Dassault System จากประเทศฝรั่งเศส รุกตลาดไทยอีกครั้งหลังจากมั่นใจเศรษฐกิจฟื้นตัว นำเทคโนโลยีโซลูชั่น 3 มิติ พีแอลเอ็ม เจาะกลุ่มธุรกิจรถยนต์และอุตสาหกรรมเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด 50 เปอร์เซ็นต์

บริษัท Dassault System ผู้ผลิตซอฟต์แวร์โซลูชั่น 3 มิติ หรือ Product Lifecycle Management: PLM จากประเทศฝรั่งเศส เข้ามาเปิดตัวสินค้าในตลาดไทยเมื่อเร็วๆ นี้ หลังจากบริษัทประเมินสถานการณ์ในประเทศไทย โดยเฉพาะการส่งออกยัง คงแข็งแกร่ง ในปี 2552 จีดีพีเติบโต 538.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สิ่งที่ตอกย้ำว่าตลาดไทยมีการเติบโตอย่างมั่นคง พิจารณา จากไอทีมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยในปี 2552 ลงทุน 11,962.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปีนี้คาดว่าจะเห็นการลงทุนทางด้านไอทีเติบโตร้อยละ 6.8

อาเจย์ เวอมาร์ รองประธานเอเชียแปซิฟิกใต้จาก Dassault System บอกว่าเขาเห็นโอกาสการลงทุนในประเทศไทยค่อนข้างมาก เพราะกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ในครั้งนี้ และรัฐบาลไทยมีแผนสนับสนุนธุรกิจดังกล่าวให้เป็นฮับ หรือศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคเอเชีย

ดังนั้น ซอฟต์แวร์ 3 มิติ PLM น่าจะตอบรับความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีคุณสมบัติในการออกแบบสินค้าต้นแบบ และช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการ

นอกจากลูกค้าที่เป็นกลุ่มธุรกิจรถยนต์ บริษัทยังเน้นกลุ่มอื่นๆ ด้วย เช่น ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจพลังงาน และสินค้าอุปโภคบริโภค

แม้ว่าบริษัทจะทำตลาดในประเทศไทยมา 15 ปีและทำตลาดร่วมกับไอบีเอ็ม แต่หลังจากบริษัทเห็นโอกาสในประเทศไทย จึงเข้ามาทำตลาดโดยตรงมากขึ้นเมื่อปี 2551 หรือเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มีตัวแทนจำหน่าย 3 ราย คือ บริษัททีทีเน็ตเวิร์ก อินทริเกชั่น (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทเอ็นเอสเอส จำกัด และบริษัท MENTEL

ทั้ง 3 บริษัทจะเน้นลูกค้าแตกต่างกันไป บริษัททีทีเน็ทเวิร์ค และบริษัทเอ็นเอสเอส เจาะกลุ่มลูกค้ารถยนต์ และกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม ส่วน MENTEL เน้นลูกค้าซัปพลายเชน และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

สำหรับซอฟต์แวร์ 3 มิติของบริษัทไม่มีคู่แข่งโดยตรงในตลาด ทำให้บริษัทต้องให้ความรู้กับลูกค้าและเข้ามาช่วยอบรมทั้ง ลูกค้าและตัวแทนจำหน่ายเพื่อเข้าใจในผลิตภัณฑ์และการใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์อย่างคุ้มค่า

Dassault เป็นบริษัทที่มีผลิตภัณฑ์โซลูชั่นหลากหลายอย่าง เช่น enovia เป็นระบบการจัดการกระบวนการผลิตที่ช่วยกระบวนการทำงานไม่เกิดข้อผิดพลาด เพราะสามารถวิเคราะห์กระบวนการทำงานล่วงหน้า ช่วยทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งบริการนี้จะช่วยเหลือระบบการทำงานของลูกค้าได้ชัดเจนมากขึ้น

ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าประมาณ 500 คน ส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารถยนต์ร้อยละ 41 ส่วนร้อยละ 25 เป็นกลุ่มลูกค้าผลิตอุปกรณ์ อุตสาหกรรม

ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจรถยนต์ เช่น โตโยต้า มิตซูบิชิ และฮอนด้า ส่วนลูกค้าอื่นๆ เช่น พานาโซนิค ไพโอเนียร์ แคนนอนและจอห์นสัน

อาเจย์บอกว่าตลาดไทยเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในเอเชีย มีส่วนแบ่งการตลาดถึงร้อยละ 50 ส่วนประเทศมาเลเซียร้อยละ 19 และร้อยละ 14 เป็นของประเทศอินโดนีเซีย