หน้าม้านไปตามกันสำหรับบริษัทรถยนต์ต่าง ๆ ที่คาดการณ์ผิดอย่างมหันต์ว่า
ร่องรอยแห่งความบาดเจ็บจากปัญหาต่าง ๆ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาคงไม่อาจปล้ำผีลุก
ปลุกผีนั่งให้ตลาดรถยนต์ปีเสือเป็นนี้ทีเสือจะหัวเราะได้ แม้แต่จอมวางแผนที่คุยว่าไม่เคยพลาดเช่นโตโยต้าก็ยังมีทีท่าหวั่นหวาดไม่กล้าโหมจริงจัง
แต่จากตัวเลขที่ออกมาในระยะ 7 เดือนแรกของปีกลับพลิกล็อกเป้าหมายอย่างป่นปี้สถิติการขายรถยนต์ทุกชนิดของค่ายต่าง
ๆ พุ่งสูงขึ้นราวปาฏิหาริย์ (ดูตารางประกอบ) จนเป็นเหตุให้หลายค่ายตอ้งเผชิญกับปัญหาใหม่ที่าสต็อกรถตามตัวแทนแต่ลแห่งแทบจะเป็นศูนย์
ต้งเร่งผลิตกันหามรุ่งหามค้ำเพื่อป้อนให้ทันกับความต้องการและป้องกันไม่ให้สินค้าขาดตลาดที่อาจทำให้เข้าใจไขว้เขวกันไปได้
ทว่าตัวเลขจะสวยหรูเพียงไรก็ไม่อาจเบิกรอยยิ้มของโตโยต้าให้สดใสเริงร่าอย่างแท้จริงได้
เนื่องจากบางส่วนของการขายได้ยังความชอกช้ำกล้ำกลืนเหลือสุดที่จะทนทานให้กับโตโยต้า
โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์กระบะขนาด 1 ตัน (รถปิ๊คอัพ) ที่ปรากฏผลว่า
ปีนี้ (อาจ) เป็นปีแรกที่แชมป์อย่างโตโยต้าต้องเสียแชมป์หนำซ้ำเป็นการสูญเสียชนิดทีแทบจะไม่เหลือหน้าเอาไว้ให้รักษากันเลย
ตัวเลขส่วนรถบรรทุกในระยะ 7 เดือนแรกโตโยต้าขายออกไปได้เพียง 11,914 คันขณะที่คู่แข่งที่สำคัญเปล่งปลั่งอย่างอีซูซุสามารถขายได้ถึง
14,918 คันหรือคิดเฉพาะรถปิ๊คอัพอีซูซุก็ขายได้มากกว่า 1,000 คันเทียบกับปีที่แล้วทั้งปีซึ่งโตโยต้าเอาชนะไปได้แค่
29 คันนั้น อกเอ๋ยแทบจะระเบิดแหลกเป็นจุล
โตโยต้าเองก็รับด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวแล้วว่า โอกาสที่จะพลิกฟื้นสถานะให้เป็นฝ่ายชนะหรือแพ้น้อยที่สุดคงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก
เพราะอีซูซุยังคงฟาดงวงฟาดงารุกานตลาดอยางไม่บันยะบันยังและไม่แน่นักว่าสัญญาณแห่งความพ่ายแพ้เช่นนี้อาจไม่เกิดขึ้นกับโตโยต้าเพียงปีเดียวเสียแล้ว
"ทีมงานขายของอีซูซุเขาฟิตหนักมาก กอปรกับได้เปรียบที่สามารถดึงการเมืองเข้ามาประคองตลาดให้เป็นไปอย่างเหมาะสมกลมกลืน
ก็เป็นที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าโตโยต้าแพ้ในปีนี้เป็นเพราะไม่มีรถปิ๊คอัพสองตอนเช่นเดียวกันอีซูซุสเปซแคบที่ดึงดูดความสนใจได้มาก"
คนในวงการเล่ากับ "ผู้จัดการ"
ดูเหมือนว่าโตโยต้าเองก็ล่วงรู้ถึงความหายนะที่เกิดขึ้นกับตนมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว
เพราะทันทีที่อีซูซุออกรถรุ่น "สเปซแคบ" พร้อมกับทุ่มเงินอัดฉีดโฆษณาในลักษณเปรียบเทียบสมรรถนะกับโตโยต้าไฮลักซ์ฮีโร่ชนิด
"หนึ่งต่อหนึ่ง" ก็ข่มขวัญโตโยต้าให้เสียวสันหลังวูบ
นอกจากราคาที่ประเดิมในท่วงท่าถูกกว่ากันไม่น้อย กับลักษณะการใช้งานที่เหลือกว่าเนื่องจาก
"สเปซแคบ" เป็นรถที่ดัดแปลงเป็นไปได้ทั้งรถเก๋งและรถปิ๊คอัพ แค่เหตุผล
2 ประากรนี้ก็ส่งหใอีซูซุมีโอกาสที่จะก้าวขึ้นไปเป็นจ้าวถนนได้อย่างไม่ยากเย็น
ในช่วงแรกที่อีซูซุเคลื่อนสเปซแคบออกมาขาย ด้านหนึ่งของการตั้งรับสำหรับแขฒป์เก่าอย่างโตโยต้า
นอกจากจะอัดรายการแจกสะบั้นแล้วก็ยังพยายามที่จะเปิดเกมทางการเมืองด้วยการจับมือร่วมกับค่ายสยามกลการเรียกรอ้งหใรัฐบาลมีการจัดเก็บภาษีรถรุ่น
"สเปซแคบ" ในอัตราร้อยละ 44 เช่นเดียวกับรถยนต์นั่งทั่ว ๆ ไปอีกด้วย
อนิจจังอนิจจา โตโยต้าอาจหลงลืมความจริงประการหนึ่งว่า ในรัฐบาลชุดนี้นั้นได้มีคีย์ตัวเบิ้มของอีซูซุเช่น
"พงส์ สารสิน" เข้าไปมีสวนร่วมกำหนดชะตามกรรมอยู่ด้วย ดังนั้นไม่วาจะออกแรงเรียกร้องเพียงไร
ความปรารถนาดีที่จะเข้าใจถึงความเดือดร้อนจึงเป็นไปได้แค่ความหวังในสายลม
"เราคงต้องยอมรับความจริงว่าแพ้เพราะรุ่นสเปซแคบแท้เทียว แต่คงไม่เสียใจมากนักคนที่มีหัวใจเป็นธรรมย่อมรู้ดีว่าเกมนี้มันบริสุทธิ์ยุติธรรมแล้วหรือ
เราเชื่อว่ารถรุ่นนี้คงอยู่ในตลาดได้ไม่นาน ให้ถึงวันนั้นเราจะกลับมาอีกนาน"
ผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งบอกเล่าราวกับปลอบใจตนเอง
สำคัญที่ว่ากว่าจะถึงวันนั้นสภาพของโตโยต้าในส่วนนี้คงไม่ยับยุ่ยไปเสียก่อน
ด้วยเหตุที่เกิดขึ้นในปีหนึ่งที่โตโยต้าไม่ต้องการให้มีอีกในปีต่อๆ ไป
ทำให้ทีมบริหารจากญี่ปุ่น่ต้องบินตรงมากถกและวางแผนงานอยางเคร่งเครียดกับฝ่ายบริหารที่อยู่ในเมืองไทยในรอบเดือนที่ผ่านมา
ซึ่งได้มีการกำหนดยุทธวิธีรุก รับทั้งสิ้น ยาวอย่างพิถีพิถัน
แผนระยะสั้นของโตโยต้ามีทางเลือกได้ 2 ทางคือ หนึ่งอาจจะมีการออกรถรุ่นใหม่เข้ามายับยั้งหายนะภัยไม่ให้ลุกลามมากขึ้น
โดยหวังที่จะใช้รถรุ่นใหม่ทำลายจุดเร้าของคู่ต่อสู้ สองพยายามเปิดแนวรบตลาดขายตรงประเภทฟีดใหญ่
ๆให้กับหน่วยงานราชการ เอกชนขนาดใหม่ให้มากยิ่งขึ้น โดยหวังที่จะทำตัวเลขรักษาหน้าไปพลาง
ๆ ก่อนซึ่งเดิมที่การขายรถอย่างนี้เคยมีดีลเลอร์เช่น เค.มอเตอร์ ของ พ.ต.ต.กมล
ชโนวรรณะ รับไปดำเนินการ
"เราทำเพราะเคยทำ" สมชาย พิไลพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายขายตรงกล่าชี้แจงว่ายุทธวิธีนี้ไม่มีอะไรเคลือบแฝงทั้งสิ้น
แค่คำชี้แจงกลับปรากฏการณ์ที่สะท้อนกลับมาไม่น่าเชื่อว่าเรื่องเดียวกันนี้ตอ้งกลาเยป็นหนามยอกอกไปเสียฉิบ
การที่โตโยต้าเพิ่มความรุนแรงในการขายตรงด้วยตนเองผลดีอาจผลักตัวเลขให้สูงขึ้นซึ่งดูแล้วไม่น่าเกลียดเกินไปนักถ้าจะต้องพ่ายแพ้คู่แข่ง
ทว่ายุทธวิธีนี้กลับเป็นรายการเชือดเนื้อดีลเลอร์ของตัวเองไปอย่างช่วยไม่ได้เพราะปกติดีลเลอร์หลายรายก็พยายามที่จะปฏิบัติหน้าที่นี้อยู่เช่นกัน
ผลกระทบที่ออกมาเป็นรูปธรรมมากที่สุด ในขณะนี้คือ การที่โตโยต้าสามารถประมูลขายรถให้กับหน่วยงานคุรุสภาพ
กระทรวงศึกษาธิการ ได้หลายพันคัน ความยิ้มระรื่นของบริษัทกลับเป็น "น้ำตาที่ตกใน"
ของดีลเลอร์ เนื่องจากรถที่ขายให้คุรุสภาพซึ่งจะขายผ่านไปให้ครูทั่วประเทศได้ใช้อีกทอดหนึ่งนั้นราคาขายทั้ง
2 ทอดนี้ยังไง ๆ ก็ยังต่ำกว่าราคาขายปลีกของดีลเลอร์อยู่ดีนั่นเอง
"ทีนี้พอครูคนหนึ่งซื้อไปในราคาขายตรง แล้วมีเพื่อนมาซื้อจากเราเขาก็บอกว่า
เอ๊ะทำไมราคาจึงแพงกว่ามากนัก จะให้ตอบอย่างไรดีล่ะบริษัทจะเข้าใจปัญหานี้ไหม
และอีกเรื่องหนึ่งคือว่าบางทีครูที่ซื้อต่อมาจากคุรุสภาพก็นำรถมาปล่อยขายทำให้เราต้องเจอคู่แข่งที่ไม่จงใจและมีความน่ากลัวเพิ่มขึ้น
ปัญหานี้ปล่อยให้ยืดเยื้อยาวนานเท่าไรก็มีผลเสียทั้งบริษัททั้งดีลเลอร์"
ดีลเลอร์รายหนึ่งบอกเล่าให้ฟัง
ปัญหานี้คงรุนแรงไม่ใช่เล่นไม่อย่างนั้นแล้วคงไม่ถูกนำมาเป็นเรื่องเร่งด่วนในการประชุมดีลเลอร์ทั่วประเทศเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาหรอก
และโตโยต้าเองคงทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่ได้แน่ที่ชี้แจงกลับไปยังดีลเลอร์ให้เข้าใจว่า
"บริษัทไม่มีเจตนาจะกลั่นแกล้ง" ขณะเดียวกันกับที่พฤติกรรมอย่างที่ว่ามายังคงผุดขึ้นที่นั่น
เกิดขึ้นที่นี่ไม่สร่างซ่า
เรื่องพรรค์อย่างนี้ความรู้สึกของคนไทยนั้นบอกว่า ต่อให้อมพระมาพูดก็ยังเชื่อไม่ได้
แล้วฤกษ์ดี 25 ปี ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่ชัยชนะขั้นเด็ดขาด และยิ่งใหญ่ของโตโยต้าก็ได้แต่หวังว่าปัญหานี้คงไม่ใช่น้ำผึ้งหยดเดียวที่นำไปสู่ความร้าวฉานระหว่างบริษัทดีลเลอร์จนยากที่จะประสานกันไม่ได้
หากเป็นเช่นนั้นฝันที่ยาวไกล ก็อาจไปไม่ถึง