|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |

ในขณะที่การค้าการลงทุนรอบรอยตะเข็บชายแดนระหว่างไทย ลาว และกัมพูชา กำลังเติบโตไปด้วยดี ทำให้บริษัทเอไอเอส ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อาศัยจังหวะนี้ ร่วมมือกับลาว เทเลคอม และเอ็มโฟน ลดค่าโทรมือถือ
ทันสมัย กมมสิทธิ์ Director General บริษัท ลาว เทเลคอม จำกัด ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ประเทศลาวเล่าถึงสถานการณ์ธุรกิจค้าขายและท่องเที่ยวของประชาชน ลาวที่ข้ามมาฝั่งหนองคายมีประมาณ 2 พันคนต่อวัน และครึ่งหนึ่งใช้บริการโทรศัพท์ของบริษัท ลาว เทเลคอม
ส่วนประเทศเขมร แม้จะไม่มีตัวเลขเด่นชัดถึงปริมาณการใช้โทรศัพท์ตามรอยตะเข็บชายแดนก็ตาม แต่อดิศัย สุนทรรัตนนารักษ์ CEO บริษัท เอ็มโฟน จำกัด ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือประเทศกัมพูชา เปิดเผยว่ามีนักลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ปริมาณการสื่อสารจึงเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่มีลูกค้าบางส่วนที่เดินทางไปในประเทศไทยจะไม่เปิดใช้โทรศัพท์ เนื่องจากมองว่าค่าบริการแพง โดยเฉพาะค่าบริการรับสาย 1 ครั้งต้องจ่าย 3 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 100 บาท จึงทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ปิดเครื่อง
แต่สมชัย เลิศสุทธิวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ได้มองเห็นโอกาสการค้าชายแดนที่มีแม่น้ำโขงเชื่อมโยงทั้ง 3 ประเทศ มีประชากรเข้า-ออกจำนวนเรือนแสน
ทำให้เอไอเอสตัดสินใจร่วมมือกับผู้ให้บริการอีก 2 ประเทศจัดอัตราค่าโทรศัพท์ใหม่ ภายใต้ซิมใหม่ โดยแต่ละประเทศจะกำหนดชื่อบริการแตกต่างกันไป เช่น เอไอเอสเรียกบริการว่า “ซิมฝั่งโขง” ส่วนลาว เรียกว่า “โขง เซอร์วิส” และกัมพูชา “เอ็มโฟน เซเลเนด”
สำหรับค่าบริการลูกค้าเอไอเอสที่เดินทางไปลาว และโทรกลับมาเมืองไทย จากเดิมเสียค่าบริการ 32 บาท เหลือ 6 บาท หรือรับสายเสียค่าบริการ 18 บาท จากเดิมเสียค่าบริการ 30 บาท หรือกรณีส่งข้อความเก็บค่าบริการ 6 บาทจากเดิม 20 บาท ในขณะที่ลาวเก็บบริการเริ่มต้น 1,500 กีบ หรือ (6 บาท) ส่วน เขมรเก็บค่าบริการเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ
เบื้องหลังความร่วมมือการให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้ง 3 ราย เกิดจากผู้ถือหุ้นหลักคือ กลุ่มชินคอร์ปถือหุ้นใน 3 บริษัท กลุ่มชินถือหุ้นในบริษัท ลาว เทเลคอม 49% ภายใต้บริษัท Shenington Investment Co., LTC.
ส่วนในกัมพูชา บริษัทไทยคม จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือชินคอร์ป ถือหุ้น 51 เปอร์เซ็นต์ ในบริษัท เอ็มโฟน จำกัด
สมชัยมองว่าความร่วมมือในครั้งนี้เอไอเอสมองในเชิงกลยุทธ์ จะช่วยขยายตลาดต่างจังหวัดเพราะปัจจุบันโทรศัพท์มือถือในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าถึง 55 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับกรุงเทพ มหานครได้เติบโตเกินร้อยเปอร์เซ็นต์
ในขณะที่บริษัท ลาว เทเลคอมมองว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะนักธุรกิจ พ่อค้า และนักศึกษา เพราะปัจจุบัน มีลูกค้าใช้บริการอยู่ 3 ล้านราย และใช้จริงเพียง 1.4 ราย แต่บริษัทก็เป็นผู้ให้บริการอันดับ 1 ของประเทศ
ส่วนบริษัท เอ็มโฟน กัมพูชาเป็นอันดับ 3 มีลูกค้าประมาณ 8 แสนราย และอดิศัยมองว่ากิจกรรมนี้สอดคล้องกับแผนการตลาดของบริษัทที่ต้องการเน้นจับกลุ่มลูกค้าเฉพาะมากขึ้น และเป็นกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อ ซึ่งบริการนี้สามารถชูความแตกต่าง เพราะเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่เก็บค่าบริการระหว่างประเทศลดลง
ความร่วมมือของทั้ง 3 ฝ่ายอาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต หากเทคโนโลยีระบบ 3 จี เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะตอนนี้ทั้งลาว และกัมพูชาได้เปิดให้บริการ 3 จีไปก่อนล่วงหน้าแล้ว
|
|
 |
|
|