Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน29 กันยายน 2553
บาทแข็งเผ่นเที่ยวนอกครึ่งปีโต30% ญี่ปุ่น-สิงคโปร์-เวียดนาม คึกคัก             
 


   
search resources

Tourism




คณะกรรมการฯจัดทำสถิตินักท่องเที่ยวและรายได้ ตีกลับผลตัวเลขนักท่องเที่ยวภายในประเทศ สั่งปรับวิธีคิดเป็นเชิงลึก มานำเสนอใหม่ใน 1 สัปดาห์ ชี้ การเมืองวุ่น บาทแข็ง คนไทยเผ่นเที่ยวต่างประเทศโดยแตะ 30% ค่าใช้จ่ายต่อหัวเพิ่มขึ้นเกือบ 30% เผยไทยเสียโอกาส ต่างชาติหันเที่ยว ญี่ปุ่น สิงคโปร์และเวียดนาม ช่วงการเมืองวุ่น

นางธนิฏฐา เศวตศิลา มณีโชติ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการสนับสนุน กำกับและติดตามการจัดทำสถิตินักท่องเที่ยวและรายได้ด้านการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันให้มีการปรับแก้สถิติตัวเลขนักท่องเที่ยวตลาดในประเทศ(โดเมสติก) ซึ่งจะต้องมีการปรับแก้ในเรื่องของวิธีการจัดเก็บให้เป็นเชิงลึกมากขึ้น แยกเป็น 3 กลุ่มหลักให้ชัดเจน ได้แก่ นักท่องเที่ยวที่เป็นคนไทย, ชาวต่างชาติที่พำนักหรือทำงานในประเทศ(Expatriates หรือ Expat) และ กลุ่มคนต่างด้าวในประเทศไทย เบื้องต้นต้องการให้ทำรายงานตัวเลขที่จัดเก็บได้ ส่งเป็นหนังสือเวียนให้แก่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ช่วยพิจารณาลงรายละเอียดเพิ่มเติม แล้วนำกลับมาเสนอภายใน 1 สัปดาห์

ทั้งนี้รายงานการจัดเก็บสถิติของช่วงไตรมาส 2 ปี 2553(เม.ย.-มิย.) เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ ภาพรวมครึ่งปีแรก 2553(ม.ค.-มิ.ย.) แบ่งเป็นตลาดนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ(อินบาวนด์) และนักท่องเที่ยวภายในประเทศ(โดเมสติก) เบื้องต้นพบว่าไตรมาส 2 ปี 2553 (เมย.-มิ.ย.) จำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ 2,899,778 คน ลดลงจากปีก่อน 2.17 % มีวันพักเฉลี่ย 8.58 วัน เพิ่มขึ้น 0.08 วัน

และมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 3,752.73 บาท ต่อคนต่อวัน และมีรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวน 93,368.22 ล้านบาท ลดลง 1.25% ส่วนภาพรวมครึ่งปีแรก นักท่องเที่ยวระหว่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทย 7,559,528 คน เพิ่มขึ้น 14.38% มีวันพักเฉลี่ย 9.55 วัน เพิ่มขึ้น 0.32 วัน และมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 3,817.35 บาท ต่อคนต่อวัน และมีรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวน 279,487.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.90% จึงมั่นใจว่าปี 2553ไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่น้อยกว่า 14.5-15 ล้านคน ตามเป้าหมาย

การเมือง-บาทแข็ง ไทยเผ่นเที่ยวนอกพุ่ง30%

ส่วนนักท่องเที่ยวคนไทยพบว่า ครึ่งปีแรก เที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 30% เดินทางไปยุโรปเพิ่มขึ้น 27% รวมคนไทยเดินทางออกต่างประเทศครึ่งปีแรกกว่า 2.7 ล้านคน สาเหตุเพราะหนีพื้นที่ความวุ่นวายจากการเมือง และค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นลดค่าใช้จ่ายในการชอปปิ้งของคนไทยเฉลี่ยต่อคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 29.6%

จากตัวเลขที่กล่าวมา สะท้อนให้เห็นว่า ความวุ่นวายทางการเมือง ทำให้ไทยสูญเสียโอกาสทางการตลาด แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ครึ่งปีแรกจะเติบโต 14.3% แต่เมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งขัน พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศ ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 36% สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 23% และเวียดนาม เพิ่มขึ้น 35% ซึ่งหากประเทศไทยไม่มีปัญหาการเมือง ความน่าจะเป็นไทยควรเติบโตที่ 20-30%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us