หลังสงครามจึงสร้างเมืองขึ้นใหม่ โดยใช้หินแกรนิต ตัว “เมืองเก่า” ของแซงต์-มาโล ภายในกำแพงเมืองที่เรียกว่า intra muros จึงดูทึมๆ ไม่สดใสเฉกเช่นเมืองชายทะเลทั่วไป ถึงกระนั้นแซงต์-มาโลก็เป็นเมืองพักผ่อนชายทะเลที่คับคั่งด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวฝรั่งเศสและชาวต่างชาติในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ช่วงที่ไปนั้นเป็นปลาย เดือนสิงหาคม อันถือเป็นปลายฤดูพักร้อนของชาวฝรั่งเศส ผู้คนยังคับคั่งในสายตาของผู้มาใหม่ สำหรับร้านค้าแล้วจำนวน นักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัดหลังวันที่ 15 สิงหาคม อันเป็นวันหยุดราชการ ทำให้สงสัยว่าแซงต์-มาโลจะสามารถคับคั่งด้วยผู้คนมากกว่านี้ได้อย่างไร

ย่านที่เป็นศูนย์การค้าใน intra muros จัดเป็นถนนคนเดิน สะดวกต่อการเดินชมเมืองและร้านค้า ร้านอาหารมีทุกตารางเมตร ร้าน creperie มีอยู่ทั่วไป ด้วยว่าแครป (crepe) เป็นอาหารพื้นเมืองของเบรอะตาญ เนื่องจากไม่ชอบ crepe ที่เป็นอาหารคาวเพราะเลี่ยน จึงไม่เข้า creperie นอกจากสั่ง crepe เป็นของหวาน แต่แล้วต้องผิดหวังเพราะเนื้อ crepe ไม่นุ่มอร่อยอย่างที่คิด จึงคิดว่าน่าจะต้องพิถีพิถันเลือกร้าน ไปติดใจที่ร้าน Marie Cuisine เป็นร้านเล็กๆ ที่เปิดถึง 21.00 น. เท่านั้น อาหารมีเพียงไม่กี่อย่าง ที่โดดเด่นมี Cocotte de poissons และ Cocotte de viandes เข้าใจว่าคงเป็นลักษณะอบหม้อดินของไทย ใช้ปลาหลายชนิดและเนื้อสัตว์ หลายชนิด ทว่าจะเสิร์ฟ Cocotte de viandes เฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น น่าเสียดายที่ไม่ได้ลองลิ้ม เพราะมัวแต่เดินไป ด้านอื่น

โบสถ์แซงต์-แวงซองต์มีนักศึกษาพาชมและอธิบายให้ฟรี เป็นความร่วมมือระหว่างเทศบาลและองค์กรเอกชน ภายในโบสถ์นอกจาก La Vierge de la Grande Porte แล้วยังมีที่ฝังศพของฌาคส์ การ์ทีเอร์ มีจุดที่เขาคุกเข่าลงรับพรจากเจ้าอาวาส ก่อนออกเดินทางไปค้นพบแคนาดา เมื่อเดินทางไปถึงแซงต์-มาโลเป็นช่วงเย็นแล้ว จึงมองหาร้านอาหาร เลือกร้านที่มีเซตเมนู ให้เลือก 3 ประเภท มีตั้งแต่หอยแมลงภู่อบ อาหารอิตาเลียนและอาหารประเภทเนื้อ หอยแมลงภู่อบแห้งเกินไป ไม่อร่อยเลยก็ว่า ได้ บอกคนพาไปว่าไม่ควรเลือกร้านอาหารที่ไม่ถนัดประเภทใดเลย ประกอบกับเป็นการทำอาหารสำหรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากจึงขาดความพิถีพิถัน แถมแครปหวาน ก็หนา จึงเป็นมื้อแรกในแซงต์-มาโลที่น่าผิดหวัง ได้เวลาเดินทางกลับที่พัก รถประจำทางใช้เวลาไม่นานอย่างที่คิด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us