สมาคมโรงแรมชี้ ไฮซีซั่นส์ปีนี้อัตราการเข้าพักมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ยังต่ำกว่าปีที่แล้ว ระบุเงินบาทแข็งค่าขึ้น ไม่ได้ส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรม เพราะเป็นราคาที่ตกลงกันล่วงหน้าแล้วกับเอเย่นต์

นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯประเมินว่าช่วงไฮซีซั่นส์ของวงการท่องเที่ยว (พ.ย. 53 - มี.ค. 54) อัตราการเข้าพักโรงแรมจะสูงขึ้นมากกว่าช่วงครึ่งปีแรก แต่คงไม่ดีมากเมื่อเทียบกับช่วงไฮซีซั่นส์ปีที่แล้ว เพราะว่าความไม่มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขณะนี้มักจะมีข่าวการวางระเบิดรายวันในกรุงเทพฯ

อย่างไรก็ตาม อัตราการเข้าพักในโรงแรมในกรุงเทพฯขณะนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 50% ส่วนยอดจองห้องพักช่วงไฮซีซั่นส์ยังไม่มี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรป ทั้งๆที่ปกติจะมียอดการจองเข้ามาบ้างแล้วในช่วงนี้ แต่คงต้องรอดูอีกสักระยะ 2-3 เดือนว่าจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง

ส่วนกรณีค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในเวลานี้ นายประกิจกล่าวให้ความเห็นว่า ภาวะดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบที่รุนแรงอะไรมากนักกับผู้ประกอบการโรงแรม เพราะว่าช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็มักจะจัดกิจกรรมโปรโมชั่นด้านราคากันอยู่แล้ว เช่น ซื้อ 1 แถม 1 ส่งผลต่อราคาห้องพักที่ลดลงมาต่อเนื่องเกือบ 50% แล้ว ซึ่งเมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นนั้น ก็ส่งผลต่อราคาห้องพักที่เมื่อแปลงมาเป็นเงินสกุลดอลล่าร์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ก็ยังเป็นราคาห้องพักที่ต่ำกว่ามากเมื่ออเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ จึงยังคงใช้เป็นข้อได้เปรียบในการดึงต่างชาติเข้ามาพักในไทยได้อีก

“ตอนนี้นักท่องเที่ยวต่างประเทศยังคงมีความกังวลในสถานการณ์บ้านเมืองของไทยอยู่พอสมควร ทำให้เราคงปรับราคาห้องพักขึ้นลำบาก อีกทั้งถ้าหากปรับราคาตอนนี้กว่าจะมีผลก็ประมาณ ปี 2555 เพราะราคาของปี 2554 นั้น ได้มีการตกลงระยะยาวกันไปแล้วกับกลุ่มเอเย่นต์และทัวร์ตั้งแต่เมื่อช่วงออกงานไอทีบีที่กรุงเบอร์ลิน เยอรมัน เดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยที่ยังคงเป็นราคาเดิมที่ไม่ได้ปรับจากปี 2553 แต่อย่างใด เมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงนี้ก็ไม่ได้ส่งผลดีอะไร เพราะว่าปกติทางโรงแรมจะมีการทำสัญญาราคาห้องพักล่วงหน้ากับเอเยนต์ก่อนแล้วประมาณ 1 ปี” นายประกิจกล่าว

ด้านนายสุรพล ศรีตระกูล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ขอวอนให้ภาครัฐหามาตรการและเร่งจัดการป้องกันเหตุร้ายต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวการวางระเบิดสถานที่ต่างๆ เพราะสิ่งเหล่านี้กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก ซึ่งสังเกตได้จากกรณีที่มีโทรศัพท์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติโทรเข้ามาสอบถามจำนวนมากถึงสถานการณ์ต่างๆ

“ผมยังคาดหวังว่า ปลายปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวไทยผ่านทางทัวร์ต่างๆจะเพิ่มมากกว่าปีที่แล้ว ถ้าหากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไรอีก ซึ่งตอนนี้ปรากฎว่ายังมีตัวเลขที่ไม่มากนัก” นายสุรพล กล่าวในที่สุด