|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ปตท.แย้มต้นปีหน้าเห็นปั๊มแก๊สปตท.หน้าโรงแยกก๊าซฯ 2-3 แห่งก่อนทยอยเปิดครบ 30แห่ง รวมทั้งดูลู่ทางผุดขึ้นในปั๊มน้ำมันปตท.อ้างเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้รถ เปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงเกรดพรีเมียมภายใต้ PTT Blue Innovation ราคาเท่าเดิมสนองความต้องการของลูกค้า คาดยอดขายพุ่ง 2% ดันมาร์เก็ตแชร์ทะลุ 38%
นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลายและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ปตท.มีแผนจะทำสถานีบริการก๊าซหุงต้ม(LPG)สำหรับยานยนต์ภายใต้แบรนด์ปตท.นั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการวางมาตรฐานปั๊มแก๊สให้ดีกว่ามาตรฐานที่รัฐกำหนดไว้ คาดว่าในต้นปีหน้าได้เห็นแน่ 2-3 แห่ง ทั้งนี้ ปตท.จะมีการเปิดปั๊มแก๊สในบริเวณหน้าโรงบรรจุก๊าซฯของปตท.ประมาณ 30 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งพิจารณาจะขยายไปเปิดภายในปั๊มน้ำมันปตท.ที่มีพื้นที่ที่เหมาะสมได้ตามมาตรฐานที่วางไว้ โดยไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าต้องการมีปั๊มแก๊สกี่แห่ง
โดยยอมรับว่าที่ผ่านมา ปตท.ไม่ส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซLPGสำหรับภาคการขนส่ง แต่เนื่องจากรัฐไม่มีนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องนี้ ทำให้มีการเปิดปั๊มแก๊สเพิ่มขึ้นโดยบางแห่งไม่ได้มาตรฐานซึ่งอาจเป็นอันตราย การทำปั๊มแก๊สของปตท.ครั้งนี้เป็นการวางมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค โดยยอมรับว่า ปตท.รุกตลาดแก๊สสำหรับรถยนต์ในช่วงที่ตลาดไม่โตเพราะรถแท็กซี่หันไปใช้NGVกันมากขึ้น
ทั้งนี้ ปตท.ได้จำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงสูตรใหม่ คุณภาพเกรดพรีเมียมในราคาเท่าเดิมภายใต้ PTT Blue Innovation ครบทั้ง 8 ผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ ดีเซลและไบโอดีเซล โดยน้ำมันดังกล่าวมีจุดเด่นในการเผาไหม้สมบูรณ์ ทำให้เครื่องยนต์สะอาด และทำงานอย่างเต็มสมรรถ ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงถึง 2.4% เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
การออกผลิตภัณฑ์น้ำมันใหม่ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมกับทั้งเบนซินและดีเซล มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค โดยไม่ได้มุ่งหวังส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันแต่เชื่อว่าด้วยคุณภาพน้ำมันเกรดพรีเมียม และราคาจำหน่ายเท่าเดิมจะทำให้ยอดขายน้ำมันของปตท.เพิ่มสูงขึ้น
นายจักรกฤษณ์ จารุจินดา ผู้จัดการส่วนค้าปลีก บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า หลังจากเปิดตัวน้ำมันเชื้อเพลิงเกรดพรีเมียมทุกผลิตภัณฑ์ของปตท.คาดว่ายอดขายน้ำมันจะเพิ่มขึ้น2% เป็นวันละ 27 ล้านลิตร/วัน จากปัจจุบันที่มียอดขายอยู่ 25 ล้านลิตร/วัน ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันของปตท.เพิ่มขึ้นจาก 36.7% เป็น 38.7% โดยปตท.ทุ่ม 100 ล้านบาทในการวิจัยและส่งเสริมการตลาดในทุกช่องทางจนถึงสิ้นปีนี้
ที่ผ่านมา ปตท.ให้ความสำคัญในธุรกิจเสริมจะเห็นได้จากการเร่งขยายสาขาคาร์แคร์ร้านกาแฟ รวมถึงการปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าจนครองใจผู้ใช้รถ ดังนั้นวันนี้จึงออกผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐานขั้นสูงสุดที่ได้รับการยอมรับจากบริษัทรถยนต์ทั้ง 6 ค่าย ไม่ว่าจะเป็นฮอนด้า โตโยตา จีเอ็มBMW Volkswagen และออดี้ ร่วมกำหนดขึ้น
นายจักรกฤษณ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้การสร้างปั๊มน้ำมันในเขตกรุงเทพฯทำได้ยาก เนื่องจากต้นทุนค่าเช่าพื้นที่สูง ดังนั้นในอีก 10ปีข้างหน้า จำนวนปั๊มน้ำมันในเขตกรุงเทพฯมีไม่มาก และมีขนาดเล็กลงเหมือนกับปั๊มน้ำมันในเมืองใหญ่ๆของต่างประเทศ เนื่องจากเจ้าของที่ดินไม่ต่ออายุการเช่าทำปั๊มน้ำมันแต่นำที่ดินไปพัฒนาเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าและค่าใช้จ่ายในการทำปั๊มน้ำมันสูงมากจนไม่คุ้มการลงทุนจะเห็นว่าได้ในปีนี้ปั๊มคู่แข่งหลายรายในเขตกรุงเทพฯปิดตัวลง ขณะที่ปตท.เองก็มีการปิดปั๊มในปีนี้ไปแล้ว 2-3 แห่ง ซึ่งปตท.มีปั๊มน้ำมันในกรุงเทพฯและปริมณฑล 250 แห่งจากจำนวนทั้งหมด 1,300 แห่งทั่วประเทศ
ทั้งนี้ในปี 2554 ปตท.จะลงทุนปั๊มน้ำมันใหม่เพิ่มเติม 20-30 แห่ง แต่ก็มีการปิดปั๊มไปบ้างทำให้จำนวนปั๊มน้ำมันไม่เพิ่มขึ้น ซึ่งปตท.จะไม่มุ่งเน้นการสร้างปั๊มใหม่ แต่จะหันมาต่อยอดธุรกิจในการใช้พื้นที่ภายในปั๊มมากกว่า ซึ่งปั๊มใดมีพื้นที่มากก็จะมองโอกาสเพิ่มผลิตภัณฑ์เข้าไปเสริม อาทิ ตู้จ่ายแอลพีจี ร้านกาแฟ คาร์แคร์ ฯลฯ
ซึ่งมีผลตอบแทนดีกว่ามาร์จินน้ำมันสำเร็จรูป
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงอุตสาหกรรมยื้อการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแยกก๊าซฯหน่วยที่ 6 ว่า ไม่เป็นไรหากจะล่าช้าออกไปเล็กน้อย เพราะที่ผ่านมา โรงแยกก๊าซฯหน่วยที่ 6 เปิดช้ามาเป็นปีแล้ว ซึ่งเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนออกใบอนุญาต แต่เชื่อว่าไม่มีปัญหาเนื่องจากศาลฯมีคำวินิจฉัยออกมาแล้วว่าไม่อยู่ใน 11 ประเภทกิจการที่ส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อมรุนแรง มั่นใจว่าโรงแยกก๊าซฯจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปลายปีนี้
|
|
|
|
|