ศึกค้าปลีกมาคุ แนวโน้มการแข่งขันสูง “โลว์” สบช่อง เลือกไทยผุดบริการใหม่ “โอเพ่น” ช่วยลูกค้าสร้างบิ๊กไอเดีย เจาะลึกถึงพฤติกรรมผู้บริโภค หลังทดลองเปิดตัว ลูกค้าตบเท้าใช้บริการเพียบ มั่นใจ 3 ปี จะทำรายได้เป็นสัดส่วน 15-20% เทียบกับรายได้รวมบริษัท

นายโทนี่ เพรห์น ประธานบริหาร บริษัท โลว์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ช่วงปีที่ผ่านมา ทางบริษัท โลว์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ ทั่วโลก ได้มีการเปลี่ยนแปลงการให้บริการใหม่ คือ โอเพ่น ซึ่งเป็นการรีแบรนด์มาจากหน่วยธุรกิจโลว์ แอคทิเวชัน แล้วเพิ่มด้วยบริการด้านสื่อสารการตลาดในธุรกิจค้าปลีก หรือ รีเทล คอมมูนิเคชันส์ เข้ามา ซึ่งประเทศไทยถูกเลือกให้มีหน่วยงานดังกล่าวเช่นเดียวกับอีกในหลายๆ ประเทศทั่วโลก

ทั้งนี้ เนื่องมาจากสถานการณ์การแข่งขันธุรกิจค้าปลีกของไทยในปัจจุบันค่อนข้างรุนแรง บวกกับพฤติกรรมชื่นชอบการชอปปิ้งของคนไทย ทำให้ธุรกิจค้าปลีกกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจขนาดใหญ่ ใครๆ ก็ต้องการเข้ามา ซึ่งแนวโน้มธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยนั้น กำลังอยู่ในภาวะของการขยายตัว รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจึงเชื่อว่า การเปิดโลว์ โอเพ่น ในเวลานี้เหมาะสมที่จะขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเสริมกับธุรกิจหลัก

อีกทั้งหน่วยธุรกิจโอเพ่น ของโลว์ ทั่วโลก ได้พัฒนาองค์ความรู้ใหม่ที่เรียกว่า “Behavior Economist” หรือ เศรษฐศาสตร์พฤติกรรมผู้บริโภค เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะเข้าใจ พฤติกรรมผู้บริโภคในยามซื้อสินค้า โดยจะเน้นโฟกัสที่บิ๊กไอเดียของธุรกิจบนช่องทางค้าปลีก ด้วยการให้คำปรึกษาด้านพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคและสร้างสรรค์ไอเดียที่มีอิทธิพลต่อการโน้มน้าวผู้บริโภคให้เลือกซื้อสินค้า

หลังจากที่ได้ทดลองเปิดตัวไปนั้น พบว่า มีลูกค้าหลายรายให้ความสนใจแล้ว โดยเฉพาะลูกค้ารายใหญ่อย่างยูนิลีเวอร์ที่มีหลากหลาย แบรนด์ อาทิ แอกซ์, เรโซนา, ซันไลต์, ซันซิล, ไอศกรีมคอนเนตโต้ เป็นต้น, ธนาคารไทยพาณิชย์, เอสซีจีและสีนิปปอนเพนท์ ซึ่งคาดว่า จะมีลูกค้ารายใหญ่อย่างน้อย 5 รายในปีหน้า และจะมีอัตราเติบโตขึ้นอีก 50% ใน 1 ปีข้างหน้าด้วย

นายโทนี กล่าวต่อด้วยว่า การเปิดให้บริการ โลว์ โอเพ่น เนื่องจากยังมองว่า ธุรกิจค้าปลีกเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้โฆษณาเติบโตมากขึ้น โดยปัจจุบันอัตราการใช้งบประมาณโฆษณาผ่านช่องทางค้าปลีก เติบโตแบบก้าวกระโดด โดย 6 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัว 25% คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 400 ล้านบาท ขณะที่เป้าหมายของโอเพ่น จะเปิดกว้างรับลูกค้านอกกลุ่มโลว์ด้วยโดยปัจจุบันหน่วยงานเดิมแอคทิเวชั่น ทำรายได้คิดเป็นสัดส่วน 10% สำหรับบริการใหม่นี้ใหม่นี้คาดว่าภายใน 3 ปี จะทำรายได้เป็นสัดส่วน 15-20% เทียบกับรายได้รวมบริษัท