Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2530








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2530
สงวน วงศ์สุชาต ผู้สร้างตัวด้วยตัวเอง             
 


   
search resources

Education
สงวน วงศ์สุชาต




ถ้าการที่ใครสักคนอายุ 30 ปี ก็สามารถมีทรัพย์สมบัติมูลค่าหลายสิบล้านบาท แต่มีเงินเพราะว่าเป็นทายาทของเศรษฐี ก้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาสนใจอะไรมากนักเพราะว่าคนแบบนี้เห็นกันออกดาษดื่นไปในสังคมไทยปัจจุบัน

แต่การที่คนหนุ่มอายุเพียง 30 ปี สร้างตัวด้วยตัวของเขาเองไม่ต้องพึ่งครอบครัว ใช้สมองของเขาเป็นหลัก ไม่ต้องไปแบกหาม ไม่ต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมทางการค้า คดโกงใคร อย่างที่รู้ ๆ กันสำหรับผู้มั่งคั่งบางคนในปัจจุบัน

เพียงแต่เขาให้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่ผ่านการสั่งสมมานานนับสิบปี เพื่อสร้างตัวสร้างฐานะ สร้างฐานทางธุรกิจของเขา ในปริมณฑลที่ไม่ค่อยมีนักธุรกิจคนไหนเข้าไปจับเพราะมีคำว่า "จรรยาบรรณ" และ "คุณธรรม" เข้ามาเป็นตัวสกัดกั้น

ยิ่งการที่เขาสามารถใช้ประสบการณ์ที่เหนือกว่าความรู้ที่เขามีอยู่ ไปสอนสั่งคนที่มีความรู้มากกว่าเขา หรือรู้เท่า ๆ กับเขาได้

จึงต้องสนใจเขาให้มาก ๆ ทีเดียว

สงวน วงศ์สุชาต คือคน ๆ นั้น

ปีนี้สงวน อายุ 41 เป็นเจ้าของโรงเรียนเสริมหลักสูตรที่กรุงเทพ และสาขาที่เชียงใหม่พิษณุโลก ขอนแก่น และหาดใหญ่

เป็นเจ้าของโรงพิมพ์และอุปกรณ์ทันสมัย ราคานับสิบ ๆ ล้าน

เป็นเจ้าของเครื่องคอมพิวเตอร์ไอบีเอ็มและแอปเปิ้ล นับร้อย ๆ เครื่อง

ทรัพย์สินที่เขาสร้างขึ้นมามาจากสมองและความชาญฉลาดของเขาเป็นหลัก

ถ้าสงวนได้เป็นนักร้องตามที่เขาใฝ่ฝันในตอนวันรุ่น เขาอาจจะไม่มีวันนี้

ถ้าเขาประกอบอาชีพตามบิดาของเขา เป็นช่างทำรองเท้า

วันนี้ก็คงไม่มีโรงเรียนเสริมหลักสูตร โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษและปัจจุบันยังเพิ่มเป็นโรงเรียนสอนคอมพิวเตอร์อีกต่างหาก

เขาเริ่มฉายแววเมื่อตอนที่เขาอายุ 17 สงวนชนะเลิศการสอบแข่งขันทั่วประเทศ จากผู้เข้าแข่งขันมากกว่าร้อยโรงเรียน

วันนั้นเป็นวันที่เขายินดีมากที่สุดวันหนึ่ง เพราะ "ผมได้รับรางวัลจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่สหัวในฐานะผู้ประสบความสำเร็จทางการศึกษา"

ว่ากันวาเพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เขาเลิกล้มความตั้งใจที่จะเป็นนักร้อง "มันไม่เหมาะกับผม"

หลังจากที่เขาจบจากโรงเรียนบพิตรพิมุข และเอ็นทรานส์เข้ารัฐศาสตร์จุฬาได้ดังหวังแล้วเขาได้กลับไปบพิตรพิมุขอีกครั้งหนึ่ง

ไม่ใช่ในฐานะนักเรียน แต่เป็นติวเตอร์ให้รุ่นน้อง เพราะเขาได้ผ่านการคัดเลือกจากโรงเรียนเก่า

นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของเขากับการก้าวไปเจ้าของโรงเรียนกวดวิชาในอนาคต

"นักเรียนประทับใจต่อการสอนของผมมาก" สงวนเคยเล่าให้ฟัง

เขาเปิดโรงเรียนกวดวิชาชื่อ "เสริมหลักสูตร" ขึ้นเป็นครั้งแรกที่สะพานควาย

มีนักเรียนตามมาเรียนกับเขาถึง 300 คน "ก็เป็นพวกที่เรียนกับเขาที่พิตรพิมุขนั่นแหละชวนเพื่อน ๆ มา" นักเรียนคนหนึ่ง-เล่าให้ฟัง

สงวนย้ายโรงเรียนเรื่อยมาเนื่องจากจำนวนนักเรียนมากขึ้นทุกวัน จากสะพานควายมาวงเวียนใหญ่ วังบูรพา และจบลงด้วยถนนมหรรณพ ใกล้ศาลว่าการกรุงเทพมหานคร

ซึ่งเป็นฐานใหญ่ของ "เสริมหลักสูตร"

ที่นี่เขาสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนกระทั่งถึงคนที่จะไปทำดอกเตอร์

ช่วงแรกที่เขาเน้นก็คือการสอนคอร์สเอ็นทรานส์ วิชาภาษาอังกฤษซึ่งเป็นปัจจัยชี้ขาดว่าใครจะได้เข้ามหาวิทยาลัยหรือไม่

แต่ปัจจุบันตัวที่ทำเงินให้เขามากที่สุดน่าจะเป็นคอร์สโทเฟิล นอกจากนี้เขายังมีคอร์สอื่น ๆ อีกมากมาย

สงวนนำเอาวิดีโอเข้ามาเป็นสื่อการสอนพวกแรก ๆ ก็ว่าได้

สมัยที่วิดีโอยังไม่แพร่หลายอย่างทุกวันนี้ เขาถ่ายวิธีโอการสอนไว้ทุกคนที่ไม่มีเวลาเรียนในรอบที่ฟิกซ์ไว้ได้ดู

นี่เป็นการเสนอเงื่อนไขที่ที่อื่นยังไม่มี ยังตามเขาไม่ทัน

นอกจากนี้สิ่งที่เขาได้ประโยชน์จากวิดีโออีกก็คือ เขานำหนังฝรั่งมาฉาย

เขาบอกว่าเพื่อเป็นการฝึกภาษาอังกฤษแก่ผู้ที่มาเรียน แต่ที่จริงมันก็คือการดึงดูดนักเรียนอีกทางหนึ่งนั่นเอง "ผมมาเรียนที่นี่ตอนนั้นก็เพราะเพื่อนเขาบอกว่าที่นี่ฉายหนังให้ดู" ศิษย์สงวนคนหนึ่งบอก

เมื่อถึงจุดหนึ่งที่เขาต้องขยายตัวเขาก็สามารถขยายสาขาโรงเรียนเสริมหลักสูตรไปต่างจังหวัดหลัก ๆ ไม่ว่าจะเป็น เชียงใหม่ หาดใหญ่ พิษณุโลก และขอนแก่น ที่กำลังขึ้นเอามาก ๆ

และวันนี้ก็ด้วยความเป็นคนที่ทันสมัยอยู่เสมอ

เมื่อถึงยุคที่คอมพิวเตอร์กำลังเฟื่องเขาก็ซื้อคอมพิวเตอร์นับร้อยเครื่อง ทั้งไอบีเอ็มเอทีและเอ็กซ์ที รวมทั้งแอปเปิ้ลรุ่นที่ดังที่สุด-แม็คอินทอช

เขาก็นำเอายุทธวิธีเดิมมาใช้อีก นั่นคือให้คนที่เรียนภาษาอังกฤษกับเขามีสิทธิเรียนคอมพิวเตอร์ฟรี

และแน่นอนถ้าจะเรียนขั้นสูงก็ไม่ฟรีอีกต่อไป

ทุกวันนี้เขายังเป็นเจ้าของโรงพิมพ์มูลค่าสิบ ๆ ล้าน ที่น่าประหลาดก็คือเขายังมีกิจการรับแจกใบปลิวด้วย โดย "มืออาชีพ" เขาบอกในใบปลิว

สงวนเป็นคนประเภท "เปอร์เฟคชั่นนิสท์" ต้องการสมบูรณ์แบบทุกอย่าง จนบางครั้งกลายเป็นคนขี้โม้เมื่อทำไม่ได้อย่างที่พูด

ความหวังขั้นสูงสุดที่เขาเคยบอกไว้คือ เขาจะเรียบเรียงพจนานุกรมขึ้นมาใช้ "เพราะที่มี ๆ อยู่ยังไม่ดีพอ" เขาเคยให้สัมภาษณ์หนังสือฉบับหนึ่ง

แต่เขาคงยังไม่มีเวลาพอเพราะทุกวันนี้เขายังเอ็นจอยกับการเมคมันนี่อยู่

เพราะเขาไม่ใช่ครูบาอาจารย์

เขาเป็นนักธุรกิจ เป้าหมายก็คือทำกำไรสูงสุด

เป็นกำไรสูงสุดบนพื้นฐานของ "คุณธรรม" และ "จรรยาบรรณ" ของอาชีพเรือจ้าง

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us