Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์25 กันยายน 2553
แลนด์ฯปรับกลยุทธ์สู้ศึก ส่งคอนโดระดับกลางดันยอด             
 


   
search resources

แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, บมจ.
Condominium




อดีตพี่ใหญ่ แลนด์ แอนด์ เฮาส์ ปรับแผนการตลาด ลุยตลาดระดับกลาง-ล่าง ปั้น3 แบรนด์ใหม่ “INIZIO- THE KEY - โอกาส”คลุมทุกเซ็กเมนต์ พร้อมลงทุนเพิ่มอีก 19 โครงการ

เสียแชมป์เบอร์1 ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้กับพฤกษา เรียลเอสเตท ที่เดินหน้าปั้นยอดขายแซงหน้าไปแบบไม่เห็นฝุ่น ทำให้อดีตพี่ใหญ่แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ อย่างแลนด์ แอนด์ เฮาส์ ถึงกลับต้องเร่งปรับกลยุทธ์ สร้างยอดขายและศักยภาพของบริษัทให้แข่งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพระหากยังอืดอาดอยู่เช่นนี้ ไม่ช้าอาจถูกค่ายอื่นๆไม่ว่าจะเป็นศุภาลัย, แสนสิริ, แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ ฯลฯที่ต่างโหมลงทุนและเร่งบุกตลาดหนักจนสามารถปั้นยอดขายไล่จี้ติดมากขึ้นเรื่อย ๆแซงหน้าไปอีกได้

งานแรกที่แลนด์ฯดำเนินการ คือ การปรับกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ทั้งแนวราบและแนวสูง รวมถึงปรับภาพลักษณ์สินค้าใหม่ ทั้งดีไซน์บ้านใหม่ให้ตรงใจกลุ่มลูกค้ามากที่สุดโดยการปรับดีไซน์บ้านแบบใหม่ เป็น I* MODERN ที่ดูสวยงามและทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงเน้นคุณภาพและประโยชน์การใช้สอยซึ่งเป็นจุดแข็งที่ลูกค้าให้การยอมรับอยู่

โดยล่าสุดแลนด์ฯเปิดตัวแบรนด์ใหม่อย่างเป็นทางการรวดเดียว 3 แบรนด์ ซึ่งมีทั้งแนวสูง-แนวราบ เพื่อครอบคลุมทุกตลาด นพร สุนทรจิตต์เจริญ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH กล่าวว่า จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ซื้อที่อยู่อาศัยที่มีอายุน้อยลงที่ 28-30 ปี จากเดิมที่ 32-38 ปี รวมถึงฐานลูกค้าส่วนใหญ่ของตลาดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อยู่ในระดับกลาง- ล่าง คือระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ดังนั้น เพื่อขยายตลาดให้กว้างขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า แลนด์ฯได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่สำหรับรองรับลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ที่มีกำลังซื้อไม่เกิน2.5ล้านบาท

การลงมาเล่นตลาดกลาง-ล่างของแลนด์ฯ นพร บอกว่า ตลาดมีช่องว่างให้เข้าไปพัฒนาอีกทั้งจากการสำรวจความต้องการของฐานลูกค้าของแลนด์ฯต้องการที่อยู่อาศัยระดับราคาที่ไม่แพง ส่วนการลงมาล่นตลาดราคา1.5ล้านบาท เพื่อหวังทวงคืนเบอร์1 นั้นคงไม่ใช่ เพราะแลนด์ฯไม่ได้แข่งกับใคร อีกทั้งกลุ่มลูกค้าคนละกลุ่ม

โดยแบรนด์แรกที่จะเปิดไตรมาส4 คือ 1. INIZIO บ้านเดี่ยว สำหรับครอบครัวเริ่มต้น เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการมีบ้านเป็นของตนเองในระดับราคา 2.5 ล้านบาทขึ้นไป โดยโครงการตั้งอยู่รังสิต คลอง 3 บนพื้นที่ 93 ไร่ จำนวน 482 แปลง ขนาดพื้นที่ใช้สอย 50 ตร.วาขึ้นไป มูลค่าโครงการ 700-800 ล้าน โดยแบรนด์INIZIOบริษัทวางแผนจะพัฒนาปีละ3 โครงการตามชานเมือง 2. THE KEY คอนโดมิเนียม ราคาเริ่มต้นที่1.5 - 2 ล้านบาท โดยกลุ่มเป้าหมายจะอยู่ระดับเดียวกับINIZIO ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง ใกล้แหล่งงาน โดยกระจายอยู่ใน 3 ทำเล คือ แจ้งวัฒนะ บนพื้นที่ 6 ไร่ สูง 21 ชั้น 2 อาคาร ขนาด 30-62 ตร.ม. จำนวน 988 ยูนิต , ทำเลพหลโยธิน พื้นที่ 6 ไร่ สูง 8 ชั้น 4 อาคาร ขนาด 33-66 ตร.ม. จำนวน 505 ยูนิต และประชาชื่น พื้นที่ 4 ไร่ สูง 12 ชั้น 2 อาคาร ขนาด 31-62.5 ตร.ม. จำนวน306 ยูนิต รวม 3 โครงการมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท โดยทั้ง 3 โครงการ บริษัทใช้สถาปนิกออกคนละราย เพื่อให้แบบมีความโดดเด่นไม่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งจากการสำรวจความต้องการของลูกค้าพบว่า90% ต้องการขนาดห้อง32-35 ตรม. และ 3. แบรนด์ โอกาส คอนโดมิเนียมไล่ระดับ ตั้งแต่ 3 ชั้นไปจนถึง7ชั้น โดยแต่ละชั้นจะมี3ยูนิตต่อชั้น เพื่อให้ดูโปร่งโล่ง โดยโครงการตั้งอยู่ หัวหิน ซอย1 บนพื้นที่ 17 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียม 7 อาคาร จำนวน 176 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอย 90-150 ตร.ม. ราคาประมาณ 90,000 บาทต่อ ตร.ม. หรือ 9 -12 ล้านบาท และมีวิลล่าอีก 6 หลัง ขนาด 300 ตร.ม.ขึ้นไป โดยอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดการขายได้ไตรมาส4 มูลค่าโครงการ1,700-1,800 ล้านบาท

“แบรนด์โอกาสถือว่าเป็นโครงการแรกที่บริษัทสร้างเป็นบ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัด ซึ่งในอนาคตน่าจะมีแบรนด์โอกาสไปเปิดในต่างจังหวัดอีก เพราะบริษัทยังมีที่ดินอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ อีกว่า10ไร่ บริเวณเขาเต่าอีก 20ไร่ซึ่งจะพัฒนา ภายใต้แบรนด์ โอกาส ส่วนการลงทุนในตลาดระดับล่าง อย่างคอนโดบีโอไอนั้น ยังไม่มีแผนจะเข้าไปพัฒนาเพราะเป็นแบรนด์ระดับล่างเกินไป ทำให้การดูแลค่อนข้างยุ่งยาก”นพรกล่าว

ในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ระดับราคา 1.5 ล้านบาท อีก 1 แบรนด์ ภายใต้ชื่อ INDY เพื่อเจาะตลาดระดับกลาง ในทำเล ประชาอุทิศ และบางนา เป็นต้น คาดว่าจะเปิดตัวในปลายปี2553 หรือต้นปี 2554

นอกจากนี้แลนด์ฯได้เปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มจากเดิมวางไว้ที่12-13 โครงการ เป็น19 โครงการในปีนี้ รวมแล้วแลนด์ ฯมีโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินทั้งหมด 49โครงการมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท โดยเป็นบ้านเดี่ยว 70 % คอนโดมิเนียมและทาวน์เฮาส์ 30% รวมทั้งลดระดับราคาจากเดิมที่เริ่มต้นเฉลี่ยที่3.6ล้านบาท เหลือเฉลี่ย 3.08 ล้านบาท โดยที่อยู่อาศัยต่ำกว่า3ล้านบาท มีสัดส่ว 10% ราคา3-5ล้านบาท 45% และ5ล้านบาท 45%

สำหรับแลนด์แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มี16 แบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภค ประกอบด้วย ลัดดาวัล 1 โครงการ ราคาขาย 20-100ล้านบาท นันทวัน 5โครงการ ราคาขาย6-20ล้านบาท มัณฑนา 7โครงการ ราคาขาย4-10ล้านบาท สีวลี 5โครงการ ราคาขาย4-8ล้านบาท ชัยพฤกษ์ 6โครงการ ราคาขาย 3.5-5ล้านบาท ชลลดา 2 โครงการ ราคาขาย 3.5-5ล้านบาท ปาริชาต 1 โครงการ ราคาขาย 3.5-5ล้านบาท พฤกษ์ลดา 5โครงการ ราคาขาย 3.5-5ล้านบาท Baan mai 6โครงการ ราคาขาย 2.6-5ล้านบาท The Terrace 1 โครงการ ราคาขาย 3.39ล้านบาทและ The Room 3 โครงการ ราคาขาย 4.3-12 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us