Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์2 ตุลาคม 2553
ไรมอนแลนด์ฟื้น“185 ราชดำริ” ขายคอนโดยูนิตละ300ล้านบาท             
 


   
search resources

ไรมอน แลนด์, บมจ.
Condominium




ความวุ่นวายทางการเมืองประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกและในประเทศชะลอตัว ทำให้กำลังซื้อของชาวต่างชาติหายไปจำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อบริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด(มหาชน) โดยตรง เพราะการลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ของไรมอน แลนด์ทุกแห่ง ล้วนเน้นกลุ่มเป้าหมายลูกค้าเศรษฐีชาวต่างชาติเท่านั้น และเมื่อภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้ยอดขายของไรมอนแลนด์ลดลงมาก ที่สำคัญบางโครงการต้องหยุดการลงทุนและชะลอการทำตลาดไปโดยปริยาย

โครงการ 185 ราชดำริเป็นอีกโครงการหนึ่งที่ไรมอนแลนด์ต้องหยุดการลงทุนและชะลอการทำตลาดมาในช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา เพราะนอกจากองค์กรจะประสบปัญหาการบริหารจัดการแล้ว ยังประสบปัญหาด้านสภาพคล่องด้วย ที่สำคัญลูกค้าหลัก คือชาวต่างชาติชะลอการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทย ซึ่งที่ผ่านมาไรมอนแลนด์ จึงพยายามปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนตัวผู้นำจากไนเจิล เจ. คอร์นิค กรรมการผู้อำนวยการ ที่ได้ลาออกไปเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2552 เป็นอูแบร์ วิริออท รวมถึงได้ตัดขายที่ดินทำเลทองออกไป เพื่อนำเงินสดมาเสริมสภาพคล่อง

อูแบร์ วิริออท กรรมการผู้อำนวยการ เปิดเผยว่า ภายหลังไอเอฟเอ โฮเทลแอนด์ รีสอร์ท ทรี (IFA Hotel & Resort 3 Ltd) ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจาก 21% เป็น 41.08%ทำให้ฐานะทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่งพร้อมลงทุนต่อเนื่อง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประสบปัญหาจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกและวิกฤตในดูไบ ดังนั้น บริษัทจึงต้องตัดขายที่ดินบางแปลงออกไป เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง เช่น ที่ดินทำเลทองย่านเพลินจิต รวมไปถึงที่ดินที่ภูเก็ต ทำให้มีเงินเข้าบริษัทประมาณ 1,000 ล้านบาท

ปัจจุบันบริษัทมีความพร้อมที่จะกลับมาลงทุนในโครงการคอนโดมิเนียม 185 ราชดำริ ตั้งอยู่บริเวณราชดำริเดิมเป็นที่ตั้งสถานทูตกัมพูชา หลังจากที่ชะลอการทำตลาดมานาน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวนักลงทุนต่างชาติหยุดการลงทุน ซึ่งโครงการดังกล่าวจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม สูง 35 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดิน1 อาคาร จำนวน 268 ยูนิต ขนาด 1, 2, 3 และ 4 ห้องนอน ราคาเริ่มต้นที่ตร.ม.ละ 179,000-400,000 บาท. หรือเฉลี่ยที่ตร.ม.ละ 250,000 บาท หรือเริ่มต้นยูนิตละ 12 ล้านบาท ซึ่งเพนท์เฮาส์ มีจำนวน 3-4 ยูนิต ราคาสูงสุดกว่า 300 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 9,600 ล้านบาท

โครงการนี้ บริษัทเน้นกลุ่มเป้าหมายลูกค้าชาวไทย เพราะจากการสำรวจพบว่า ลูกค้าชาวไทยมีความต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลกลางเมือง โดย185 ราชดำริ เป็นโครงการที่กลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจ มาก และมียอดขาย 20% คิดเป็นมูลค่า 1,800 ล้านบาท โดยเฉพาะเพนท์เฮาส์ราคากว่า 300 ล้านบาท มีนักธุรกิจชาวไทยซึ่งเป็นลูกค้าเก่าสนใจและมีแนวโน้มที่จะซื้อด้วย

“185 ราชดำริ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี อีกทั้งยังมีจุดเด่นที่เป็นที่ดินผืนสุดท้ายในย่านนั้นที่เป็นฟรีโฮลด์ ผู้ซื้อครอบครองกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ต่างจากหลายโครงการในย่านนั้นที่จะขายเป็นสิทธิการเช่า ทำให้เมื่อเทียบกับโครงการในระดับเดียวกันแล้ว โครงการ 185 ราชดำริขายในราคาที่ถูกกว่ามาก ซึ่งเน้นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายชาวไทย 70% ส่วนอีก 30% จะไปโรดโชว์ในต่างประเทศทั้งยุโรปและอเมริกา โครงการนี้ได้รับเงินกู้จากธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำนวน 2,780 ล้านบาท จะเริ่มก่อสร้างในปี2554 กำหนดแล้วเสร็จในปี 2556”

อูแบร์ กล่าวว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้เปิดตัวโครงการใหม่ ซึ่งยอมรับว่ามีปัญหาภายในองค์กร อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจก็ไม่เอื้ออำนวยต่อการเปิดโครงการระดับไฮเอนด์ด้วย แต่คาดว่าปลายปีนี้จะเปิดตัวได้ 1 โครงการ มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท โดยมีที่ดินสะสมรอการพัฒนาในย่านพัทยามี 2-3 แปลง ตั้งอยู่บริเวณหาดวงศ์อมาตย์ พัทยา ขนาด 5ไร่และ 6 ไร่ ซึ่งหากนำมาพัฒนาจะมีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินต่อทุนประมาณ 2:1

ส่วนโครงการเดอะริเวอร์ ที่ดำเนินการภายใต้ บริษัท ตากสิน โฮเทล โฮลดิ้ง จำกัดนั้น มียอดขายแล้ว 70% หรือประมาณ 9,700 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการทั้งหมด 13,000 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างอาคารด้านหน้าความสูง 71 ชั้น ปัจจุบันสร้างอยู่ที่ชั้น 58 ส่วนอาคารด้านหลัง 40 ชั้นสร้างถึงชั้นที่ 39 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2554 และบริษัทมีแผนจะซื้อหุ้นในสัดส่วน 15% จากผู้ถือหุ้นคือ ไอเอฟเอ โฮเทลส์แอนด์รีสอร์ท (IFA HR) เพื่อเป็นผู้ถือหุ้นเอง 100% จากปัจจุบันถืออยู่ 85% และเมื่อโครงการสร้างเสร็จจะช่วยสร้างรายได้และผลตอบแทนเข้าไรมอนแลนด์ทั้งหมด สำหรับความคืบหน้าโครงการนอร์ทพอยท์ พัทยา มียอดขายแล้ว 60-70% และอยู่ในช่วงทยอยโอนกรรมสิทธิ์

สำหรับตัวเลขยอดขายรอรับรู้ (Backlog) มีจำนวน 7,000-8,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้ปีนี้ไปจนถึงปี 2555 โดยในปี 2553 จะมีการโอนโครงการนอร์ทพอยท์ประมาณ 3,000 ล้านบาท จากยอดขายทั้งหมด 3,300 ล้านบาท ซึ่งตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ที่ 4,000 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 2,300 ล้านบาท โตกว่าปีก่อนถึง 100% ส่วนยอดรับรู้รายได้ปีนี้จะอยู่ที่ 3,500 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us