Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์25 กันยายน 2553
“Wealth Assistant” จุดยืนใหม่เอไลฟ์ ลบภาพขายประกันสู่ที่ปรึกษาด้านลงทุน             
 


   
search resources

Insurance
แอ๊ดวานซ์ไลฟ์ ประกันชีวิต, บจก




การผลักดันผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตไปสู่ตลาดที่เป็นกลุ่มเป้าหมายด้วยการใช้ตัวแทนขายเป็นสิ่งที่มีมานานแล้วในสังคมไทย บริษัทประกันบางแห่งอาจมีการพยายามยกระดับอาชีพตัวแทนให้ฟังดูดี โดยใช้คำว่าปรึกษาทางการเงินแทน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น แต่ในแง่วิธีการทำงานก็ดูเหมือนว่าจะไม่ต่างอะไรไปจากตัวแทนในยุคเดิมมากนัก

ปัจจุบันการสร้างความมั่งคั่งทางการเงินด้วยการลงทุนรูปแบบต่างๆ ได้กลายเป็นกระแสแพร่หลายที่คนให้ความสนใจมากขึ้น และผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตก็เป็นช่องทางในการลงทุนรูปแบบหนึ่ง โดยเป็นตลาดที่มีสามารถเติบโตได้อีกมากในอนาคต เพราะปัจจุบันมีสัดส่วนคนไทยที่มีการทำประกันชีวิตเพียงแค่ 25% จากจำนวนประชากรทั้งหมดเท่านั้น อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นธุรกิจที่ยังมีโอกาส แต่ก็เป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่น่าเชื่อถือในการตัดสินใจซื้อเป็นหลัก ทำให้บริษัทประกันชีวิตขนาดเล็กอย่างแอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต หรือ เอไลฟ์ ต้องวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมในการเข้าถึงลูกค้า ด้วยการวางโพสิชันนิงตัวเองให้แตกต่าง ที่ดูไม่เหมือนบริษัทประกันชีวิตทั่วไป

เอไลฟ์ เป็นธุรกิจประกันชีวิตของตระกูล “ดำเนินชาญวณิชย์” ในกลุ่มเกษตรรุ่งเรืองพืชผล และธุรกิจกระดาษดับเบิ้ลเอ ที่ก่อตั้งเมื่อ 13 ปีที่แล้ว และในปีที่ 13 ของธุรกิจหรือในปีนี้ เป็นปีที่บริษัทฯ ได้พยายามชูโพสิชันนิงของตัวเองจากบริษัทประกันชีวิตให้เป็น “ที่ปรึกษาการวางแผนทางการเงิน” อย่างครบวงจร

เมธี จันทวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ปรับโครงสร้างแนวคิดธุรกิจ เน้นไปที่การเป็นที่ปรึกษาการวางแผนทางการเงินให้แก่ลูกค้า เรียกว่า A-life Plan ซึ่งเป็นบริการด้าน Wealth Management ครอบคลุมทั้งด้านการสร้างความมั่งคั่ง (Wealth Creation) การปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน (Wealth Protection) และการบริหารจัดการกระแสเงินสด (Cash flow Management) เป็นแผนการเงินแบบ Tailor Made ที่มีการออกแบบให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายโดยเฉพาะ โดยมีการนำเสนอรูปแบบการลงทุนรูปแบบต่างๆ ที่ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตของบริษัทให้ลูกค้าเลือกลงทุนได้อย่างครบวงจร เช่น ประกันภัยต่างๆ กองทุนรวมประเภทตราสารเงิน ตราสารหนี้ ตราสารทุน RMF และ LTFซึ่งบริษัทเป็นนายหน้าขายกองทุนให้กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 7 แห่ง ได้แก่ บลจ.ยูโอบี, บลจ.กรุงไทย, บลจ.ไทยพาณิชย์, บลจ.แอสเซท พลัส, บลจ.ไอเอ็นจี, บลจ.เอ็มเอฟซี และบลจ.วรรณ ตัวสินค้านำเสนอที่หลากหลาย ทำให้เกิดบริการที่มีความแตกต่างเมื่อเทียบกับบริษัทประกันชีวิตทั่วๆ ไป

ในบริษัทประกันชีวิตแห่งอื่นจะใช้ตัวแทนคอยดูแลและให้คำแนะนำแก่ลูกค้า และมีผลตอบแทนเป็นคอมมิชชั่นมากน้อยขึ้นกับยอดขาย แต่สำหรับA-Life Plan จะใช้พนักงานของบริษัท ซึ่งมีเงินเดือนประจำ เรียกว่า ที่ปรึกษาทางการเงิน หรือ Wealth Assistant (WA) คอยดูแลลูกค้า ตั้งแต่ค้นหาเป้าหมายทางการเงินของลูกค้า วิเคราะห์ฐานะทางการเงิน จัดทำแผนการลงทุนหลายๆ รูปแบบ เพื่อนำเสนอให้ลูกค้าเลือกตามความเสี่ยงระดับต่างๆ ดูแลการออมและลงทุนของลูกค้าให้เป็นไปตามแผน มีการทำสรุปงบการเงินให้ลูกค้า เพื่อให้ทราบฐานะทางการเงินของตนเอง และมีการดูแลลูกค้าต่อเนื่องในระยะยาว ให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย A-Life Plan เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีฐานรายได้ 80,000-1 แสนบาทต่อเดือน และมีฐานภาษีอยู่ที่ 20% เป็นคนที่ไม่มีเวลาดูแลการลงทุนด้วยตัวเอง และคนที่เริ่มสร้างครอบครัวใหม่หรือมีแผนจะสร้างครอบครัว ซึ่งเริ่มคำนึงถึงความจำเป็นในการวางแผนทางการเงินเพื่อรองรับภาระที่มากขึ้นในอนาคต

“เราไม่ได้แนะนำแค่สินค้าการลงทุนอย่างเดียว แต่เรายังช่วยลูกค้าจัดระเบียบการเงินส่วนบุคคล ด้วยการวิเคราะห์ลึกถึงรายรับ รายจ่ายของลูกค้าในแต่ละเดือน ถ้าลูกค้าบางคนรายจ่ายมากเกินไป เราก็จะแนะนำให้ปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย เพื่อให้มีเงินเหลือเก็บสำหรับไปลงทุน เพื่อให้เกิดผลตอบแทนในอนาคต” เมธีกล่าว

ปัจจุบันเอไลฟ์มี Wealth Assistant 20 คน และปลายปีจะเพิ่มเป็น 30-35 คน เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้นจากเดิมที่มีอยู่กว่า 500 ราย โดยตั้งเป้าว่าจะขยายให้ถึง 100 คน บริษัทจะเน้นการสรรหาคนรุ่นใหม่ที่มีแบ็กกราวด์ความรู้ด้านการเงิน และมีบุคลิกดีเหมาะกับงานบริการ ซึ่งช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของเอไลฟ์ให้แตกต่างและเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ดีขึ้น และถือเป็นตัวช่วยที่ดีในยุคปัจจุบันที่มีช่องทางการลงทุนมากมาย จนทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้ยากในการเลือกช่องทางการลงทุนที่ดีที่สุดให้ตนเอง

ครึ่งปีแรกมีเบี้ยประกันรับรวม 203 ล้านบาท เติบโต 17.93% ปีนี้เอไลฟ์ตั้งเป้าว่าจะมีเบี้ยประกันรับรวม 600 ล้านบาท เติบโตขึ้น 18% มีมูลค่าสินทรัพย์บริหารจัดการรวม 1,000 ล้านบาท และภายใน 3 ปีข้างหน้าตั้งเป้าว่ามูลค่าสินทรัพย์ที่บริหารจัดการจะขยับขึ้นเป็น 20,000 ล้านบาทจากการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us