|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
วงการหนังไทย-โฆษณา เรียกร้องภาครัฐ เร่งสนับสนุน ผลักดันไทยก้าวขึ้นเป็นฮับด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโฆษณาใน 3 ปี ชมแนวคิดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ไปได้ดี หลังดำเนินการมากว่า 1ปี กันตนามอง หาก กสทช.เกิด มีหน่วยงานดูแลธุรกิจสื่อเต็มที่ คาดปีหน้าทิศทางธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นท์โตพรวด 100%
วานนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดโครงการส่งเสริมและต่อยอดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ขึ้น ในงาน "Creative Magic for Creative Economy" ขึ้น โดยมีการเสวนาของธุรกิจจากวงการภาพยนตร์, เพลง, การแพร่ภาพและกระจายเสียงและโฆษณาพูดถึงแนวทางการต่อยอดในการดำเนินธุรกิจ
นางปัจฉิมา ธนสันติ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์เป็น 1 ใน 15 อุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่ทางภาครัฐให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งอุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์และเพลงรวมกันคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านบาท ขณะที่ในส่วนของอุตสาหกรรมโฆษณาไทยก็เป็นอีกส่วนที่ภาครัฐได้จับมือกับทางภาคเอกชนในการผลักดันให้ก้าวสู่การแข่งขันในเวทีระดับโลก ซึ่งคาดว่าสิ้นปีนี้ตลาดรวมโฆษณาจะมีมูลค่าประมาณ 96,000 ล้านบาท
ช่างเวลาปีกว่าที่ผ่านมา ทางภาครัฐได้เดินหน้าต่อเนื่องตามนโยบายที่วางไว้โดยคาดว่าภายใน 5 ปีจากนี้ ไทยจะสามารถสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ให้กับประเทศมากเป็นอันดับ 4 รองจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์
นายจาฤก กัลย์จาฤก ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันตนากรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานเสวนาว่า กันตนาเป็นบริษัทที่มีการต่อยอดการคิดสร้างสรรค์มาตลอด 60 ปี โดยมีวัตถุดิบมาจาก คำว่า กันตนา และ บทประพันธ์ราว 100-200 เรื่องในมือ จนปัจจุบันบริษัทได้ต่อยอดธุรกิจไปสู่ด้านอื่นๆแบบครบวงจร และสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านสถานีโทรทัศน์ที่เข้าไปทำในประเทศเวียดนามและกัมพูชา หรือทีวีดาวเทียมที่เปิดบริการไปแล้ว 3 ช่อง รวมถึงการขยายสาขาด้านการผลิตภาพยนตร์ไปในเวียดนาม และกำลังจะไปอินโดนีเซียในระยะอันใกล้นี้ รวมถึงแนวคิดการทำโลคอลโรงภาพยนตร์ ที่จะได้เห็นในอนาคต และสตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
ด้านนายวิทวัส ชัยปราณี นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย และประธานเครือข่ายครีเอทีฟจูซ เวิลด์กรุ๊ป กล่าวเสริมว่า เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมโฆษณา หากรัฐให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง มั่นใจเราเป็นฮับในอาเซียนได้อย่างแน่นอน เพราะปัจจุบันไทยติดอันดับ 5 ของโลก ด้านการคิดงานสร้างสรรค์โฆษณา ส่วนนักครีเอทีฟเราติดท็อปเท็นในเอเชีย
ทั้งนี้เบื้องต้นอยากให้ภาครัฐร่วมสนับสนุนการจัดงาน แอด เฟส ที่จัดติดต่อกันมา15 ปี ทั้งนี้เพื่องานดังกล่าวมีความแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ทางด้านงานอีเวนต์โฆษณาในภูมิภาคนี้ต่อไป เพราะขณะนี้คู่แข่งที่กลัวและมีการจัดงานแข่งขันกับเราแล้วคือ สิงคโปร์ กับงาน โฆษณา ในชื่อ สไปร์ท
***เตรียมผุดโปรเจกโลคอลโรงภาพยนตร์
นายจาฤก กล่าวด้วยว่า แนวคิดโลคอลโรงภาพยนตร์นั้น ถือเป็นแนวคิดหนึ่งที่ต้องการลดการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ ภายใต้แนวคิด 1 เฟรม 1 คัลเจอร์ โดยจะเป็นโรงหนังขนาด 50 ที่นั่ง บัตรราคาไม่เกิน 10-20 บาท ฉายภาพยนตร์ใหม่ชนโรงเช่นเดียวกับโรงหนังระดับพรีเมี่ยม จับกลุ่มคนดูระดับรากหญ้าและในต่างจังหวัดเป็นหลัก คาดว่าลงทุนระดับพันล้านบาท เพราะต้องการให้มีทั่วประเทศราว 2,000 โรง งบลงทุนโรงละประมาณ 1 ล้านบาท ถ่ายทอดการฉายผ่านระบบแซทเทิลไลท์ทีวี ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการวางแผนและศึกษาโมเดลอยู่ โดยในอนาคตมีแผนทำไปทั่วภูมิภาคนี้ด้วย ซึ่งได้คุยกับทางประเทศเวียดนาม กัมพูชาและลาวไว้แล้ว อาจจะเป็นลักษณะของการร่วมทุนกัน
|
|
|
|
|