Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์9 กันยายน 2553
Segmentation by Age กลยุทธ์ ‘โฟร์โมสต์’ เพิ่มการดื่มนม             
 


   
search resources

โฟร์โมสต์ ฟรีสแลนด์ (ประเทศไทย), บจก.
Foremost
Dairy Product




โฟร์โมสต์ เปิดเกมบุกตลาดนมพร้อมดื่ม ด้วยการจัดเซกเมนต์สินค้าตามช่วงอายุ เปิดตัวนม 3 แบบ สำหรับคน 3 วัย คือ โฟร์โมสต์คิด-สกูล-ทีน พลัส เพื่อกระตุ้นการดื่มนม หลังสำรวจพบคนไทยเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นจะหยุดดื่ม โดยตัวเลขการบริโภคนมของคนไทยอยู่ที่ 12 ลิตร/คน/ปี ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานของเอเชีย ไม่เพียงแต่การเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักเท่านั้น โฟร์โมสต์ยังเชื่อว่านวัตกรรมดังกล่าวจะช่วยเพิ่มอัตราการบริโภคนมของคนไทยเป็น 14-15 ลิตร/คน/ปี ภายใน 1-2 ปีนี้

ตลาดนมพร้อมดื่มในบ้านเราจัดว่าเป็นสมรภูมิขนาดใหญ่ที่การแข่งขันมีความรุนแรงตลอดเวลา โดยปัจจุบันมีมูลค่ารวมกันเกือบ 40,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น ตลาดนมพร้อมดื่มประเภทยูเอชทีกว่า 10,000 ล้านบาท ตลาดนมพร้อมดื่มประเภทพาสเจอไรซ์ 3,000 ล้านบาท ตลาดนมเปรี้ยวพร้อมดื่มมูลค่า 12,000 ล้านบาท และตลาดนมถั่วเหลืองอีก 12,000 ล้านบาท โดยแต่ละตลาดล้วนมีผู้นำยืนปักธงพื้นที่ของตนเองไว้อย่างชัดเจน นั่นคือ ดัชมิลล์ เจ้าของตำแหน่งแชมป์ตลาดนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม ไวตามิ้ลค์ ผู้นำตลาดนมถั่วเหลือง ซี.พี.เมจิ ผู้นำในฝั่งนมพร้อมดื่มพาสเจอไรซ์ ขณะที่เวทีนมพร้อมดื่มยูเอชทีตกเป็นของโฟร์โมสต์แบบขาดลอย

อันที่จริง ในทุกเวทีของตลาดนมพร้อมดื่มล้วนมีความเคลื่อนไหวและความน่าสนใจ แต่ในชั่วโมงนี้ ดูเหมือนว่านมพร้อมดื่มยูเอชทีจะเป็นเซกเมนต์ที่น่าตื่นเต้นและน่าจับตามองมากสุด ไม่ใช่เพราะเกิดการเปลี่ยนแชมป์ แต่เกิดจากแชมป์อย่าง “โฟร์โมสต์” ส่งนวัตกรรมใหม่เข้ามาเขย่าตลาด ซึ่งครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อปรับพฤติกรรมคนไทยให้ดื่มนมกันมากขึ้น ด้วยการทุ่มงบ 150 ล้านบาท นำเสนอ “นม 3 แบบ” สำหรับ “คน 3 วัย” ประกอบด้วย โฟร์โมสต์คิด สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน (อายุ 1-3 ปี) โฟร์โมสต์ สกูล เพื่อเด็กวัยเรียน (อายุ 4-12 ปี) และโฟร์โมสต์ทีนพลัส สำหรับวัยรุ่นถึงวัยผู้ใหญ่ (อายุ 13 ปีขึ้นไป) ซึ่งการแบ่งนมออกเป็นช่วงวัยนั้น ไม่เพียงแต่จะตอบโจทย์ด้านความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุเท่านั้น นวัตกรรมดังกล่าว ทางโฟร์โมสต์มั่นใจว่าจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคคนไทยดื่มนมมากขึ้นด้วย

“ผลการสำรวจพฤติกรรมคนไทย พบว่า เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นผู้บริโภคจะหยุดดื่มนม เพราะรู้สึกว่าเป็นเครื่องดื่มของเด็ก ต่างจากคนในประเทศอื่นที่ยังมีการดื่มนมในทุกช่วงอายุ ดังนั้น การแบ่งนมออกเป็นช่วงอายุ เชื่อว่าจะช่วยเอ็ดดูเคตให้คนไทยเข้าใจและมีการบริโภคนมมากขึ้นในทุกช่วงอายุ โดยแผนการตลาดครั้งนี้ถือเป็นโกลบอล สเกลที่เริ่มในไทยเป็นแห่งแรก” เป็นคำกล่าวของ มร.ฮ้านส์ เฮ้าสตร้า กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟรีสแลนด์ ฟู้ดส์ โฟร์โมสต์ (ประเทศไทย) จำกัด

โดยปัจจุบันคนไทยมีอัตราการบริโภคนมเฉลี่ย 12 ลิตรต่อคนต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่ามาตรฐานการบริโภคนมในเอเชียที่เฉลี่ย 14-15 ลิตรต่อคนต่อปี และต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับการบริโภคนมของคนในแถบยุโรปที่บริโภคประมาณ 215 ลิตรต่อคนต่อปี

นอกจากนี้ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ได้การตอบรับง่ายขึ้น ทางโฟร์โมสต์จึงเลือกลอนช์ออกมาใน 2 รสชาติก่อน คือ รสจืด และรสช็อกโกแลต เนื่องจากเป็น 2 รสที่มีสัดส่วนตลาดใหญ่สุดและได้รับความนิยมจากผู้บริโภคสูงสุดด้วย โดยเฉพาะรสจืด (White Milk) มีสัดส่วนถึง 65% ขณะที่นมแต่งกลิ่น (Flavor Milk) 35% เป็นสัดส่วนของรสช็อกโกแลตกว่าครึ่ง ซึ่งไม่เพียงแต่จะดึงกลุ่มลูกค้าเก่าได้เท่านั้น โฟร์โมสต์ก็ยังเชื่อว่าทั้งสองรสชาติดังกล่าวจะช่วยสร้างการตัดสินใจซื้อในกลุ่มลูกค้าใหม่ด้วย

สำหรับการเปิดเกมรบด้วย Segmentation by Age ในครั้งนี้ โฟร์โมสต์มั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคนมของคนไทยให้เพิ่มขึ้น โดยภายใน 1-2 ปี คาดว่าจะมีอัตราการบริโภคอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน คือ 14-15 ลิตรต่อคนต่อปี ขณะที่การเติบโตของโฟร์โมสต์ก็จะเติบโตขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลักด้วย โดยตอนนี้โฟร์โมสต์เป็นผู้นำตลาดนมยูเอชทีมูลค่า 10,000 ล้านบาท โดยตลาดดังกล่าวแบ่งเป็นเซกเมนต์ Main Stream 8,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 10% โฟร์โมสต์ เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 56.5% และเซกเมนต์นม Kid มูลค่า 2,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 6% โฟร์โมสต์ มีส่วนแบ่ง 30%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us