โฟร์โมสต์ เปิดเกมบุกตลาดนมพร้อมดื่ม ด้วยการจัดเซกเมนต์สินค้าตามช่วงอายุ เปิดตัวนม 3 แบบ สำหรับคน 3 วัย คือ โฟร์โมสต์คิด-สกูล-ทีน พลัส เพื่อกระตุ้นการดื่มนม หลังสำรวจพบคนไทยเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นจะหยุดดื่ม โดยตัวเลขการบริโภคนมของคนไทยอยู่ที่ 12 ลิตร/คน/ปี ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานของเอเชีย ไม่เพียงแต่การเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักเท่านั้น โฟร์โมสต์ยังเชื่อว่านวัตกรรมดังกล่าวจะช่วยเพิ่มอัตราการบริโภคนมของคนไทยเป็น 14-15 ลิตร/คน/ปี ภายใน 1-2 ปีนี้
ตลาดนมพร้อมดื่มในบ้านเราจัดว่าเป็นสมรภูมิขนาดใหญ่ที่การแข่งขันมีความรุนแรงตลอดเวลา โดยปัจจุบันมีมูลค่ารวมกันเกือบ 40,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น ตลาดนมพร้อมดื่มประเภทยูเอชทีกว่า 10,000 ล้านบาท ตลาดนมพร้อมดื่มประเภทพาสเจอไรซ์ 3,000 ล้านบาท ตลาดนมเปรี้ยวพร้อมดื่มมูลค่า 12,000 ล้านบาท และตลาดนมถั่วเหลืองอีก 12,000 ล้านบาท โดยแต่ละตลาดล้วนมีผู้นำยืนปักธงพื้นที่ของตนเองไว้อย่างชัดเจน นั่นคือ ดัชมิลล์ เจ้าของตำแหน่งแชมป์ตลาดนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม ไวตามิ้ลค์ ผู้นำตลาดนมถั่วเหลือง ซี.พี.เมจิ ผู้นำในฝั่งนมพร้อมดื่มพาสเจอไรซ์ ขณะที่เวทีนมพร้อมดื่มยูเอชทีตกเป็นของโฟร์โมสต์แบบขาดลอย
อันที่จริง ในทุกเวทีของตลาดนมพร้อมดื่มล้วนมีความเคลื่อนไหวและความน่าสนใจ แต่ในชั่วโมงนี้ ดูเหมือนว่านมพร้อมดื่มยูเอชทีจะเป็นเซกเมนต์ที่น่าตื่นเต้นและน่าจับตามองมากสุด ไม่ใช่เพราะเกิดการเปลี่ยนแชมป์ แต่เกิดจากแชมป์อย่าง “โฟร์โมสต์” ส่งนวัตกรรมใหม่เข้ามาเขย่าตลาด ซึ่งครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อปรับพฤติกรรมคนไทยให้ดื่มนมกันมากขึ้น ด้วยการทุ่มงบ 150 ล้านบาท นำเสนอ “นม 3 แบบ” สำหรับ “คน 3 วัย” ประกอบด้วย โฟร์โมสต์คิด สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน (อายุ 1-3 ปี) โฟร์โมสต์ สกูล เพื่อเด็กวัยเรียน (อายุ 4-12 ปี) และโฟร์โมสต์ทีนพลัส สำหรับวัยรุ่นถึงวัยผู้ใหญ่ (อายุ 13 ปีขึ้นไป) ซึ่งการแบ่งนมออกเป็นช่วงวัยนั้น ไม่เพียงแต่จะตอบโจทย์ด้านความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุเท่านั้น นวัตกรรมดังกล่าว ทางโฟร์โมสต์มั่นใจว่าจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคคนไทยดื่มนมมากขึ้นด้วย
“ผลการสำรวจพฤติกรรมคนไทย พบว่า เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นผู้บริโภคจะหยุดดื่มนม เพราะรู้สึกว่าเป็นเครื่องดื่มของเด็ก ต่างจากคนในประเทศอื่นที่ยังมีการดื่มนมในทุกช่วงอายุ ดังนั้น การแบ่งนมออกเป็นช่วงอายุ เชื่อว่าจะช่วยเอ็ดดูเคตให้คนไทยเข้าใจและมีการบริโภคนมมากขึ้นในทุกช่วงอายุ โดยแผนการตลาดครั้งนี้ถือเป็นโกลบอล สเกลที่เริ่มในไทยเป็นแห่งแรก” เป็นคำกล่าวของ มร.ฮ้านส์ เฮ้าสตร้า กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟรีสแลนด์ ฟู้ดส์ โฟร์โมสต์ (ประเทศไทย) จำกัด
โดยปัจจุบันคนไทยมีอัตราการบริโภคนมเฉลี่ย 12 ลิตรต่อคนต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่ามาตรฐานการบริโภคนมในเอเชียที่เฉลี่ย 14-15 ลิตรต่อคนต่อปี และต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับการบริโภคนมของคนในแถบยุโรปที่บริโภคประมาณ 215 ลิตรต่อคนต่อปี
นอกจากนี้ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ได้การตอบรับง่ายขึ้น ทางโฟร์โมสต์จึงเลือกลอนช์ออกมาใน 2 รสชาติก่อน คือ รสจืด และรสช็อกโกแลต เนื่องจากเป็น 2 รสที่มีสัดส่วนตลาดใหญ่สุดและได้รับความนิยมจากผู้บริโภคสูงสุดด้วย โดยเฉพาะรสจืด (White Milk) มีสัดส่วนถึง 65% ขณะที่นมแต่งกลิ่น (Flavor Milk) 35% เป็นสัดส่วนของรสช็อกโกแลตกว่าครึ่ง ซึ่งไม่เพียงแต่จะดึงกลุ่มลูกค้าเก่าได้เท่านั้น โฟร์โมสต์ก็ยังเชื่อว่าทั้งสองรสชาติดังกล่าวจะช่วยสร้างการตัดสินใจซื้อในกลุ่มลูกค้าใหม่ด้วย
สำหรับการเปิดเกมรบด้วย Segmentation by Age ในครั้งนี้ โฟร์โมสต์มั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคนมของคนไทยให้เพิ่มขึ้น โดยภายใน 1-2 ปี คาดว่าจะมีอัตราการบริโภคอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน คือ 14-15 ลิตรต่อคนต่อปี ขณะที่การเติบโตของโฟร์โมสต์ก็จะเติบโตขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลักด้วย โดยตอนนี้โฟร์โมสต์เป็นผู้นำตลาดนมยูเอชทีมูลค่า 10,000 ล้านบาท โดยตลาดดังกล่าวแบ่งเป็นเซกเมนต์ Main Stream 8,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 10% โฟร์โมสต์ เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 56.5% และเซกเมนต์นม Kid มูลค่า 2,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 6% โฟร์โมสต์ มีส่วนแบ่ง 30%
|