|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ตลาดรถยนต์หลังผ่าน 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.2553) ทำได้ 488,088 คัน เพิ่มขึ้น 53.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ “โตโยต้า” ยังหวั่นพิษเงินบาทแข็ง กระทบสินค้าส่งออก บวกวิกฤตน้ำท่วม ลูกค้าชะลอส่งมอบรถช่วงเดือนกันยายน ด้านค่ายรถเกาหลีเตรียมเปิดตัวเอสยูวีใหม่ “โครานโด C200” พร้อมลงทุน 50 ล้านบาทปรับโชว์รูมกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนสิงหาคม 2553 ทำได้ 65,724 คัน เพิ่มขึ้น 52.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่าน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง28,118 คัน เพิ่มขึ้น 58.1% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 37,606 คัน เพิ่มขึ้น 47.7% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะราคายางพาราและมันสำปะหลัง ที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้กำลังการซื้อของเกษตรกรเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ตลาดรถยนต์สะสม 8 เดือนแรก มีปริมาณการขาย 488,088 คัน เพิ่มขึ้น 53.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 60.0% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 49.1% มาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่มีทิศทางดีขึ้น ประกอบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้น อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่เหมาะสม การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัทรถยนต์ต่างๆ และการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี
สำหรับตลาดรถยนต์ในเดือน กันยายนยังคงเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งตามสถิติการขายแล้ว เดือนกันยายนจะมียอดขายมากที่สุดในไตรมาส 3 ประกอบกับความนิยมต่อเนื่องในรถยนต์นั่ง และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์รุ่นใหม่ที่เพิ่งแนะนำเข้าสู่ตลาด ตลอดจนยังคงมียอดค้างส่งมอบในรถยนต์อีกหลายรุ่น แต่ทั้งนี้ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น อาจส่งผลกับการส่งออกสินค้าเกษตร และภาวะน้ำท่วมในพื้นที่หลายจังหวัดอาจทำให้ลูกค้าชะลอการรับมอบรถยนต์ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญส่งผลต่อตลาดรถยนต์ได้
ด้าน นายวิรัตน์ ผลประดับ ประธาน บริษัท ซันยอง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ซันยองจากประเทศเกาหลี เปิดเผยว่า การเติบโตของตลาดรวมที่มีผลมาจากการกล้าตัดสินใจจับจ่ายใช้สอยของภาคประชาชนภายหลังเหตุการณ์ทางการเมืองของประเทศเข้าสู่ภาวะปกติ สำหรับซันยองตั้งเป้าการขายปีนี้ไว้ 500 คัน และเชื่อมั่นว่า จะทำได้ตามเป้าหมายแน่นอน ทั้งนี้ บริษัทเตรียมแผนงานลุยตลาดในช่วงครึ่งปีหลังอย่างต่อเนื่อง ด้วยงบลงทุนเพิ่มอีกราว 50 ล้านบาท
“ตอนนี้เราอยู่ระหว่างเตรียมพร้อมกับรถยนต์ที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในปลายปีนี้ นั่นคือ ซันยอง โครานโด C200 เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดของซันยอง แบบขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลไทม์ เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอลเรล เทอร์โบ 175 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด คาดราคาขายประมาณ 1.7 ล้านบาท”
สำหรับงบประมาณ 50 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนเปิดโชว์รูมสาขาทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยในกรุงเทพฯ จะทำการปรับปรุงโชว์รูมซันยอง ลาดพร้าว ส่วนต่างจังหวัดเตรียมปรับโชว์รูมสาขา พัทยา และเชียงใหม่ พร้อมส่งผู้เชียวชาญทั้งด้านงานขายและบริการหลังการขาย เข้าไปดูแล รวมถึงอบรมเจ้าหน้าที่ ฝ่ายบริการ และช่างเทคนิค ในการเซอร์วิสซันยอง โครานโด C200
|
|
 |
|
|