Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์10 กันยายน 2553
สตีเบล ส่ง Thank You Modelกินรวบตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นทุกเซกเมนต์             
 


   
search resources

สตีเบล เอลทรอน, บจก.
Electric




สตีเบลซอยเซกเมนต์ ขยายฐานคนรุ่นใหม่ ส่ง Thank You Model เจาะตลาดแมส ควบคู่ตลาดพรีเมียม พร้อมรุกตลาดทุกช่องทาง ทุ่ม 60 ล้านบาทอัดกิจกรรมการตลาด เดินหน้าชิงส่วนแบ่งการตลาดจากคู่แข่ง

แม้ประเทศไทยจะมีสภาพอากาศที่ร้อน แต่สมรภูมิเครื่องทำน้ำอุ่นกลับเติบโตสวนความรู้สึกของคนทั่วไป เนื่องจากบรรดาผู้ผลิตต่างชูฟังก์ชั่นอื่นๆ นอกเหนือจากการเป็นเพียงเครื่องทำน้ำอุ่น เช่น การใช้เครื่องทำน้ำอุ่นในการผ่อนคลายด้วยระบบแรงดันหลายระดับจากฝักบัว หรือการเจาะตลาดโครงการโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่มีทั้งเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำน้ำอุ่นให้กับลูกค้าในแต่ละยูนิต

ทั้งนี้ จากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคของสตีเบล เอลทรอน ที่มีมาก่อนหน้านี้พบว่าผู้ที่นอนห้องแอร์ ส่วนใหญ่จะอาบน้ำอุ่นในตอนเช้า สะท้อนให้เห็นว่าอากาศร้อนไม่ใช่ปัจจัยที่จะทำให้ตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นตกลงไป โดยเฉพาะสตีเบล ที่โฟกัสสินค้าเครื่องทำน้ำอุ่น ทำให้ต้องกระตุ้นยอดขายตลาดทั้งปี รวมถึงฤดูร้อนด้วย ขณะที่คู่แข่งทั้งแบรนด์ญี่ปุ่นและเกาหลี มีไลน์สินค้ามากมาย พอหมดจากฤดูหนาวก็โปรโมตผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ทำให้เป็นโอกาสในการช่วงชิงตลาดจากคู่แข่ง

สตีเบล เอลทรอน รุกตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจังในปี 2545 ซึ่งขณะนั้นมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 2% ต่อมาในปี 2549 ก็สามารถขยับส่วนแบ่งการตลาดขึ้นมาอยู่ที่ 20% เป็นอันดับที่ 2 ของตลาด แซง ชาร์ป ซึ่งขณะนั้นมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 10% ขณะที่ผู้นำตลาดคือพานาโซนิค มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 40% ปัจจุบัน สตีเบล สามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 33% โดยบริษัทยังเดินหน้าขยายฐานลูกค้าพร้อมเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดใหม่มากขึ้นด้วยการดำเนินกลยุทธ์ที่จะเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ผ่านช่องทางต่างๆมากขึ้น

ล่าสุด สตีเบล มีการซอยเซกเมนต์ตลาดออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่ม A เป็นเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีระดับราคา 5,000 บาทขึ้นไป กลุ่ม B มีระดับราคา 3,000-5,000 บาท และระดับ C มีราคา 1,500-3,000 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้สตีเบลไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นที่ราคาต่ำกว่า 3,000 บาท แต่จะใช้แบรนด์ AEG เจาะตลาดแมส โดยมีราคาต่ำกว่าแบรนด์สตีเบลเพียง 500 บาทเท่านั้น

อย่างไรก็ดี เนื่องจากสตีเบลวางตัวเองเป็นพรีเมียมแบรนด์ ดังนั้นจึงมีระดับราคาที่สูงกว่าคู่แข่ง 10% ในเซกเมนต์ A ส่วนเซกเมนต์ B และ C มีระดับราคาแพงกว่าคู่แข่งประมาณ 5-10% ทว่าบางรุ่นก็จะมีราคาไม่แตกต่างจากคู่แข่งมากนัก เพื่อขยายฐานลูกค้าที่มีกำลังซื้อไม่สูงมากนัก โดย สตีเบล ส่งเครื่องทำน้ำอุ่นรุ่น Thank you Model ในการขยายฐานระดับ C เพื่อรองรับผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่อยู่ระหว่างการสร้างฐานะ เช่น นักศึกษา และคนวัยทำงานตอนต้น หรือ First Jobber ซึ่งจะสร้างการรับรู้และยอมรับแบรนด์สตีเบล และเมื่อผู้บริโภคกลุ่มนี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีครอบครัว มีฐานะที่ดีขึ้น ก็จะเกิดการ Step Up ไปใช้เครื่องทำน้ำอุ่นรุ่นที่ดีขึ้นไปของสตีเบล ซึ่งมีฟังก์ชั่นการใช้งาน และดีไซน์ที่ดีกว่า รวมถึงราคาที่สูงกว่า ซึ่งช่วยสร้างมูลค่ายอดขายให้กับบริษัทมากขึ้นด้วย

นอกจากการขยายฐานคนรุ่นใหม่แล้ว สตีเบล ยังเจาะช่องทางต่างๆ มากขึ้น โดยร้านค้าตัวแทนจำหน่ายมีจำนวนหน้าร้านกว่า 100 ร้านค้า ซึ่งมีทั้งร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและร้านสุขภัณฑ์ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 30% ต่างจังหวัด 70% หากแบ่งตามเซกเมนต์ จะเป็นร้านที่จำหน่ายเครื่องทำน้ำอุ่นสตีเบลระดับ A 40 ร้านค้า ระดับ B 30 ร้านค้า และระดับ C อีก 30 ร้านค้า ส่วนช่องทางโมเดิร์นเทรดมีกว่า 80 สาขา ได้แก่ โฮมโปร โฮมเวิร์ค เพาเวอร์บาย บุญถาวร ตลอดจนช่องทางโครงการ ซึ่งปัจจุบันมีโครงการที่แอกทีฟกว่า 200 โครงการ เป็นโครงการใหญ่ๆ กว่า 30 โครงการ เช่น ศุภาลัย และควอลิตี้เฮ้าส์

ตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นแบ่งออกเป็นตลาดใหม่ 60% ตลาดรีเพลสเมนต์หรือการซื้อทดแทนเครื่องเก่า 40% ซึ่งปรกติเครื่องทำน้ำอุ่นมีอายุการใช้งานประมาณ 5-10 ปี โดยสตีเบล พยายามใช้กลยุทธ์ในการเอ็ดดูเคตผู้บริโภค ณ จุดขาย เพื่อให้เกิดการสวิตชิ่งแบรนด์มาใช้สตีเบล โดยปัจจัยในการเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นของผู้บริโภคจะคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ฟังก์ชั่นการใช้งาน และดีไซน์สินค้า

“บริษัทจะมีการใช้งบการตลาดกว่า 60 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดขายในปีนี้กว่า 480 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 10% โดยมีการส่งแคมเปญ “I Love Stiebel More & More” เป็นแคมเปญการตลาดใหม่ที่เราต้องการสร้างคุณค่าแบรนด์มากขึ้น โดยปีนี้เราเน้นกลยุทธ์การตลาดแบบครบวงจร หรือ IMC ทั้ง Above the Line และ Below the Line เพื่อสร้างการรับรู้และความจงรักภักดีให้กับแบรนด์ทั้งด้าน functional & emotional ผ่านสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ที่รวมถึงการใช้สื่อและช่องทางการสื่อสารใหม่ๆ อย่าง Facebook และ YouTube ตลอดจนการจัดกิจกรรมโปรโมชั่นร่วมกับดีลเลอร์และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นความต้องการของลูกค้าใหม่ๆ” นพพล ผาสุขดี ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด สตีเบล เอลทรอน เอเชีย กล่าว

ปัจจุบันตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นมีปริมาณความต้องการอยู่ที่ 360,000 เครื่อง คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท ทั้งนี้ จีเอฟเค บริษัทผู้วิจัยตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์คาดการณ์ว่า ตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นในปีนี้จะมีปริมาณความต้องการเพิ่มเป็น 512,000 เครื่อง คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท

“ปี 2553 นี้บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศต่างๆ ให้มากขึ้น ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และมุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคให้เกิดขึ้น ผ่านสินค้าและบริการ เพื่อให้ลูกค้าของเราเกิดความผูกผัน และสะท้อนแนวคิด “ยิ่งรู้จัก…ยิ่งรักยิ่งผูกพัน” เพื่อให้ สตีเบล เอลทรอน เป็นแบรนด์ในใจผู้บริโภค” โรลันด์ เฮิน กรรมการผู้จัดการ สตีเบล เอลทรอน เอเชีย กล่าว

ขณะที่พานาโซนิคก็มี iPlus Evolution Slim & Tall Design ที่ลดความกว้างลง 40% เพื่อประหยัดพื้นที่ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่อาศัยในคอนโดมิเนียมมากขึ้น ซึ่งมีพื้นที่จำกัด จึงต้องการสินค้าที่มีขนาดกะทัดรัดในการตอบสนองความต้องการดังกล่าว นอกจากนี้พานาโซนิคยังมีเครื่องทำน้ำอุ่นหลายขนาด ตั้งแต่ 3,500-10,000 วัตต์ โดยเฉพาะรุ่น DH-10BM1T 10,000 วัตต์ ที่สามารถกระจายน้ำไปสู่จุดต่างๆ ในบ้านได้หลายจุดด้วยเครื่องทำน้ำอุ่นเพียงตัวเดียว โดยล่าสุดดึง เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ เป็นพรีเซนเตอร์   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us